Huawei ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังจากถูกสหรัฐฯ สั่งแบน ทำให้ไม่สามารถทำการค้าร่วมกับบริษัทในอเมริกาได้ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ ซึ่งนั่นหมายถึงสมาร์ทโฟนในอนาคตของ Huawei จะไม่สามารถใช้ระบบปฏิบัติการ Android จาก Google ได้ แต่บริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนมีแผนสำรองเอาไว้แล้ว
ถึงแม้อุปกรณ์ของ Huawei ในอนาคต จะไม่สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android ได้ แต่ Huawei ก็เตรียมระบบปฏิบัติการของตัวเองเอาไว้แล้ว (รายงานก่อนหน้านี้ อ้างว่าจะใช้ชื่อ Hongmeng OS แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะใช้ชื่อนี้จริงหรือไม่) Richard Yu ซีอีโอของ Huawei Consumer Business Group เปิดเผยว่าระบบปฏิบัติการของ Huawei ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างทางการ แต่จะสนับสนุนแอพพลิเคชั่นของ Android อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น จะสามารถรันแอพ Android ได้เร็วขึ้น 60% และสามารถติดตั้งลงในสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์, ทีวี, อุปกรณ์สวมใส่ รวมไปถึงรถยนต์
คาดว่า ระบบปฏิบัติการของ Huawei จะพร้อมเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ และสมาร์ทโฟนระดับเรือธง Huawei Mate 30 อาจได้ใช้งานเป็นรุ่นแรก แต่จะถึงมือผู้บริโภคในปี 2020
นอกจากระบบปฏิบัติการ แหล่งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ Huawei ถูกอ้างว่า กำลังเจรจากับ Aptoide ซึ่งเป็นแหล่งดาวน์โหลดแอพในโปรตุเกส มีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านคน และมีแอพพลิเคชั่นกว่า 900,000 รายการ จึงมีทางเป็นไปได้ที่ Huawei จะเลือกใช้แพลตฟอร์มของ Aptoide มาแทนที่ Google Play Store
ด้านซอฟต์แวร์อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับ Huawei แต่ด้านฮาร์ดแวร์ Huawei ต้องพบกับความยากลำบาก เนื่องจากบริษัท Intel, Qualcomm และ Broadcom ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่สำคัญ ถูกบังคับให้ตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับ Huawei ด้วย ถึงแม้ Huawei จะมีคลังฮาร์ดแวร์ของตัวเอง แต่ก็ยังต้องมองหาบริษัทใหม่เพื่อผลิตฮาร์ดแวร์ให้กับ Huawei
ถ้าหาก Huawei เลือกใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถสนับสนุน Google Play Services ซึ่งจะส่งผลให้อุปกรณ์ของ Huawei ไม่ได้รับการอัพเดทแพตช์ความปลอดภัยของ Android เนื่องจากไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Android Open Source Project
สรุปแล้ว Huawei ยังสามารถขับเคลื่อนธุรกิจสมาร์ทโฟนของตัวเอง ให้เดินหน้าต่อไปได้ ถึงแม้จะถูกแบนจากสหรัฐฯ แต่ทางข้างหน้าจะพบกับความยากลำบากมากกว่าเดิมหลายเท่า และส่งผลกระทบกับเป้าหมายที่ Huawei หวังว่าจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟน
ที่มา – AndroidAuthority
https://www.flashfly.net/wp/252029