เว็บไซต์ Business Insider ยกให้ Samsung Galaxy S10e เป็นผู้ชนะ เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ที่เปิดตัวพร้อมกันอย่าง Galaxy S10 และ Galaxy S10+ โดยบอกว่า Galaxy S10 series มีแนวคิดคล้ายกับ iPhone รุ่นล่าสุดที่ Apple เปิดตัวในปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ iPhone XR มีเหตุผลหลายข้อที่ดีกว่า iPhone XS และ iPhone XS Max
แต่สำหรับ Galaxy S10e จะมีความน่าสนใจกว่า Galaxy S10 และ Galaxy S10+ อย่างไรบ้าง Business Insider สรุปเหตุผลมาให้ 13 ข้อ ดังนี้…
Galaxy S10e มีราคาถูกที่สุดในกลุ่ม Galaxy S10 series
ในสหรัฐอเมริกา Galaxy S10e มีราคาเริ่มต้น 750 ดอลล่าร์ สำหรับรุ่น RAM 6GB กับ ROM 128GB และ 850 ดอลล่าร์ สำหรับรุ่น RAM 8GB กับ ROM 256GB ขณะที่ Galaxy S10 เริ่มต้นที่ 900 ดอลล่าร์ นั่นหมายถึง แม้แต่รุ่นแพงที่สุดของ Galaxy S10e ก็ยังมีราคาถูกกว่ารุ่นเริ่มต้นของ Galaxy S10
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยนำ Galaxy S10e เข้ามารุ่นเดียว คือ RAM 6GB กับ ROM 128GB ราคา 26,900 บาท ส่วน Galaxy S10 รุ่น RAM 8GB กับ ROM 128GB มีราคา 31,900 บาท
การออกแบบคล้ายกัน
Galaxy S10 series มีการออกแบบคล้ายกัน แต่ Galaxy S10e เป็นจอแบน ทำให้ขอบจอดูหนากว่ารุ่นอื่น ซึ่งใช้จอขอบโค้ง
ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการพกพา
Galaxy S10e มากับจอแสดงผล 5.8 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่าอีก 2 รุ่น ที่มีขนาด 6.1 – 6.4 นิ้ว ทำให้ขนาดบอดี้เล็กลงตามไปด้วย จึงสามารถพกพาใส่กระเป๋าเสื้อผ้าได้สะดวกกว่า
ในทางเทคนิค จอแสดงผลของ Galaxy S10e คมชัดกว่า Galaxy S10+
จอแสดงผลของ Galaxy S10e ให้ความละเอียด Full HD 1080p ขณะที่ Galaxy S10 และ Galaxy S10+ มีความละเอียด Quad HD 1440p แต่จากประสบการณ์ของทีมงาน Business Insider บอกว่าความละเอียดทั้ง 2 มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาอยู่ในสมาร์ทโฟน
ในทางเทคนิค จอแสดงผลของ Galaxy S10e มีความคมชัดกว่า Galaxy S10+ ด้วยความหนาแน่นพิกเซลที่มากกว่า 522 พิกเซลต่อนิ้ว (Galaxy S10e) vs 505 พิกเซลต่อนิ้ว (Galaxy S10+) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้มันสร้างความแตกต่างได้น้อยมากๆ
มีพื้นที่ความจำในตัวเท่ากับ Galaxy S10 และ Galaxy S10+
สมาร์ทโฟนในครอบครัว Galaxy S10 series ของ Samsung ในตัวเลือกพื้นฐานหรือรุ่นเริ่มต้น มีความจุ ROM 128GB เท่ากัน
ได้รับชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน
นอกจากราคา ประสิทธิภาพก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออุปกรณ์ Galaxy S10e ที่มีราคาถูกที่สุด ก็ได้รับชิปประมวลผลรุ่นเดียวกับ Galaxy S10 และ Galaxy S10+ โดยในสหรัฐอเมริกาจะใช้ Qualcomm Snapdragon 855 ส่วนในประเทศไทยจะใช้ Samsung Exynos 9820
ความจำ RAM น้อยกว่า แต่อาจดีสำหรับคนส่วนใหญ่
Galaxy S10e เริ่มต้นด้วย RAM 6GB ซึ่งหายไป 2GB เมื่อเทียบกับ Galaxy S10 และ Galaxy S10+ แต่ Business Insider กลับมองว่า RAM ที่น้อยกว่า จะช่วยจัดการนิสัยของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ได้
Galaxy S10e ยังมี RAM 8GB ให้เลือก
ถ้าหาก RAM 6GB ไม่พอใช้จริงๆ Galaxy S10e ก็ยังมี RAM 8GB ให้เลือกด้วย และอย่างที่บอกไปแล้วข้างต้น ตัวเลือก RAM 8GB กับ ROM 256GB ของ Galaxy S10e ก็ยังมีราคาถูกกว่า Galaxy S10 รุ่นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย Galaxy S10e มีเฉพาะเวอร์ชั่น RAM 6GB ที่มาพร้อม ROM 128GB และยังไม่มีข้อมูลว่าจะนำเวอร์ชั่น RAM 8GB เข้ามาในอนาคตหรือไม่
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเดียวกัน
Samsung Galaxy S10 series ทั้ง 3 รุ่น มากับระบบปฏฺิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อม Samsung One UI เหมือนกันทุกรุ่น ดังนั้น ผู้ใช้งาน Galaxy S10e จะได้รับประสบการณ์แบบเดียวกันกับเจ้าของ Galaxy S10 และ Galaxy S10+ จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของซอฟต์แวร์กล้อง
กล้องหลักตัวเดียวกัน
ถึงแม้ Samsung Galaxy S10 series ทั้ง 3 รุ่น จะมีจำนวนกล้องที่แตกต่างกัน แต่ถ้าดูเฉพาะกล้องตัวหลัก Galaxy S10e จะได้รับกล้องตัวเดียวกันกับ Galaxy S10 และ Galaxy S10+ รวมถึงกล้องกล้องตัวที่ 2 ซึ่งเป็นกล้องมุมกว้าง 123 องศา แต่ไม่มีกล้องเทเลโฟโต้
กล้องเซลฟี่เหมือนกับ Galaxy S10
Galaxy S10e และ Galaxy S10 ได้รับกล้องเซลฟี่เลนส์เดียวเหมือนกัน จะมีเฉพาะ Galaxy S10+ ที่ได้รับกล้องคู่เซลฟี่ อย่างไรก็ตาม Galaxy S10e และ Galaxy S10 สามารถละลายฉากหลังได้เช่นกัน โดยอาศัยการประมวลผลของ NPU (Neural Processing Unit)
รองรับฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging
ฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging ช่วยให้สมาร์ทโฟน Galaxy S10 series สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่นได้ในแบบไร้สาย เพียงนำอุปกรณ์นั้นมาวางหรือแตะที่ด้านหลังของสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจพอสมควรที่ Galaxy S10e ก็รองรับฟีเจอร์นี้เช่นกัน เพราะเคยถูกคาดว่าจะมีเฉพาะใน Galaxy S10+ เท่านั้น
Galaxy S10e ยังได้รับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบดั้งเดิม
Galaxy S10 และ Galaxy S10+ ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ไม่พบใน Galaxy S10e อย่างไรก็ตาม Galaxy S10e ก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้เช่นกัน โดยติดตั้งไว้ที่ส่วนขอบด้านข้าง ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยและชอบเซ็นเซอร์แบบดั้งเดิมมากกว่า อย่างน้อยก็มองเห็นตำแหน่งได้ชัดเจน และรู้สึกได้ว่ากำลังแตะเพื่อใช้งาน
สุดท้ายนี้ ผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อ Galaxy S10 series คงต้องถามตัวเองว่า เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล กล้องเทเลโฟโต้ และฟีเจอร์อื่นๆ ที่แตกต่างกัน คุ้มค่าพอที่จะเพิ่มเงินซื้อหรือไม่
ที่มา – Business Insider
https://www.flashfly.net/wp/243632