ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง ณ สำนักงานของบริษัท Apple ในนครซานฟรานซิสโก เมื่อคืนวันพุธ (7 มีค) หรือตรงกับบ้านเราในเช้าวันพฤหัส (8 มีค.) เมื่อนายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนใหม่ถอดด้ามของบริษัทกล่าวเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะมาแทนที่ iPad 2 ที่วางตลาดมาแล้วประมาณ 1 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาปกติที่บริษัทแอปเปิลแหว่งจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าทดแทนสินค้าที่อยู่ในตลาดตัวเดิม พร้อมๆกับการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ ที่ถือเป็นการหักปากกาเซียนไอที ทั้งหลายที่เรียก แท็บเล็ตตัวใหม่ของแอปเปิลว่า iPad 3 ทำให้สาวกสินค้าตระกูลไอทั่วโลกนั้นติดปากกันในชื่อนี้แล้ว แต่ทิม คุก กลับเรียกแท็บเล็ตตัวนี้ว่า New iPad
นายคุก กล่าวว่า โลกได้เข้าสู่ยุค “หลังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล” แล้วและแอปเปิลก็เชื่อมั่นว่าจะเป็นเจ้าตลาดในยุคนี้อย่างแท้จริงแต่สิ่งที่รอ Apple อยู่นั่นคือ ปัญหาลิขสิทธิ์ ชื่อ iPad ที่อาจจะทำให้กระดานชนวนอิเลกทรอนิคส์ทุกเครื่องของ Apple เป็นหอกที่กลับมาแทงหัวใจของบริษัทได้อย่างแสนจะเจ็บปวดและยิ่ง Apple ขาย iPad ได้มากเท่าไหร่ ก็อาจจะต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ให้กับโจทก์รายสำคัญนั่นคือ Proview มากขึ้นเท่านั้นอีกด้วย เพราะทุกวันนี้ Proview ยังคงกัดไม่ปล่อยกับการที่บริษัทอ้างว่า Apple ละเมิดลิขสิทธิ์การใช้ชื่อ iPad ที่บริษัทได้ถือครองและจดลิขสิทธิ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว
Proview ที่เป็นเครือบริษัทอิเลกทรอนิคส์ที่มีสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ และ ในไต้หวัน ได้ใช้ช่องทางกฏหมายเข้าจัดการกับ Apple อย่างดุเดือด ล่าสุดบริษัทเสิ่นเจิ้น โปรวิว เทคโนโลยี ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกเตือนตัวแทนจำหน่ายไอแพดในแดนมังกรให้ “หยุด” จำหน่ายไอแพดในประเทศจีน หากไม่ต้องการจะมีปัญหาถูกฟ้องร้อง “ขั้นเด็ดขาด” จากการละเมิดลิขสิทธิ์คำว่า iPad
ก่อนหน้านี้ Proview ก็ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแดนมังกรให้พิจารณาแล้วว่าการที่ Apple ใช้ฐานการผลิต iPad ในแดนมังกรนั้น จะเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าด้วยหรือเปล่า ถ้าศาลจีนเกิดเห็นใจบริษัทร่วมชาติสั่งให้ Proview เป็นฝ่ายชนะคดีก็จะทำให้ Apple ต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลให้กับ Proview เมื่อนั้นยอดขาย iPad ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทิ่มแทง Apple อย่างเจ็บปวดที่สุด
กระนั้นก็ดี การที่ ทิม คุก ไม่ฟันธงว่ากระดานชนวนอิเลกทรอนิคส์รุ่นใหม่นี้จะใช้ชื่อว่า iPad 3 หรือ iPad HD ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า Apple กำลังพิจารณาทางออกกับปัญหาลิขสิทธิ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนที่ทั้งเป็นแหล่งผลิต และ ตลาดขนาดใหญ่ของบริษัทก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อหรือไม่ iPad ที่ออกมาสู่ตลาดแล้ว 55 ล้านเครื่อง นี่สิ ยังเป็นปัญหา เพราะ Proview “กัดไม่ปล่อย” จริงๆเพราะเห็นแล้วว่าประโยชน์มหาศาลรออยู่ตรงหน้านั่นเอง
ที่มา – bangkokbiznews