สมาร์ทโฟนในรอบปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ละค่ายต่างก็จัดสเปกออกมาแข่งขันกันแบบไม่มีใครยอมใคร แต่ถ้าพูดถึงการออกแบบเราเห็นว่า OPPO มีความโดดเด่นมากที่สุด เพราะเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มาเป็นอย่างแรก โดยมีแนวคิดว่า ความสวยงามของดีไซน์ เป็นสิ่งแรกที่ทุกคนจะเห็น แต่เทคโนโลยีที่อยู่ภายใน จะมีความหมายก็ต่อเมื่อได้ลองใช้งาน นั่นทำให้ OPPO พยายามออกแบบสมาร์ทโฟนให้สวยงาม เพื่อดึงดูดให้ผู้คนอยากจะลองใช้งาน
OPPO Find X สมาร์ทโฟน Panoramic Design รุ่นแรกของโลก ดีไซน์ไร้รอยต่อไร้รอยบาก
สำหรับสมาร์ทโฟนของ OPPO ที่มีความโดดเด่นที่สุดในด้านการออกแบบของปี 2018 ก็คือ OPPO Find X สมาร์ทโฟน Panoramic Design รุ่นแรกของโลกด้วยดีไซน์ไร้กรอบ ไร้รอยบาก แตกต่างจากค่ายอื่น และให้พื้นที่จอแสดงผลมากถึง 93.8% โดยซ่อนกล้องเซลฟี่ไว้ที่ด้านบน ซึ่ง OPPO เรียกว่า Stealth 3D Cameras

Stealth 3D Cameras เป็นการซ่อนกล้องเซลฟี่ เอาไว้ที่ส่วนบนของสมาร์ทโฟน OPPO Find X โดยมีกลไกช่วยในการสไลด์กล้อง หรือ เลื่อนกล้องขึ้น-ลงอัตโนมัติ เมื่อต้องการใช้งาน เริ่มตั้งแต่การปลุกหน้าจอ ส่วนของกล้องเซลฟี่จะเลื่อนขึ้นมาเพื่อสแกนใบหน้าผู้ใช้งาน สำหรับปลดล็อค แทนการสแกนลายนิ้วมือหรือป้อนรหัสผ่าน และกล้องเซลฟี่จะเลื่อนขึ้นมาอัตโนมัติ เมื่อเข้าสู่แอพกล้อง
ด้านความทนทานของระบบ Stealth 3D Cameras ทางผู้ผลิตได้ทดสอบการสไลด์มากกว่า 300,000 ครั้ง และยังมีระบบซ่อนกล้องอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับได้ว่า OPPO Find X หลุดจากมือแล้วกำลังจะตก เพื่อป้องกันระบบกล้องกระแทกกับพื้น
ระบบ Stealth 3D Cameras ของ OPPO Find X ยังมาพร้อม 3D Face Recognition หรือจดจำใบหน้าแบบ 3 มิติ โดยใช้เทคโนโลยี 3D Structured Light มาช่วยสแกนใบหน้า ประกอบด้วย กล้องเซลฟี่, กล้องอินฟราเรด, ตัวฉายจุดแสง (Dot Projector) และ อิลลูมิเนเตอร์มุมกว้าง (Flood Illuminator) เซ็นเซอร์ที่รวมอยู่ใน Stealth 3D Cameras จะช่วยสแกนใบหน้าเจ้าของสมาร์ทโฟนถึง 15,000 จุด ทำให้มีความความปลอดภัยกว่าการสแกนลายนิ้วมือถึง 20 เท่า และไม่สามารถหลอกได้ด้วยรูปภาพ 2 มิติ แสดงให้เห็น OPPO ยังใส่ใจในเรื่องเทคโนโลยีด้วย
OPPO Find X เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในโลกที่ใช้ดีไซน์จอแสดงผลขอบโค้งมนแบบ Panoramic Design ผสานระหว่างกระจกไร้รอยต่อ 2 ชิ้น ได้มุมมองที่กว้างสุดขอบ ด้วยขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.5:9 และมีสัดส่วนพื้นที่แสดงผล 93.8% ส่วนด้านหลังใช้นวัตกรรมการไล่เฉดแบบ 3 มิติทำให้พื้นผิวมีความสวยงามแวววาวในทุกมุมมองสวยงามดุจอัญมณีล้ำค่าพร้อมครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคนิคขอบโค้งหลายด้าน
OPPO Find X มีให้เลือก 2 เฉดสีให้เลือกคือสีแดง (Bordeaux Red) และสีน้ำเงิน (Glacier Blue) อีกทั้งยังมีรุ่นพิเศษ Automobili Lamborghini Edition ที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แบบเดียวกับซุปเปอร์คาร์ พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สุดในโลกกับ SuperVOOC Flash Charge
ไม่ใช่เพียงสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์เท่านั้นที่ OPPO ให้ความสำคัญในเรื่องของดีไซน์ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวในปี 2018 ก็ยังได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ด้วยดีไซน์ไล่เฉดสี หรือ Gradient Design อย่างที่เราได้เห็นใน OPPO R17 Pro และ OPPO F9
OPPO R17 การไล่เฉดสีแนวตั้งรูปตัว S และกระจกผิวด้านแบบใหม่ป้องกันลายนิ้วมือ
OPPO R17 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมาพร้อมกล้องดิจิตอลด้านหลัง 3 ตัวกับความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพกลางคืนขั้นเทพกับ Ultra Night Mode และยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่สุดในโลก Super VOOC Flash Charge ชาร์จ 10 นาทีได้แบตเตอรี่ถึง 40% หรือใช้เวลาชาร์จแค่ 30 -40 นาทีก็ได้แบตเตอรี่เต็ม 100% แล้ว
นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่จัดเต็มขั้นขีดสุดมาขนาดนี้แล้ว ด้านการดีไซน์ตัวเครื่องนั้นต้องบอกว่าสุดยอดไม่แพ้กัน เพราะรุ่นนี้มีการไล่เฉดสีในแนวตั้งอย่างสวยงามเป็นรูปตัว S โดยเฉพาะสี Radiant Mist ที่มีการทำถึง 15 ขั้นตอนให้ความรู้สึกนุ่มนวลเปรียบเสมือนแสงที่ประกายผ่านเมฆหมอกมีการไล่โทนสีระหว่างสีฟ้าและสีม่วงไปถึงขอบด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมกระจก 3D ผิวด้านแบบพิเศษที่ชุบโลหะด้วยไฟฟ้าบนพื้นผิวของกระจกที่ช่วยเพิ่มการสัมผัสและป้องกันการเกิดลายนิ้วมือ นอกจากนี้ยังใช้เทคนิคการพ่นทรายบนพื้นผิวโลหะด้วยแรงลม เพื่อให้พื้นผิวเรียบและสัมผัสที่ดียิ่งขึ้น เมื่อฝาหลังสะท้อนแสงในทิศทางที่แตกต่างกันก็จะเห็นสีที่สวยงามราวกลับมีสายน้ำไหลผ่านตัวเครื่องถึงขนาดที่ทำให้คนรอบข้างต้องหันกลับมาเหลียวมอง
นอกจากนี้ยังมีสีเขียว Emerald Green เขียวมรกตเป็นอีกตัวเลือก ซึ่งมีการใช้กระจก 3D เช่นเดียวกัน ทำให้พื้นผิวดูมีมิติ และเป็นเฉดสีที่ไม่ซ้ำใคร
OPPO R17 Pro ยังมาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 6.4 นิ้วที่มีรอยบากรูปทรงหยดน้ำ ทำให้มีพื้นที่จอแสดงผลมากขึ้น ด้วยสัดส่วนพื้นที่แสดงผล 91.5% แถมยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ OPPO ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือลงบนจอแสดงผล และป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6 ที่ทนทานกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่าเป็นรุ่นแรกในตลาดสมาร์ทโฟนอีกด้วย
OPPO F9 ครั้งแรกกับดีไซน์ไล่เฉดสีทั้งตัวเครื่องงดงามยามกระทบแสงไฟ
OPPO F9 สมาร์ทรุ่นยอดฮิตกับยิดขายถล่มทลายที่หลายคนคุ้นเคยกับคำว่าชาร์จ 5 นาทีคุยได้นาน 2 ชั่วโมงกับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge ซึ่งยังเป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นเรื่องความสวยงามไม่แพ้รุ่นแฟลกชิบ เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมหน้าจอรอยบากรูปทรงหยดน้ำขนาด 6.3 นิ้ว ให้สัดส่วนพื้นที่แสดงผล 90.8% และยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในอุตสหกรรมที่ทั้งขอบตัวเครื่องและฝาหลังพ่นสีแบบไล่เฉดสี
พร้อมเทคนิคพิเศษที่ทำให้เกิดลวดลายกลีบดอกไม้ที่ด้านหลัง เมื่อกระทบแสงไฟก็จะเปล่งประกายในมุมมองที่แตกต่างกัน ตามแสงที่ตกกระทบ โดยลวดลายกลีบดอกไม้ที่มีมิติ ซึ่งได้แรงบันดาลจากมาจากสีของธรรมชาติ สำหรับสีแดง (Sunrise Red) ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนสีน้ำเงิน (Twilight Blue) ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนใครที่ได้สัมผัสตัวเครื่องแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงามมาก
นอกจากนี้ OPPO F9 ยังมีสีม่วง Starry Purple ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงหิ่งห้อยในคืนฤดูร้อนที่ใช้เทคนิคการไล่เฉดสีที่ไม่เหมือนใครโดยมีการพ่นสีทองแบบ Glitter ให้เปล่งประกายดูเหมือนหิ่งห้อยตอนกลางคืนหรือดวงดาวยามค่ำคืนตัดด้วยกรอบสีทองที่กล้องและโลโก้ OPPO ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย
ล่าสุดรับเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง OPPO ได้เปิดตัว OPPO F9 สีพิเศษใหม่ล่าสุดกับสีเขียวหยก Jade Green Limited Edition ซึ่งยังคงนำเทคนิคไล่ระดับสีมาใช้เหมือนเดิม ระหว่างหยกขาวกับหยกเขียว ตัดกับขอบสีทองรอบตัวเครื่องเพิ่มความสวยงามหรูหราอย่างมาก โดยสีนี้นอกจากจะให้ความสวยงามไม่ซ้ำใครแล้ว สีของหยกยังมีความหมายที่เป็นมงคลตามความเชื่อของชาวจีนอีกด้วย เรียกได้ว่าโชคดีทั้งผู้ให้และผู้รับเลยทีเดียว
และนี่คือสุดยอดแห่งการดีไซน์สมาร์ทโฟนของปี 2018 จาก OPPO แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มาแรงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ที่มีความโดดเด่นทั้งทางด้านนวัตกรรม และการดีไซน์ซึ่งแต่ละรุ่นที่วางจำหน่ายนั้นได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายทุกครั้งทันทีที่มีการเปิดตัวและเริ่มให้สั่งจอง ซึ่งในปีหน้า 2019 ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า OPPO จะมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆใส่เข้ามาในสมาร์ทโฟนที่จะเปิดตัวในอนาคตที่จะถึงนี้ และจะมีดีไซน์ตัวเครื่องที่โฉบเฉี่ยวสวยงามกว่าปีนี้อีกขนาดไหนคงต้องติดตามกันต่อไปไม่นานเกินรอ
รีวิว OPPO Find X
http://www.flashfly.net/wp/225439
รีวิว OPPO F9
http://www.flashfly.net/wp/227550
รีวิว OPPO R17 Pro
http://www.flashfly.net/wp/235725