OPPO เปิดตัว “OPPO Reno Series” สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุดในไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ภายใต้สโลแกน “Further Your Vision” ด้วยกล้องซูมขั้นสุดถึง 60 เท่าและเทคโนโลยี OPPO 10x Hybrid Zoom ซูม 10 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด มาพร้อมกล้องหน้าดีไซน์ล้ำ “Pivot Rising Camera” ด้วยเทคนิคซ่อนกล้องที่สมบูรณ์แบบ และสวยงาม เตรียมวางขาย 2 รุ่น พร้อมประกาศความสำเร็จครองอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนไทย สองไตรมาสติดต่อกัน
นายชานนท์ จิรายุกุล รองประธานกรรมการฝ่ายบริหารออปโป้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ข้อมูลล่าสุดจาก Counterpoint ชี้ว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา OPPO เป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมทั่วโลก ด้วยอัตราการเติบโตถึง 863% โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 6% ครองอันดับ 1 ใน 5 ของโลกอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ในประเทศไทยเอง OPPO ขึ้นครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนไทย สองไตรมาสติดต่อกัน ในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 และไตรมาสที่ 1 ปี 2562 โดยข้อมูลจาก Canalys นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าผู้บริโภคทั่วโลกและในไทยต่างให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ OPPO อย่างท่วมท้น
ในปีนี้ OPPO สานต่อความสำเร็จด้วยการก้าวเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ “OPPO Reno Series” สุดยอดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมด้วยนวัตกรรมอันล้ำหน้าและดีไซน์อันหรูหราที่ OPPO ได้มุ่งมั่นคิดค้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน Reno 5G เครื่องแรกที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรป และความพยายามในการเป็นแบรนด์แรกที่นำโทรศัพท์ 5G เข้าสู่ตลาดในไทย รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมซ่อนกล้องแบบ Stealth 3D Cameras ใน OPPO Find X และ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว Super VOOC Flash Charge ใน OPPO R17 Pro ไปจนถึงเทคโนโลยี 10x Hybrid Zoom โดย OPPO จะไม่หยุดยั้งอยู่เพียงเท่านี้ ในปีนี้ OPPO วางแผนลงทุนถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกมาสู่ผู้บริโภค
ดีไซน์อันหรูหราที่เป็นนิยามความสวยงามของความสมมาตรและสมดุล
OPPO Reno Series ออกแบบให้ดีไซน์ตัวเครื่องทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้สัมผัสที่เรียบหรู เป็นธรรมชาติและไร้รอยต่อ ออกแบบให้กล้องหลังไม่นูนขึ้นมา โดยซ่อนกล้องหลังไว้ใต้ฝาหลังที่เป็นกระจก 3D แบบชิ้นเดียว ทำให้ดีไซน์ของบอดี้ตัวเครื่องมีความสมบูรณ์แบบและแตกต่างไม่ซ้ำกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในตลาด รวมไปถึงการวางตำแหน่งจุดเซรามิก O-dot ที่ด้านหลังของเครื่องราวกับอัญมณีที่สวยงามเพื่อยกเลนส์กล้องขึ้นมาและปกป้องพื้นผิวเลนส์เมื่อวางสมาร์ทโฟนบนพื้นเรียบ
อีกไฮไลท์ที่สำคัญ คือ ดีไซน์สุดล้ำครั้งแรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนด้วย “Pivot Rising Camera” เทคนิคการซ่อนกล้องหน้า, ไฟ Front – facing soft light, ลำโพง และแฟลชหลัง พร้อมเปิดใช้งานด้วยการสไลด์ขึ้นทำมุมที่ดีที่สุด 11 องศาในเวลาเพียง 0.8 วินาที ไร้เสียง พร้อม Free-Fall Detection กลไกการเก็บกล้องอัตโนมัติหากโทรศัพท์หล่น ผ่านการทดสอบมาอย่างจริงจัง มากกว่า 200,000 ครั้ง ซึ่งการดีไซน์ในลักษณะนี้ทำให้ OPPO Reno 10x Zoom มีอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอถึง 93.1% แบบ Panoramic Screen ให้ได้ดื่มด่ำด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ที่สามารถแสดงผลของสีได้เหมือนกับที่ตาเห็นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 8% โดยหน้าจอครอบทับด้วย กระจก Corning Gorilla Glass 6 ที่มีความแข็งแรง และสามารถกรองแสงสีฟ้าได้มากถึง 56% ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland
บรรทัดฐานใหม่ของกล้องบนสมาร์ทโฟน
ในรุ่น OPPO Reno 10x Zoom ทำให้ผู้ใช้ก้าวข้ามขีดจำกัดของทุกการถ่ายภาพ ด้วยกล้อง 3 ตัว ทั้งกล้องหลักความละเอียด 48MP เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13MP และเลนส์ Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8MP ที่มาพร้อมการซูมขั้นสุดถึง 60 เท่าและเทคโนโลยีล่าสุด OPPO 10x Hybrid Zoom ที่สามารถซูม 10 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด มอบแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไร้ขีดจำกัด
อัดแน่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายภาพอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Ultra Night Mode 2.0 ให้คุณเก็บภาพยามค่ำคืนได้ครบทุกรายละเอียด โหมด Dazzle Color 2.0 ทำให้สีของภาพถ่ายดูสดใสและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการคืนค่าสีจริง ในสภาพแสงสลัวหรือแสงน้อย เช่น ร้านกาแฟ และร้านอาหารที่ใช้แสงสีเหลือง
ยืนหนึ่งเรื่องความเร็วเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่บนสมาร์ทโฟน
นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหราสวยงามและกล้องทรงพลังแล้ว ภายใน OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมขุมพลังขั้นสุด Snapdragon 855 และ RAM 8GB ROM 256GB เพื่อตอบสนองการใช้งานทุกด้านเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานถึง 45% และระบบ Cooling 3 ชั้นช่วยลดอุณหภูมิเครื่อง ที่สำคัญแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4065 mAh ที่มาพร้อม VOOC 3.0 ใหม่ล่าสุด ช่วยลดเวลาในการชาร์จ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเล่นเกมไปด้วย ชาร์จไปด้วย โดยที่เครื่องไม่ร้อนเกินไป อีกทั้งยังให้ประสบการณ์การเล่นเกมและเปิดแอพพลิเคชั่นรวดเร็วกว่าที่เคยด้วย HyperBoost 2.0 ซึ่งประกอบไปด้วย FrameBoost และ TouchBoost สามารถรองรับการเล่มเกมใหญ่ได้อย่างง่ายดาย และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้อย่างลื่นไหลไร้สะดุด
OPPO Reno Series นับเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์สมาร์ทโฟนของแท้ ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ให้ดื่มด่ำกับเสียงไพเราะคุณภาพสูงขณะชมความบันเทิงต่างๆ ตลอดจนถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงระดับ Super HD 4K ที่ 60 fps ได้นิ่งสนิทเสมือนไม่เคลื่อนไหวด้วยระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Dual OIS ร่วมกับการบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟน 3 ตัวทำงานร่วมกับ Audio Focus ที่จะจับเสียงขณะกำลังถ่ายอยู่ได้อีกด้วย
โดยภายในงานเปิดตัว OPPO Reno Series ได้รับเกียรติจาก 3 ช่างภาพชื่อดังที่มาโชว์ผลงานภาพถ่ายด้วย OPPO Reno Series ที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และมุมมองสุดแปลกตา ไม่ว่าจะเป็น รัมภาพร วรสีหะ ช่างภาพสถาปัตยกรรม, ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ ช่างภาพแลนด์สเคป และ ตะวันวาด วนวิทย์ ช่างภาพสตรีท ที่มาร่วมกันแนะนำเทคนิคการสรรสร้างภาพถ่ายให้สวยงามด้วยนวัตกรรมกล้องสุดล้ำบน OPPO Reno Series
“ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำดังกล่าวและดีไซน์อันประณีตสมบูรณ์ ทำให้ OPPO Reno Series คือสมาร์ทโฟนที่จะมาสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แก่สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง และเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่านี่จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผลักดันวิสัยทัศน์ให้กับผู้ใช้และเป็นเครื่องมือในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคทั่วโลก” คุณชานนท์กล่าวปิดท้าย
OPPO Reno Series เปิดตัวแล้ว 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno 10x Zoom ในราคา 28,990 บาท และ OPPO Reno ในราคา 16,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Ocean Green อันเป็นเฉดสีที่ผสมผสานกับสีเขียวของน้ำทะเลเมื่อจ้องมองพื้นผิวของทะเล และสี Jet Black สีดำที่มีผิวสัมผัสเงาสะท้อน พร้อมวางจำหน่ายทั่วประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและผู้จัดจำหน่ายทั่วประเทศ
สำหรับลูกค้าที่สั่งจอง OPPO Reno 10x Zoom ในช่วง Pre-Order ตั้งแต่ 4-14 มิถุนายนนี้ รับของแถมสุดพรีเมี่ยม ได้แก่ Diamond Card มูลค่า 9,000 บาท ด้วย International warranty service พร้อมทั้ง Replacement Service บริการเปลี่ยนเครื่อง เมื่อเครื่องมีปัญหา และ ขาตั้งกล้อง มูลค่า 2,000 บาท และหากสั่งจอง OPPO Reno ลูกค้าจะได้รับ Premier Card มูลค่า 5,000 บาท
สำหรับลูกค้า AIS และ True ที่สั่งจอง OPPO Reno 10x Zoom ในช่วง Pre-Order ตั้งแต่ 4-13 มิถุนายนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 8,990 บาท และดีแทคราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/oppothai/