Vivo เริ่มบุกตลาดสมาร์ทโฟนปี 2019 ด้วยการนำเทคโนโลยีกล้องสุดล้ำจาก NEX พรีเมี่ยมสมาร์ทโฟนในปีที่แล้ว มาสู่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Vivo V15 Pro ที่มากับกล้องเซลฟี่แบบ Pop-up ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล และยังติดตั้งกล้องด้านหลัง 3 ตัว ถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล
นอกจากสมาร์ทโฟน Vivo V15 Pro ภายในกล่องจะพบกับเคส, ฟิล์มกันรอยจอแสดงผล ติดตั้งมาให้แล้วจากโรงงาน (กรณีชำรุดแนะนำให้ติดตั้งฟิล์มจาก Vivo เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล),
เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, สายเคเบิล Micro-USB, ที่ชาร์จแบตเตอรี่ USB Power Adapter, ชุดหูฟัง แจ็ค 3.5 มิลลิเมตร และเอกสารต่างๆ อย่างคู่มือ บัตรรับประกัน ส่วนแบตเตอรี่ติดตั้งมาให้ในตัว ความจุ 3700mAh
ที่ประทับใจมากๆคือ Vivo แถมเคสกันกระแทกมาให้ในกล่องของ Vivo V15 Pro มาด้วยเลย
หลังจากซ่อนกล้องเซลฟี่ไว้ที่ส่วนบน ก็ทำให้จอแสดงผลของ Vivo V15 Pro มีดีไซน์ไร้กรอบ ไร้รอยบาก ซึ่งผู้ผลิตเรียกว่า Ultra FullView Display คมชัดด้วยจอ Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.39 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอต่อบอดี้สูงถึง 91.64% อัตราส่วนคอนทราสต์ 10,000,000:1 รองรับมาตรฐานสี P3 100%
ใต้จอแสดงผลยังติดตั้งเทคโนโลยี In-Display Fingerprint Scanning ซึ่ง Vivo เคยนำมาใช้กับเรือธงอย่าง X series ช่วยให้เจ้าของ Vivo V15 Pro สแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผลเพื่อปลดล็อค โดยไม่ต้องคลำหาตำแหน่งที่ด้านหลัง เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป
กล้องเซลฟี่แบบ Pop-up ให้ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล สามารถเลื่อนขึ้นอัตโนมัติ เมื่อต้องการใช้งาน และเลื่อนลงอัตโนมัติเช่นเดียวกัน โดยมีความเร็วในการเลื่อน 0.46 วินาที ผ่านการทดสอบด้านความแข็งแรงถึง 300,000 ครั้ง
กล้องด้านหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (Quad Pixel Sensor) กล้องรอง 8 ล้านพิกเซล (AI Super Wide-Angle) และกล้องตัวที่สุด 5 ล้านพิกเซล ช่วยจับระยะชัดลึก
Vivo V15 Pro ทำงานบนพื้นฐาน Android 9.0 Pie สวมทับด้วย Funtouch OS 9 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 AIE ความจำ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 128GB สนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 256GB ความจุแบตเตอรี่ 3700mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging ชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 24% ในเวลาชาร์จเพียง 15 นาที
Vivo V15 Pro ยังมี Game Mode 5.0 ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น พร้อมผู้ช่วยดิจิตอล Jovi มีปุ่มทางลัดเรียกใช้งานทันที รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0 และยังรองรับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
Vivo V15 Pro เปิดตัวทางการในประเทศไทยแล้ว มีให้เลือก 2 สี คือ สีน้ำเงิน (Topaz Blue) กับสีแดง (Ruby Red) สำหรับใครที่สนใจรุ่นนี้อยู่อดใจรอชมรีวิวฉบับเต็มในเร็วๆนี้แน่นอน