Microsoft ส่งแท็บเล็ต 2-in-1 รุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ Surface Go เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ซึ่งอุปกรณ์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ใน 2 รูปแบบ คือ เป็นแท็บเล็ต และแบบแล็ปท็อป
โดยใช้วัสดุที่ถอดแบบมาจาก Surface Pro รุ่นใหญ่ โดยมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวกกว่า รวมถึงมีราคาที่ย่อมเยากว่าด้วยเช่นกัน
Surface Go ผลิตจากวัสดุแมกนีเซียม มีน้ำหนัก 522 กรัม พร้อมจอแสดงผล PixelSense ความละเอียด 1800 x 1200 พิกเซล ในขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วนภาพอยู่ที่ 3:2 และระบบสัมผัสแบบมัลติทัช 10 จุด รวมถึงป้องกันการเปิดรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
ส่วนขอบของ Surface Go มีความบางอยู่ที่ 8.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าหนากว่าแท็บเล็ตในท้องตลาด แต่เลือกมาด้วยวัสดุระดับพรีเมียม และมีความแข็งแรง ทนทาน โดยทางฝั่งซ้ายมือไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ เพราะออกแบบมาให้เป็นที่เก็บปากกากับ Surface Go ด้วยแม่เหล็ก
และที่ด้านขวามือมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดลงมาจะเป็นพอร์ต USB-C, Surface Connect และช่องสำหรับการ์ด microSD หรือ microSDXC
ด้านบนมีปุ่มเพาเวอร์ กับปุ่มปรับระดับเสียง ใช้งานเหมือนแท็บเล็ตทั่วไป และที่ด้านล่างมีแถบแม่เหล็กไว้เชื่อมต่อกับแผงคีย์บอร์ด
ต่อกันที่ด้านหลัง มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นไมโครโฟน
ส่วนกล้องเซลฟี่ที่ด้านหน้าให้มาที่ 5 ล้านพิกเซล โดยรองรับวีดีโอแชทผ่าน Skype และแอพแชทอื่นๆ รวมถึง Windows Hello ระบบการตรวจสอบใบหน้าในระดับองค์กร
ส่วนล่างของด้านหลังเป็นขาตั้งที่มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถปรับการวางได้หลายระดับ สำหรับวาง Surface Go ในแนวนอนเพื่อรับชมวีดีโอ หรือใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อปนั่นเอง
หรือจะกางออกจนเกือบเป็นแนวราบเพื่อใช้งานด้านศิลปะก็ทำได้เช่นกัน
โดยปกติแล้วแท็บเล็ตมักจะถูกนำมาใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก แต่สำหรับ Surface Go นั้นสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง และการทำงานในเครื่องเดียว ซึ่งมีการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ใน S โหมด โดยตัว S ย่อมาจาก Secure หรือความปลอดภัยนั่นเอง ที่สามารถใช้งานส่วนใหญ่ได้เหมือน Windows 10 บนคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องการติดตั้งเกม หรือแอปพลิเคชั่นที่ต้องดาวน์โหลดมาจากใน Microsoft Store เท่านั้น
สำหรับใครที่ต้องการติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่นจากภายนอก ก็สามารถปลดล็อคระบบปฏิบัติการเป็น Windows 10 ปกติได้เช่นกัน แต่ทางทีมงานจะไม่ขอแนะนำ เนื่องจาก Surface Go จะไม่สามารถกลับไปใช้ Windows 10 Home ในโหมด S ได้อีกต่อไป
Surface Go มากับหน่วยประมวลผล Intel Pentium Gold Processor 4415Y แบบ Dual Core ที่มีความเร็ว 1.6 GHz พร้อมด้วยกราฟิก Intel HD Graphics 615 ส่วนความจำจะแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น คือ RAM 4GB จับคู่กับไดร์ฟ eMMC ความจุ 64GB และ RAM 8GB จับคู่กับไดร์ฟ SSD ความจุ 128GB
ทางด้านระบบเชื่อมต่อไร้สายบน Surface Go จะรองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.1 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับแล็ปท็อปทั่วไป ที่ไม่รองรับการเชื่อมต่อ LTE นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB-C มาให้ 1 ช่อง สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Adapter เชื่อมต่อกับจอภาพภายนอก หรือจะใช้ชาร์จแบตเตอรี่แทน Surface Connect ผ่านตัว USB-C Power Adapter ที่มีกำลังไฟเหมาะสมด้วย
สำหรับการใช้งาน Surface Go ในรูปแบบแล็ปท็อป สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด Type Cover ได้ โดยออกแบบมาอย่างหรูหราด้วยวัสดุผ้า Alcantara และเชื่อมต่อกับ Surface Go ด้วยระบบแม่เหล็กที่ยึดแน่น พร้อมด้วยเม้าส์ไร้สายรุ่นใหม่ Surface Mobile Mouse ที่มีดีไซน์ลงตัวเป็นอย่างดี และเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth
ส่วนอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจสำหรับคนทำงานศิลปะก็คือ Surface Pen ที่รองรับแรงกดถึง 4,096 ระดับ โดยจะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ คล้ายใช้ปากกาจริงเขียนเลยทีเดียว ซึ่งอุปกรณ์เสริมทั้งหมดนี้ต้องสั่งซื้อแยกต่างหาก
โดยสรุปแล้ว Surface Go เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาแท็บเล็ตแบบ 2-in-1 ที่มีคุณภาพในเรื่องของวัสดุ และดีไซน์ ที่สำคัญคือสามารถพกพาติดตัวไปได้สะดวก และเน้นใช้สำหรับคนที่ชื่นชอบในการวาดเขียน เปิดเว็บไซต์ เล่นโปรแกรมโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือดูวีดีโอออนไลน์สนุกๆ ผ่านลำโพงสเตอริโอ 2W พร้อมระบบเสียง Dolby Audio Premium และยังให้ทดลองทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านโปรแกรม Microsoft Office 365 Home ฟรี!! 30 วัน
ทาง Microsoft พร้อมวางจำหน่าย Surface Go ในประเทศไทยแล้ววันนี้ สำหรับรุ่น RAM 4GB ราคา 14,999 บาท และรุ่น RAM 8GB ราคา 19,999 บาท
สำหรับด้านอุปกรณ์เสริมตั้งแต่แผงคีย์บอร์ด Type Cover จะวางจำหน่ายในราคา 3,590 บาท ส่วนที่เป็นวัสดุผ้า Alcantara วางจำหน่ายในราคา 4,690 บาท ทางด้านเม้าส์ไร้สาย Surface Mobile Mouse วางจำหน่ายในราคาที่ 1,190 บาท และปากกา Surface Pen วางจำหน่ายในราคา 3,900 บาท