ย้อนกลับไปในปีที่แล้ว OPPO F9 มีกระแสตอบรับเกินความคาดหมายนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2018 ก็ทำลายสถิติยอดจองสูงกว่ารุ่นก่อนอย่าง F7 ถึง 2 เท่า ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย และมาพร้อมเทคโนโลยี VOOC Flash Charge ที่หลายคนคุ้นเคยกับสโลวแกน ชาร์จ 5 นาที คุยได้นาน 2 ชั่วโมงนั่นเอง
และในไตรมาสแรกปีนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ OPPO จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน F Series รุ่นใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างแน่นอน เพื่อสานต่อความสำเร็จที่ OPPO F9 สร้างปรากฎการณ์ขายดีแบบถล่มทลายมาแล้ว นอกจากนี้ OPPO ยังให้ความใส่ใจลูกค้า ด้วยศูนย์บริการที่มีกว่า 48 สาขาทั่วประเทศ
เรากำลังพูดถึง OPPO F11 Pro ทายาทของ F9 ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด ด้วยจอแสดงผล Panoramic Screen แบบเดียวกับที่พบในพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟน OPPO Find X ทำให้จอแสดงผลไม่มีรอยบากมากวนใจ มาพร้อมกล้อง Rising Camera ด้านบน เป็นกล้องเซลฟี่แบบ Pop-up สามารถเลื่อนขึ้น-ลงอัตโนมัติ บอดี้สวยงามด้วยเทคนิคการไล่ระดับสีจาก 3 เฉดสี
OPPO F11 Pro ติดตั้งกล้อง Rising Camera ไว้ตรงกึ่งกลาง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด มีความสมดุลมากกว่าการวางกล้องเซลฟี่ไว้ตรงมุมใดมุมหนึ่งซึ่งทำให้ภาพถูกบิดเบือนได้ ขณะที่ดีไซน์ของตัวกล้องก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขวดน้ำหอม ทำให้มีความโค้งมน และโปร่งแสงแบบคริสตัล
การออกแบบภายนอกของ OPPO F11 Pro มีความสวยงามไม่แพ้รุ่นก่อน โดยผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ Thunder Black และ Aurora Green เป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคนิคไล่ระดับสีจาก 3 เฉดสีมาใช้กับสี Thunder Black จนดูเหมือนเป็นผลงานภาพวาดสีน้ำที่ใช้เทคนิคแรเงา ส่วนสีที่นำมาใช้ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ OPPO ตั้งใจนำสีแดงกับสีน้ำเงินมาผสมกันเป็นสีดำสุดคลาสสิคที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับสี Aurora Green ใช้เทคนิคไล่ระดับสีระหว่าง 2 เฉดสีจนเกิดเป็นรูปตัว S ส่วนโทนสีที่ใช้ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติเช่นกัน โดยนำสีเขียวที่หมายถึงแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์มาผสมกับสีฟ้าของมหาสมุทร และยังเปล่งประกายในมุมมองที่แตกต่างกัน ตามแสงที่ตกลงมากระทบ
OPPO F11 Pro ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีดีไซน์ที่โค้งมนเพื่อให้มีขนาดกระชับมือมากที่สุด แม้แต่การติดตั้งลำโพงกับไมโครโฟน ก็เลือกตำแหน่งที่ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือสนทนา การวางมือจะต้องไม่บังลำโพงและไมโครโฟน และมาพร้อมไมโครโฟนคู่ เพื่อให้เสียงสนทนาชัดเจนที่สุดแม้ลำโพงตัวหนึ่งจะถูกบดบังแต่ก็ยังมีอีกตัวที่พร้อมใช้งาน
เมื่อกล้องเซลฟี่ถูกซ่อน เราจะเห็น OPPO F11 Pro เต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล ด้วยดีไซน์ Panoramic Screen ทำให้มีสัดส่วนจอแสดงผลต่อบอดี้สูงถึง 90.90% ส่วนที่เหลือไม่ถึง 10% ก็คือพื้นที่ส่วนขอบรอบจอแสดงผล ที่สำคัญก็คือ OPPO F11 Pro มากับจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว โดยไม่มีรอยบากมาเกะกะอีกต่อไป เพราะย้ายกล้องเซลฟี่ไว้ไปซ่อนไว้ด้านบนแล้ว ดังนั้น ผู้ใช้งานจะสามารถรับชมคอนเท้นต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตา
คาดว่า OPPO F11 Pro จะพร้อมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ หลังจาก OPPO ประเทศไทยมีการปล่อยรูปภาพทีเซอร์ออกมาแล้ว ผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลของ OPPO และเพื่อรักษาเบอร์ 1 ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสดีที่ OPPO ควรจะวางจำหน่าย F11 Pro ภายในไตรมาสแรกของปี 2019 ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา OPPO ได้ก้าวแซง Samsung ขึ้นมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของประเทศไทย ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดได้สำเร็จ และเชื่อว่า OPPO F11 Pro ก็จะขายดีไม่แพ้รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน