Samsung พร้อมส่งสมาร์ทโฟน Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ สองรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยทั้ง 2 รุ่นมีการออกแบบไปในทางเดียวกัน และวันนี้เราจะไปหาคำตอบพร้อมกันว่า ระหว่าง 2 รุ่นนี้ จะมีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร และจะเลือกใช้รุ่นไหนดี
การออกแบบโดยรวมของ Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ มีความคล้ายคลึงกันมาก ด้วยหน้าจอขนาด 6 นิ้ว บนขนาดตัวเครื่องที่เท่ากัน โดยพื้นผิวด้านหลังสะท้อนเงางามแบบวัสดุกระจก ต่างไปจาก Galaxy J รุ่นที่ผ่านมาอย่างชัดเจน
หากมองจากภายนอกจะสามารถแยกได้อย่างง่ายดายว่า Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ มีความแตกต่างที่ชัดเจนอยู่ 2 จุด ได้แก่ กล้องดิจิตอลด้านหลัง โดยที่ Galaxy J4+ เป็นกล้องตัวเดียว ส่วน Galaxy J6+ จะมาพร้อมกับ 2 ตัววางคู่กันแบบ Dual-Camera และอีกจุดหนึ่งที่สังเกตได้โดยง่ายก็คือ ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง Galaxy J4+ จะมีเพียงปุ่มเพาเวอร์ แต่ใน Galaxy J6+ จะเป็นปุ่มเพาเวอร์ที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังอยู่ภายในด้วย
Samsung Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับมือถือตระกูล Galaxy J Series ที่ไม่มีปุ่มโฮมใต้หน้าจออีกต่อไป และใช้ดีไซน์จอใหญ่แบบ Infinity Display โดยมีพื้นที่ขอบจอบางลงกว่าเดิม จึงทำให้ขนาดตัวเครื่องเล็กลงเมื่อเทียบกับ Galaxy J Series รุ่นก่อนๆ แต่กลับกันขนาดของหน้าจอนั้นใหญ่ขึ้นเป็น 6 นิ้ว ความละเอียด 1480 x 720 พิกเซล ในอัตราส่วนภาพที่ 18.5:9 และสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 หน้าจอด้วยฟังก์ชัน Split-Screen อีกด้วย
และที่ด้านบนของหน้าจอแสดงผลไม่มีรอยบาก หรือ Notch ให้กวนใจ พร้อมกับกล้องเซลฟี่ ที่มีความละเอียดแตกต่างกัน โดย Galaxy J4+ คมชัดที่ 5 ล้านพิกเซล ส่วน Galaxy J6+ มีความละเอียดกล้องมากกว่าที่ 8 ล้านพิกเซล และติดตั้งแฟลชมาให้ด้วย สำหรับช่วยเซลฟี่ในที่แสงน้อยนั่นเอง รวมถึงลำโพงสนทนาที่อยู่ตรงกลาง
ด้านหลังตัวเครื่องมีความเงางามเหมือนกับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ซึ่งทั้งสองแตกต่างกันที่ Galaxy J4+ ใช้กล้องเลนส์เดียวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 ส่วน Galaxy J6+ มาพร้อมกล้องเลนส์คู่แบบ Dual-Camera ความละเอียด 13+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 กับ F/2.2 แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รุ่น ฝังแบตเตอรี่มาให้เท่ากันที่ 3300 mAh
สำหรับด้านล่างประกอบไปด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB, ไมโครโฟน และช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ส่วนที่ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียง ปุ่มลดเสียง ถัดลงมาจะมีถาดใส่การ์ด 2 ช่อง ช่องบนสำหรับใส่ซิมการ์ดขนาดนาโนได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และอีกหนึ่งการ์ดความจำ MicroSD ที่เพิ่มความจุสูงสุดที่ 512GB เลยทีเดียว โดยเป็นช่องแยกออกมาแบบอิสระ
ขอบด้านข้างทางขวามือตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงที่ย้ายมาจากด้านหลังในดีไซน์รุ่นก่อนๆ ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ โดย Galaxy J4+ จะเป็นปุ่มปกติที่คุ้นเคยกันดี แต่สำหรับ Galaxy J6+ ปุ่มเพาเวอร์จะมีขนาดใหญ่กว่าอย่างชัดเจน เนื่องจากมีการติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย และจะเห็นว่าพื้นที่โดยรอบถูกทำให้เว้าลงไป เพื่อให้วางปลายนิ้วมือได้สะดวกนั่นเอง
สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Galaxy J6+ มีรูปแบบการใช้งานคล้ายกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังไว้บนปุ่มโฮม นั่นหมายถึง ถ้าหากผู้ใช้งานมีการลงทะเบียนลายนิ้วมือของตัวเองแล้ว สามารถเปิดหน้าจอแล้วเข้าสู่หน้าจอโฮมได้โดยการวางปลายนิ้วไว้บนปุ่ม โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มลงไป
แม้ว่า Galaxy J4+ จะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แต่ก็สามารถปลดล็อคเข้าใช้งานสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ โดยอาศัยกล้องเซลฟี่ช่วยสแกนใบหน้า ซึ่ง Galaxy J6+ ก็รองรับฟีเจอร์นี้เช่นเดียวกัน
Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกันคือ Qualcomm Snapdragon 425 (1.4GHz Quad-Core) ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo สวมทับด้วย Samsung Experience 9.5 แต่ที่ไม่เหมือนกันคือความจำภายใน โดย Galaxy J4+ มากับ RAM 2GB จับคู่กับ ROM 16GB ขณะที่ Galaxy J6+ มากับ RAM 4GB จับคู่กับ ROM 64GB และทั้ง 2 รุ่น สามารถใส่การ์ด MicroSD เพิ่มเติมได้สูงสุด 512GB
Galaxy J4+ มากับกล้องเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 พร้อมแฟลชที่ด้านหน้า สำหรับช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย และปรับแสงสว่างได้ 3 ระดับ มีโหมดโฟกัสสำหรับถ่ายเซลฟี่, เซลฟี่ (ถ่ายเซลฟี่อัตโนมัติเมื่อกางมือ สามารถปรับระดับสีผิวและความเรียบเนียนของใบหน้าได้), สติกเกอร์, เซลฟี่มุมกว้าง และ สามารถถ่ายวีดีโอในระดับสูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ได้ทั้งกล้องหลังและกล้องเซลฟี่
ส่วนกล้องด้านหลังให้มาที่ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 และติดตั้งแฟลชมาให้ด้วยเช่นกัน พร้อมโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า, โปร, ความงาม, อัตโนมัติ, สติกเกอร์, ถ่ายต่อเนื่อง
ทางด้าน Galaxy J6+ ใช้กล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 พร้อมแฟลชหน้า ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อย และปรับแสงสว่างได้ 3 ระดับเหมือนกัน
สำหรับกล้องคู่หลังให้มาที่ 13 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 + F/2.2 และติดตั้งแฟลชมาให้ด้วย พร้อมฟีเจอร์ถ่ายรูปหลักๆ เหมือนกับ Galaxy J4+ แต่ที่เพิ่มมาก็คือโหมด Live Focus ที่สามารถละลายฉากหลัง และปรับความเบลอได้หลายระดับได้นั่นเอง
ในโหมด Live Focus สามารถเลือกระดับความเบลอของพื้นหลัง และสามารถเลือกรูปแบบของโบเก้ได้
Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ โดดเด่นที่ขนาดจอแสดงผล 6 นิ้ว สามารถรับชมคอนเทนต์วีดีโอได้เต็มตา รวมไปถึงการท่องเว็บไซต์ต่างๆ ส่วนชิปประมวลผลสามารถตอบสนองการใช้งานโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก และเล่นเกมได้ นอกจากนี้สมาร์ทโฟนของ Samsung ยังสนับสนุนบริการและให้สิทธิพิเศษต่างๆ จาก Galaxy Gift หรือ Galaxy Rewards ที่เป็นอีกจัดเด่นสำคัญอีกด้วย
Galaxy J4+ พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคาเพียง 4,690 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการมือถือถ่ายภาพแบบละลายฉากหลังได้แนะนำให้พิจารณา Galaxy J6+ ซึ่งขยับราคาขึ้นมาอยู่ที่ 7,990 บาท ซึ่งนอกจากจะได้รับกล้องคู่หลัง กล้องเซลฟี่ที่มีความละเอียดกว่า ยังให้ความจำ RAM กับ ROM มากกว่าด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy J4+
ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy J6+