OPPO ก้าวข้ามปี 2018 มายังปี 2019 ได้อย่างสวยงาม ด้วยการเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ครองส่วนแบ่งในประเทศไทยมากที่สุด ด้วยสัดส่วน 22% (อ้างอิงจากบริษัทวิจัย Canalys) สามารถแซงหน้าคู่แข่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ได้เป็นผลสำเร็จและเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ ก็ถึงเวลาแล้วที่ OPPO จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ ดีไซน์สวยงาม ซึ่งนั่นก็คือ OPPO F11 Pro
OPPO F11 Pro ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสานต่อความสำเร็จที่ OPPO F9 ทำไว้ในปีที่แล้ว จึงมีความพิถีพิถันในการออกแบบเป็นพิเศษ ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกไปจนถึงประสิทธิภาพที่อยู่ภายใน แต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาเริ่มกันที่กล่องบรรจุภัณฑ์กันก่อน
ภายในกล่องเราจะได้รับเคสป้องกันรอย ที่ส่วนบนทำรอยเว้าไว้ให้กล้องเซลฟี่เลื่อนขึ้นมาได้, ชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร มีรีโมทในตัว, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด เคสใสแบบแข็งปกป้องริ้วรอยของตัวเครื่องได้อย่างดี
Adapter หรืออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับชาร์จเร็ว VOOC 3.0, สายเคเบิ้ล Micro USB และเอกสารต่างๆ อย่างคู่มือ Quick Guide บัตรรับประกัน
OPPO F11 Pro ได้รับการติดตั้งฟิล์มกันรอยจอแสดงผลมาให้แล้วจากโรงงาน
และภายในมากับแบตเตอรี่ 4000mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0 ชาร์จเต็มเร็วกว่าเวอร์ชั่นก่อนถึง 20% ใช้เวลาเพียง 80 นาที ก็ชาร์ตแบตเตอรี่เต็มแล้ว
OPPO F11 Pro มีให้เลือก 2 สี คือสีดำ Thunder Black กับสีเขียว Aurora Green แต่ละสีใช้เทคนิคการไล่ระดับสีแบบใหม่ที่แตกต่างกันให้ดูหรูหราพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น Thunder Black จะมีประกอบไปด้วย 3 สี เป็นการไล่เฉดสีแนวทแยงจากเฉดสีแดงเป็นสีดำและเป็นสีน้ำเงิน สำหรับสี Aurora Green จะใช้ 2 เฉดสี คือ สีเขียว กับ สีฟ้า และถูกเคลือบผิวด้วยเทคนิคพิเศษ Nano Printing ทำให้สะท้อนแสงเป็นรูปตัว S และมีผิวที่เรียบเนียนสวยงามมากๆ
OPPO F11 Pro มีจุดเด่นที่กล้องเซลฟี่ที่ซ่อนไว้ในตัวเครื่องแบบเลื่อนขึ้นเลื่อนลงอัตโนมัติความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยทางผู้ผลิตเรียกว่า Rising Camera ติดตั้งไว้ที่ส่วนบนสุดตรงกึ่งกลางพอดี ซึ่งป็นตำแหน่งที่ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่มีความสมดุลกว่า เมื่อเทียบกับการวางกล้องเซลฟี่ไว้ตรงมุมใดมุมหนึ่ง
ส่วนของกล้องเซลฟี่ยังออกแบบมาอย่างสวยงาม โดยได้แรงบันดาลใจมาจากขวดน้ำหอม และมีกลไกสไลด์กล้องขึ้น-ลงอัตโนมัติ ซึ่งทำงานอย่างรวดเร็ว ที่น่าสนใจคือ OPPO ได้ใส่ฟีเจอร์ให้กล้องหดเก็บแบบอัตโนมัติกลางอากาศทันที เมื่อตรวจจับได้ว่าตัวเครื่องกำลังหล่นลงพื้น
เมื่อย้ายกล้องเซลฟี่ไปไว้ด้านบน ทำให้หน้าจอไม่มีรอยบากมาเกะกะสายตา จึงแสดงภาพได้อย่างเต็มที่ และมองเห็นได้อย่างเต็มตาด้วยความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว สัดส่วน 19.5:9 ,397ppi ทนทานด้วยกระจก Gorilla Glass 5
ด้วยดีไซน์จอแสดงผลแบบ Panoramic Screen ทำให้ OPPO F11 Pro มีพื้นที่ขอบจอบางเฉียบ และมีขนาดบอดี้ไม่ใหญ่เกินไป โดยมีความบาง 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนักชั่งรวมแบตเตอรี่อยู่ที่ 190 กรัม
กล้องหลังความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.79 วางคู่กับกล้องรอง 5 ล้านพิกเซล ช่วยละลายฉากหลังสำหรับการถ่ายภาพ Portrait และเป็นครั้งแรกที่ OPPO จัดวางโลโก้แบบใหม่เป็นแนวตั้งแลดูทันสมัยยิ่งขึ้น
กล้องตัวหลักของ OPPO F11 Pro ยังมาพร้อม Ultra Night Mode ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงาม โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI
ด้านประสิทธิภาพ OPPO F11 Pro เลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P70 ความจำ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 64GB เพิ่มอีก 256GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie สวมทับด้วย ColorOS 6 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด หน้าตาสวยงามน่าใช้งานกว่าเดิมมาก และยังเอาใจคอเกมด้วย Hyper Boost ที่ช่วยให้และเกมได้ลื่นกว่าเดิมถึง 30%
OPPO F11 Pro ยังคงตอบโจทย์ผู้ที่รักการถ่ายภาพเซลฟี่ ด้วยฟีเจอร์ AI Beauty ขณะที่กล้องหลังก็มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดถึง 48 ล้านพิกเซลแถมยังมีค่ารูรับแสง F/1.79 เท่านั้นทำให้ถ่ายภาพที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้จอแสดงผลยังมีขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้วเหมาะสำหรับการดูหนัง ฟังเพลงโดยเฉพาะการเล่นเกมได้อย่างสะใจเต็มตาไม่มีอะไรมาเกะกะอีกต่อไปแล้ว ใครที่สนใจรุ่นนี้อยู่ติดตามชมรีวิวฉบับเต็มได้เร็วๆนี้เช่นเคย
OPPO F11Pro จะเปิดให้ได้สั่งจองในวันที่ 16 -27 มีนาคมนี้ ในราคา 10,990 บาท รับฟรี Smart Bag และ VIP Card มูลค่ากว่า 6,950 บาท และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 28 มีนาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษกับทาง Lazada วันที่ 15 มี.ค. 62 เท่านั้น พร้อมของสมนาคุณสุดพิเศษมูลค่ากว่า 9,090 บาท