หลังจากที่ชมรีวิวแกะะกล่อง iPhone XS และ iPhone XS Max ความจุ 512GB กันไปแล้ว ตอนนี้ทีมงาน @flashfly ก็มีอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมากๆกับ iPhone XR ที่วางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมพร้อมกันทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยที่วางจำหน่ายพร้อมกับ iPhone XS และ iPhone XS Max เลย ซึ่ง iPhone XR มีให้เลือกทั้งหมด 6 สีสันด้วยกัน โดยเครื่องที่ทีมงาน @flashfly ได้มานั้นเป็นสีดำซึ่งภาพตัวเครื่องบนกล่องก็จะแตกต่างกันตามสี โดย iPhone XR มีให้ความจุสูงสุด 256GB ราคาเริ่มต้นของ 64GB อยู่ที่ 29,900 บาท
ขนาดตัวเครื่องของ iPhone XR นั้นอยู่ที่ 6.1 นิ้วซึ่งภาพบนกล่องจะมีขนาดเท่ากับเครื่องเลย ด้านข้างจะมีคำว่า iPhone สีเดียวกับตัวเครื่อง รวมไปโลโก้รูป Apple ที่อยู่ด้านบนและล่างก็จะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องเช่นเดียวกัน
ด้านหลังจะบอกความจุชัดเจนว่า 256GB มีภาษาไทยบอกรายละเอียดของที่อยู่ในกล่องทั้งตัวเครื่อง iPhone XR หูฟัง EarPods แบบ Lightning ,สาย Lightning USB และอะแดปเตอร์แปลงไฟ
เปิดกล่องออกมาก็จะมีซองกระดาษ Designed by Apple in California วางอยู่ด้านบนเช่นเดียวกับ iPhone XS และ iPhone XS Max
ภายในซองก็จะมีคู่มือการใช้งาน เอกสารการรับประกันตัวเครื่อง เข็มจิ้มถาดใส่ซิม และสติ้กเกอร์โลโก้ Apple สีขาว แม้ว่าตัวเครื่องจะเป็นสีอะไรก็ตาม
ถัดมาเราก็จะพบกับตัวเครื่อง iPhone XR วางอยู่พร้อมพลาสติกติดอยู่ทั้งด้านหน้ายาวไปถึงด้านหลังตัวเครื่อง
หยิบขึ้นมาดูขนาดกำลังดี 6.1 นิ้ว มี Face ID ให้ใช้งานแบบ iPhone XS และ iPhone XS Max ส่วนปุ่ม Home นั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ด้านข้างใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมที่น้ำหนักเบาและแข็งแรงและมีสีเดียวกับกระจกด้านหลังตัวเครื่อง ต่างจาก iPhone XS และ iPhone XS Max ที่เป็นสแตนเลส
ด้านหลังจะมีกล้องเลนส์เดียวขนาดใหญ่นูนขึ้นมา ตัวเครื่องใช้กระจกแบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone XS และ iPhone XS Max ที่ทนทานกว่าเดิม รองรับการชาร์จไร้สาย และตัวเครื่องกันน้ำได้ระดับเดียวกับ iPhone X
มาดูกันต่อกับอุปกรณ์ในกล่องซึ่งของ iPhone XR จัดเรียงมาแบบเดียวกับ iPhone XS Max
มาเริ่มกันที่หูฟัง EarPods พร้อมหัวต่อแบบ Lightning ซึ่งก็ไม่มีหัวแปลงพอร์ต Lightning เป็นแจ็ก 3.5 มม.แถมมาอีกเช่นเดียวกับ iPhone XS และ iPhone XS Max แล้วใครจำเป็นต้องใช้งานต้องซื้อเพิ่มอีก 390 บาท
สาย Lightning ความยาว 1 เมตรสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
สุดท้ายกับ อะแดปเตอร์แปลงไฟขนาด 5 วัตต์ ที่คุ้นเคยกันดี
แน่นอนว่า iPhone XR ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยนั้นรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมเช่นเดียวกับ iPhone XS และ iPhone XS Max นั่นก็คือใช้ซิมแบบ Nano ซิมและ eSIM ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 ค่ายผู้ให้บริการมือถือในไทยก็อยู่ในระหว่างเปิดให้บริการ
สำหรับรีวิวฉบับเต็มของ iPhone XS ,iPhone XS Max และ iPhone XR สามารถติดตามได้เร็วๆนี้ แถมท้ายด้วยใครที่รอ Apple Watch Series 4 อยู่ตอนนี้ก็เตรียมเป็นเจ้าของได้ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้จะวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นวันแรก ทั้งรุ่น GPS และรุ่น GPS + Cellular ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทีมงาน @flashfly ได้มาเมื่อไรจะรีบนำมาแกะกล่องให้ชมกันก่อนใครอย่างแน่นอน