“โซนี่ คอร์ปอเรชั่น” เผยกลยุทธการดำเนินธุรกิจภายใต้แผน One Sony ที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางการบริหารดำเนินงานของบริษัทให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมทั้งตั้งเป้าที่จะปรับปรุงธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้กลับมาสร้างมูลค่าได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็จะรักษาความเข้มแข็งในส่วนของธุรกิจด้านความบันเทิงและบริการทางการเงินเอาไว้
วันนี้ (12 เม.ย.) บริษัท โซนี่ คอร์ปอเรชั่น ได้จัดงานประชุมผู้ถือหุ้นขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการเปิดเผยแนวทางการดำเนินงานภายใต้นโยบาย One Sony ที่จะทำให้การบริหารดำเนินงานของบริษัทเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะมีกุญแจสำคัญที่ทำให้แผนดังกล่าวบรรลุผล ดังนี้
1. เพิ่มความเข้มแข็งให้กับธุรกิจหลัก (เกม , อุปกรณ์พกพา , การบันทึกภาพดิจิตอล)
2. เปลี่ยนแปลงการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจทีวี
3. ขยายธุรกิจในตลาดเกิดใหม่
4. สร้างสรรค์ธุรกิจใหม่และเร่งพัฒนานวัตกรรม
5. ปรับพอร์ตการลงทุนทางธุรกิจให้มีความเหมาะสม
“โซนี่” ตั้งเป้าไว้ว่าเมื่อถึงปีงบประมาณ 2014 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2015) ด้วยแผนที่วางไว้น่าจะทำให้ธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มียอดขายประมาณ 6 ล้านล้านเยน มีรายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภาพรวมของ “โซนี่ กรุ๊ป” ทั่วโลก น่าจะมียอดขายประมาณ 8.5 ล้านล้านเยน มีรายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
สำหรับการเพิ่มความเข้มแข็งให้กับธุรกิจหลัก “โซนี่” จะมุ่งเน้นไปที่เกม (PlayStation 3 , PlayStation Vita , PlayStation Network) , อุปกรณ์พกพา (Smartphone , Sony Tablet , VAIO) , การบันทึกภาพดิจิตอล (กล้องภาพนิ่ง , กล้องวีดีโอภาพเคลื่อนไหว , เลนส์ , เทคโนโลยีเซ็นเซอร์บันทึกภาพ) ซึ่งทั้ง 3 อย่างคือธุรกิจหลักที่ถูกตั้งเป้าไว้ว่าจะส่วนในการสร้างยอดขายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายโดยรวม รวมถึงเป็นส่วนที่สร้างรายได้จากการดำเนินงานกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
ด้านการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจทีวี ซึ่งเคยมีการประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะกลับมาสร้างกำไรได้อีกครั้งในปีงบประมาณ 2013 “โซนี่” จะมีการเร่งดำเนินการให้ได้ตามแผนโดยเร็ว โดยจะมีการลดค่าใช้จ่ายให้ได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตรงจุดนี้สอดคล้องกับข่าวการเลิกจ้างพนักงานในเครือฯ นับหมื่นรายทั่วโลก
การขยายธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ “โซนี่” มีการวางรากฐานไว้แล้วในอินเดีย เม็กซิโก รวมถึงตลาดอื่นๆ ตรงจุดนี้จะมีการรักษาความเข้มแข็งและส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ พร้อมทั้งมุ่งเพิ่มยอดขายและการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในตลาดเหล่านี้ ขณะที่การสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่และเร่งพัฒนานวัตกรรมก็จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาก็มีการการจับมือกับบริษัทผลิตจอภาพอย่าง Hitachi กับ Toshiba ในการควบรวมกิจการจอภาพเข้าด้วยกันเป็นบริษัทใหม่ในชื่อ “Japan Display” เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีรัฐบาลญี่ปุ่นคอยหนุนหลัง โดยบริษัทโซนี่จะมีหุ้นอยู่ใน “Japan Display” 10% เช่นเดียวกับบริษัทผลิตจอภาพอีกสองราย ส่วนที่เหลืออีก 70% จะเป็นของกองทุน Innovation Network Corp of Japan (INCJ) ของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งการควบกิจการครั้งนี้จะทำให้ “Japan Display” กลายเป็นผู้ผลิตจอภาพขนาดเล็ก (ที่ใช้กับแทบเล็ตและสมาร์ทโฟน ไม่รวมทีวีและมอนิเตอร์) รายใหญ่ที่สุดของโลก
ที่มา – Manager