เปิดจองและวางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุดกับรุ่น Find X จากทางค่าย OPPO ซึ่งทิ้งช่วงห่างหายไปจากรุ่น Find 7 ไปถึง 4 ปีเต็มซึ่งแน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้คุ้มค่าแก่การรอคอยของแฟนๆอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมซ่อนกล้องและเซนเซอร์ที่เรียกว่า (Stealth 3D Cameras) ทำให้หน้าจอไม่มีรอยบากอย่างแท้จริงมีพื้นที่แสดงผลบนหน้าจอถึง 93.8% ดีไซน์ไร้กรอบใช้วัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ไล่เฉดสีสวยงามและทนทาน
ซึ่งทีมงาน @flashfly นั้นก็ได้ทำการพรีวิวและรีวิวกันไปเรียบร้อยแล้วแต่ในครั้งนี้จะมาเจาะลึกกับการรีวิวทดสอบใช้งานกล้องของ OPPO Find X ว่ามีอะไรที่น่าสนใจเป็นพิเศษทั้งกล้องหน้าและกล้องคู่ด้านหลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเครื่อง
มาเริ่มกันที่สเปกกันก่อนกล้องหน้าและกล้องคู่หลังของ OPPO Find X นั้นจะถูกซ่อนอยู่ในตัวเครื่องเมื่อกดเปิดใช้งานแอพกล้องตัวกล้องจะเลื่อนขึ้นด้วยอัตโนมัติอย่างสมูทด้วยเวลาไม่เกิน 0.6 วินาที จากนั้นเราก็พบกับกล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียดถึง 25 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ IMX576 ตัวท็อปของ Sony รูรับแสง f/2.0 ถ่ายเซลฟี่ได้ภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย
มาพร้อม 3D AI Beauty ที่สามารถปรับแต่งโครงหน้าได้ทั้ง ทรงจมูก ดวงตา คาง และโหนกแก้ม โดยจะมี 4 สไตล์การปรับแต่งใบหน้าให้เลือก เมื่อตั้งค่าการปรับแต่งใบหน้าเรียบร้อยแล้วพอเราถ่ายภาพเซลฟี่ครั้งต่อไป AI ก็จะช่วยปรับแต่งให้ตามที่ตั้งค่าโดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนฟีเจอร์แบบนี้ว่าหาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในตลาดตอนนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซลของ OPPO Find X ยังมีเทคโนโลยี AI Beautification ในการตรวจจับใบหน้าที่มีความแม่นยำสูงด้วยการประมวลผลจุดบนหน้า 296 จุด จึงสามารถช่วยปรับแต่งใบหน้าได้หลากรูปแบบโดยอิงจากเพศ อายุ และผิวพรรณ แยกแยะชายหญิงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เท่านี้ยังไม่พอกล้องหน้ายังสามารถใช้งาน AI Portrait Mode ได้ด้วย สามารถเลือกได้ปรับโหมดแสงได้ถึง 6 แบบดังนี้ natural light (แสงธรรมชาติ) , rim light (แสงเค้าโครง) , face light (แสงใบหน้า) , bi-color light (แสงแบบ 2 สี), canvas light (แสงแบบผ้าใบ) และ local light (แสงเฉพาะที่)
สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆในกล้องหน้านั้นมาเต็มทีเดียวทั้งโหลด TIME-Lapse,VDO ถ่ายได้ความละเอียด Full HD 1080p ถ้าใส่โหมดบิ้วตี้เข้าไปจะลดเหลือ 720P เลือกความใสได้ 6 ระดับ พร้อมฟิลเตอร์อีก 10 แบบ โหมด Photo ที่รองรับ HDR ,3D AI Beauty และ AI Beauty ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติได้ 3 วินาที หรือ 10 วินาที หรือจะยกมือชู 5 นิ้วขึ้นมาก็ได้ ดีหมด Sticker ที่หลายคนชื่นชอบก็มีมาให้เลือกเพียบ สุดท้ายกับเซลฟี่มุมกว้างด้วยโหมด PANO
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหน้าของ OPPO Find X
แถมด้วยลูกเล่นเก๋ๆอย่าง 3D Omoji การแสดงอารมณ์เป็นตัวการ์ตูน 3D สุดแสนน่ารักที่เซ็นเซอร์จะตรวจจับใบหน้าของเราขยับไปพร้อมกันทั้ง ศรีษะ ตา 2 ข้าง จมูก ปาก ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งเจ้าเป็ดน้อย แมว หรือแแม้แต่มังกร
ถ้าไม่ถูกใจยังสามารถสร้างโมเดลเป็นตัวเราเป็นตัวการ์ตูน 3D ได้อีกด้วย สามารถเปิดใช้งานด้วยการเปิดกล้องหน้าแล้วเข้าไปที่ Sticker กดเลือกที่ไอค่อนรูปคน กดปุ่ม + จากนั้นสแกนใบหน้าเราก็จะได้ ตัวการ์ตูน 3D ที่เป็นตัวเราเอง
มาพร้อมสติ้กเกอร์ Emoji Packages เป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหว GIF ให้อีก 12 แบบสามารถใช้ส่งให้เพื่อนบนโลกออนไลน์ได้อีกด้วย
กล้องหน้าสุดยอดขนาดนี้แต่กล้องหลังสุดยอดยิ่งกว่าเพราะเป็นกล้อง RGB เลนส์คู่ AI ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ IMX519 ของ IMX519 ของ Sony อีกตัวความละเอียด 20 ล้านพิกเซลใช้เซ็นเซอร์ IMX376k รูรับแสง f/2.0 เท่ากันทั้ง 2 เลนส์ มีไฟแฟลช LED คั่นตรงกลาง
OPPO Find X มาพร้อม AI Scene Recognition 2.0 จำแนกซีนต่างๆ ได้กว่า 21 หมวดหมู่ปรับภาพให้เหมาะสมรวมกันได้มากกว่า 800 ซีนไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ ดอกไม้ ต้นไม้ ท้องฟ้า อาหาร หรือพระอาทิตย์ตกดินเป็นต้น แถมยังมีระบบลดการสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) ทำให้ภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือเมื่อนำ OPPO Find X ไปถ่ายภาพผ่านหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ อย่างแท็ปเล็ต หรือจอ TV ตัวกล้องจะสามารถตัดเส้นรบกวนออกไปได้อีกด้วย
ถ่ายภาพบุคคลให้สุดยอดไปอีกขั้นด้วย AI Portrait Mode ของกล้องคู่หลังด้วยเทคนิคการจัดแสงในภาพแบบ 3D lighting ที่ออกมาเพื่อสมาร์ทโฟนกล้องคู่โดยเฉพาะ ซึ่งจะมี AI เป็นผู้ช่วยในการจัดแสง ปรับแต่งความความชัดตื้นลึกแบบเดียวกับการถ่ายภาพในสตูดิโอ ซึ่งโหมดแสงไฟในกล้องหลังก็จะมีให้เลือก 6 แบบแตกต่างจากกล้องหน้าอยู่เล็กน้อย ดังนี้ natural light (แสงธรรมชาติ), film light (แสงแบบภาพยนตร์), mono-tone light (แสงสีเดียว), bi-color light (แสงแบบ 2 สี), canvas light (แสงแบบผ้าใบ) และ shake light (แสงสั่น)
โดยเมื่อถ่ายเราสามารถกลับมาแก้ไขภาพถ่ายเลือกสภาพแสงอื่นได้ใหม่ตลอดเวลาอีกด้วยโดยการกดปุ่มไอค่อนรูปคนที่มุมขวาล่างของภาพ แถมยังมีให้เลือกมากกว่าในโหมดกล้องนั่นคือ แสงเฉพาะที่(Local Light)เปลี่ยนฉากหลังเป็นสีขาวดำและแสงสายรุ้ง (Rainbow Light) เพิ่มความสดใสในภาพ โดยโหมดแสงทั้ง 2 แบบนี้เลือกเพิ่มได้กับภาพถ่าย Portrait Mode ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังอีกด้วย
ถ้าไม่ถูกใจก็สามารถถ่ายภาพในโหมดผู้เชี่ยวชาญหรือโหมดโปรได้ ซึ่งโหมดนี้เราจะสามารถปรับค่าต่างๆได้เองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ระยะโฟกัส ,ความไวชัตเตอร์ ,ISO,ค่าชดเชยแสง และ WB ทำให้สามารถถ่ายภาพตอนกลางคืนแบบไลท์เทลที่มีแสงไฟยาวๆตามท้องถนนขณะรถวิ่งได้อีกด้วย แน่นอนว่าต้องใช้ขาตั้งช่วยในการป้องกันภาพสั่น
ขณะที่โหมดอื่นๆก็มีมาให้ใช้งานครบครันไม่ว่าจะเป็น TIME-Lapse,Slo-Mo ความละเอียด Full HD ,VDO ที่รองรับความละเอียดถึง 4K ยังสามารถใส่บิ้วตี้เข้าไปได้อีกถึง 6 ระดับด้วย รวมถึงใส่ฟิลเตอร์ได้,โหมดกล้องรองรับ Google Lens ซูมเลนส์ได้ 2 เท่า เลือกสัดส่วนภาพถ่ายได้แบบ 4:3 1:1 และแบบ Full Screen เต็มหน้าจอ มีฟิลเตอร์ให้เลือก 10 แบบ รวมถึงถ่ายภาพมุมกว้าง Panorama ได้ ส่วนโหมด Sticker ของกล้องหลังก็มีให้เลือกจุใจแบบกล้องหน้าแต่จะไม่สามารถใช้งาน 3D Omoji ได้
สำหรับการถ่ายภาพย้อนแสงหรือ HDR ของ OPPO Find X นั้นก็หมดปัญหาเพราะมาพร้อมกับเซนเซอร์ HDR 2.0 ที่ช่วยไล่เฉดสี 3 ระดับได้ภายใน 1 พิกเซล และด้วยเทคโนโลยี HDR 2.0 จะทำให้สีภาพถ่ายออกมาสวยสมจริงไม่มืดหรือพล่ามัวแต่อย่างใด
ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้เพื่อช่วยให้มองเห็นรายละเอียดในภาพถ่ายที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นไปอีก OPPO ยังได้ใส่เทคโนโลยี RAW HDR เข้าไปใน OPPO Find X อีกด้วยซึ่งโดยปกติแล้วเซนเซอร์ HDR โดยทั่วไปจะย่อคุณภาพของภาพถ่ายก่อนแล้วจึงค่อยปรับแต่งภายหลัง แต่สำหรับเทคโนโลยี RAW HDR ใน OPPO Find X จะไม่ย่อคุณภาพไฟล์ภาพ และจะปรังแต่งภาพโดยตรง ทำให้ได้ภาพถ่าย HDR ที่มีคุณภาพดีชัดเจนและดูมีมิติมากกว่ารุ่นอื่นๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องคู่หลังของ OPPO Find X และนี่คือความสามารถของกล้องหน้าและกล้องคู่ด้านหลัง OPPO Find X ที่ต้องบอกว่าทาง OPPO ได้จัดเต็มมาแบบสุดๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนใครชื่นชอบด้านการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
แถมยังมีดีไซน์ตัวเครื่องหรูหราสวยงามหน้าจอขอบโค้งไร้รอยบากขนาด 6.4 นิ้วทั้งหน้าจอและฝาหลังใช้กระจก 3D แบบพิเศษ ด้วยการเจียระไนแบบ 2.5D จนสุดขอบ ดีไซน์ฝาหลังเป็นสีไล่เฉดแวววาวสวยงามอย่างยิ่ง
OPPO Find X มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 845 AIE แรม 8GB หน่วยความจำภายใน 256GB และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge ชาร์จไฟเพียง 5 นาที คุยโทรศัพท์ต่อได้นานถึง 2 ชั่วโมง แถมยังเครื่องไม่ร้อนระหว่างชาร์จด้วย วางจำหน่ายแล้วในราคา 29,990 บาท ซื้อตอนนี้จะได้ของแถมเป็น Tripod ชุดขาตั้งกล้อง (มูลค่า 1,700 บาท) และที่ชาร์จแบบไวสำหรับรถยนต์ (มูลค่า 1,500 บาท) สามารถติดตามข่าวสารจาก OPPO ได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai/