วันนี้ Apple® เปิดตัว iPad Air ®แบบใหม่หมดในดีไซน์ 10.5 นิ้ว ที่บางเฉียบ พร้อมด้วยนวัตกรรมล่าสุดอย่างการรองรับApple Pencil®1 และประสิทธิภาพอันเหนือชั้นในราคาสบายๆ นอกจากนี้ยังมีชิพ A12 Bionic ที่มาพร้อม Neutral Engine ของ Apple ทำให้ iPad Air มีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง70% และกราฟิกแรงขึ้นอีกสองเท่า ส่วนจอภาพ Retina® อันล้ำสมัยพร้อมการแสดงผลแบบ True Tone® ก็ใหญ่ขึ้นเกือบ 20% ด้วยจำนวนพิกเซลมากขึ้นอีกกว่า 5 แสนพิกเซล2
วันนี้ Apple เปิดตัว iPad mini® รุ่น 7.9 นิ้ว ใหม่ ซึ่งถือเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่สำหรับแฟนๆ iPad mini ที่ชื่นชอบดีไซน์อันกะทัดรัดและพกพาแสนสะดวก แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดมากมาย อย่างชิพ A12 Bionic ที่ทำให้ iPad mini กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับการทำงานแบบมัลติทาสก์อันทรงพลัง ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น 3 เท่า และกราฟิกที่เร็วขึ้นถึง 9 เท่า3 ส่วนจอภาพ Retina อันล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมการแสดงผลแบบ True Tone และรองรับขอบเขตสีกว้างก็สว่างขึ้นอีก 25%3 และมีพิกเซลหนาแน่นที่สุดในบรรดาiPad® จึงพร้อมมอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่มสมจริงในทุกสภาพแสง ยิ่งกว่านั้นยังรองรับ Apple Pencil1 อีกด้วย iPad mini ใหม่ จึงเป็นสมุดโน้ตที่เหมาะสำหรับการพกพาติดตัวไปได้ทุกที่เพื่อใช้สเก็ตช์ภาพและจดบันทึกไอเดียขณะเดินทาง โดย iPad ใหม่ทั้งสองรุ่นพร้อมให้สั่งซื้อแล้ววันนี้ และจะวางจำหน่ายในร้านในสัปดาห์หน้า
“iPad mini ยังคงมอบประสบการณ์ใหม่ๆ อันน่ามหัศจรรย์สำหรับการใช้งานอีกมากมายหลายด้านที่ไม่มีอุปกรณ์ไหนเทียบเคียงได้ ตั้งแต่การเล่นเกมในรูปแบบความจริงเสริมจนถึงการจดโน้ตและวาดรูปด้วย Apple Pencil หรือตั้งแต่การสตรีมภาพยนตร์ HD และตัดต่อวิดีโอ 4K จนถึงการเรียนรู้เรื่องการพัฒนาแอพด้วย Swift Playgrounds”
Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “วันนี้ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPad ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ไปอีกสองก้าวด้วย iPad Air รุ่น 10.5 นิ้ว แบบใหม่หมดที่เหนือชั้นทั้งในด้านขนาด คุณสมบัติ และประสิทธิภาพในราคาสบายๆ รวมถึงการอัพเกรดครั้งใหญ่สำหรับ iPad mini รุ่น 7.9 นิ้ว ที่รองรับ Apple Pencil และมาพร้อมจอภาพ Retina รวมถึงชิพ A12 Bionic สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบขนาดกะทัดรัดของรุ่นนี้”
Apple Pencil และ iPad — คู่หูที่ลงตัว
Apple Pencil เปิดโอกาสความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์และการทำงานสำหรับทั้งผู้ใช้ iPad Air และ iPad mini ตั้งแต่การวาดรูปและจดบันทึกไอเดีย จนถึงการทำเครื่องหมายบนเอกสารและการปรับแต่งรูป เรียกได้ว่านี่คือเครื่องมือที่ต้องมีสำหรับนักเรียน มืออาชีพ และคนทำงานด้านครีเอทีฟ เพราะให้ประสบการณ์ในการวาดที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มีความแม่นยำถึงระดับพิกเซล และมีความหน่วงต่ำเหมาะสำหรับการใช้งานในแอพยอดนิยมอย่าง Procreate, Notability, Pixelmator Photo (เร็วๆ นี้) และ Microsoft Office
ชิพ A12 Bionic ลงตัวทั้งเรื่องพลังและความสะดวกในการพกพา
Neural Engine ที่ออกแบบโดย Apple ในชิพ A12 Bionic คือขุมพลังขับเคลื่อนแอพและเวิร์กโฟลว์ในยุคต่อไปของ iPad โดยใช้การเรียนรู้ของระบบและ Core ML ที่ล้ำสมัยเพื่อมอบประสบการณ์ AR อันตื่นตา, เอฟเฟ็กต์ภาพที่สมจริงในเกม 3D และประสิทธิภาพด้านกราฟิกอันน่าทึ่งในแอพต่างๆ
วันนี้ iPad mini และ iPad Air เชื่อมต่อได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ LTE ระดับ Gigabit อันยอดเยี่ยม4 ไม่ต่างจากใน iPad Pro รุ่นที่ล้ำหน้าที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี eSIM ที่ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับแผนบริการข้อมูลไร้สายได้ทันทีจากใน iPad เมื่อเดินทางไปประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 180 ประเทศ5
กล้องสุดล้ำเพื่อรูปภาพและวิดีโอที่สวยสดงดงาม
iPad mini และ iPad Air มาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลังสุดล้ำที่ถ่ายรูปได้สวยงามสะดุดตา และบันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ได้นิ่งและคมชัด โดยมีการอัพเกรดกล้องให้ทำงานได้ยอดเยี่ยมในสภาวะแสงน้อย และสามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD จึงเหมาะสำหรับการสแกนเอกสารและคุยกับเพื่อนด้วย Group FaceTime® และเมื่อใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์อันล้ำสมัยแล้ว ก็ช่วยเปิดโลกแห่งประสบการณ์ AR ที่เต็มอิ่มสมจริง
มีแอพมากกว่าหนึ่งล้านแอพสำหรับ iPad โดยเฉพาะ
App Store® คือที่ที่ดีที่สุดที่คุณจะได้ค้นพบแอพมากกว่า 1.3 ล้านแอพซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ iPad ตั้งแต่การจดบันทึกด้วย Apple Pencil ไปจนถึงการจัดตารางงานและการเงิน การปรับแต่งรูปภาพ การเรียนรู้ การติดต่อกับเพื่อนๆ และครอบครัว รวมถึงการเล่นเกมต่างๆ นอกจากนี้แอพที่ออกแบบมาเพื่อ iPad นั้นจะทำงานบน iPad ทุกเครื่องได้อย่างสวยงาม ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่นำแอพบนมือถือมาขยายขนาด
iOS บน iPad
iPad Air และ iPad mini เหมาะสำหรับการพกพาไปทำงานระหว่างเดินทางด้วย iOS และยังช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ เสร็จได้เร็วขึ้นด้วยคุณสมบัติอย่างคำสั่งลัด Siri, การค้นหารูปภาพ และแอพเสียงบันทึก Dock ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงแอพและเอกสารที่ใช้บ่อยได้จากทุกหน้าจอ และทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ง่ายๆ ด้วย Split View และ Slide Over ส่วนการลากแล้วปล่อยก็ทำให้สามารถย้ายรูปภาพ ข้อความ และไฟล์ไปมาระหว่างแอพได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย ในขณะที่การจัดการเอกสารในแอพไฟล์นั้นก็ง่ายและไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นบนiPad หรืออุปกรณ์ Apple อื่นๆ
วันนี้ Apple ประกาศว่า iWork® สำหรับ iOS จะได้รับการอัพเดทใหม่ให้ผสานรวมกับ Apple Pencil ได้ดียิ่งขึ้นและจะเปิดให้ดาวน์โหลดในสัปดาห์หน้า โดยครั้งนี้มาพร้อมกับตัวเลือกแอนิเมชั่นใหม่ๆ ใน Keynote ที่ให้ผู้ใช้วาดภาพแอนิเมชั่นสำหรับวัตถุใดก็ได้ รวมถึงอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบใหม่หมดที่จะช่วยให้การปรับใช้เอฟเฟ็กต์ฉาก อย่างการย้าย การหมุน และการปรับขนาดเป็นไปอย่างง่ายดาย
ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPad ที่สมบูรณ์แบบและยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา
iPad Air และ iPad mini ใหม่เข้ามารวมกลุ่มกับ iPad รุ่น 9.7 นิ้วที่ราคาย่อมเยาที่สุด และ iPad Pro® ที่ทรงพลังที่สุดของเรา นั่นทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ยอดเยี่ยมและล้ำหน้ายิ่งกว่าที่เคย ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPad ทั้งหมดสามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้แล้ว ทั้งยังมาพร้อมประสิทธิภาพชั้นเยี่ยม จอภาพสุดล้ำ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน6เพื่อมอบประสบการณ์เหนือชั้นในแบบที่อุปกรณ์อื่นไม่สามารถให้ได้ ดังนั้น ไม่ว่าลูกค้าจะให้ความสำคัญกับความสะดวกในการพกพา ขนาดหน้าจอ พลังหรือราคา มี iPad ที่เหมาะสำหรับทุกคนอย่างแน่นอน ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ได้ที่ apple.com/th/ipad/compare
ราคาและการวางจำหน่าย
- iPad mini และ iPad Air ใหม่มาในสีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ และสีทอง ในรุ่นความจุ 64GB และ 256GB iPad mini ใหม่ราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ18,400 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular และ iPad Air ขนาด 10.5 นิ้วราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาทสำหรับรุ่น Wi-Fi และ 22,400 บาทสำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ที่apple.com/th, ในแอพ Apple Store และ Apple Store นอกจากนี้ยังวางจำหน่ายทางตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางราย(ราคาอาจแตกต่างออกไป)
- iPad รุ่นใหม่จะพร้อมให้สั่งซื้อตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบน apple.com และในแอพ Apple Store ใน ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, แคนาดา, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป iPad รุ่นใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศและภูมิภาคดังกล่าว รวมทั้งในจีน(รุ่น Wi-Fi เท่านั้น), มาเก๊า(รุ่น Wi-Fi เท่านั้น) และเม็กซิโก โดยจะวางจำหน่ายในประเทศและภูมิภาคอื่นๆ ในภายหลัง ได้แก่ โคลอมเบีย, กรีซ, อินเดีย, อิสราเอล, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, แอฟริกาใต้, ไทย(รุ่น Wi-Fi เท่านั้น)และตุรกี
- Apple Pencil (รุ่นที่ 1) วางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 3,400 บาท Smart Keyboard สำหรับ iPad Air รุ่น 10.5 นิ้ววางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 5,900 บาท พร้อมเลย์เอาท์มากกว่า 30 ภาษา รวมถึงภาษาจีนตัวย่อ ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และสเปน
- Smart Cover แบบโพลียูรีเทนมีวางจำหน่ายในราคา 1,590 บาท สำหรับ iPad mini และ 2,290 บาท สำหรับ iPad Air ในสีเทาชาร์โคล สีขาว สีชมพูพิงค์แซนด์ และสีใหม่คือ สีส้มมะละกอ นอกจากนั้นยังมี Smart Cover แบบหนังสำหรับ iPad Air ในราคา 2,990 วางจำหน่ายในสีดำ สีน้ำตาลอานม้า สีมิดไนท์บลู และสีแดง
- นำอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์มาแลกรับเครดิตสำหรับใช้ซื้อเครื่องใหม่ในครั้งถัดไป หรือรับบัตรของขวัญ Apple Store ซึ่งสามารถใช้เมื่อใดก็ได้7 แต่หากอุปกรณ์ของคุณไม่เข้าเกณฑ์ในการแลกรับเป็นเครดิต Apple จะรีไซเคิลให้ฟรี
- ลูกค้าทุกคนที่ซื้อ iPad จาก Apple จะได้รับบริการตั้งค่าแบบส่วนตัวในร้านหรือทางออนไลน์ฟรี และรับคำแนะนำเพื่อช่วยปรับแต่ง iPad ให้เหมาะกับการใช้งานของตนการตั้งค่าอีเมล การค้นหาแอพใหม่ๆ จาก App Store และอีกมากมาย
- ผู้ที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติมหรืออยากใช้งาน iPad หรือ iOS 12 ให้เต็มที่ยิ่งขึ้น สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม Today at Apple ได้ฟรีที่ apple.com/th/today