หลังจากที่ AIS ได้สร้างมิติใหม่แห่งการเล่นเน็ตบนมือถือด้วยการเปิดตัว NEXT G กันไปเมื่อราวช่วงปีที่ผ่านมากับปรากฎการณ์ของการเล่นเน็ตบนมือถือครั้งแรกในประเทศไทยและตะวันออกเฉียงใต้ที่จะสามารถให้ความเร็วและแรงได้สูงสุดถึงระดับ 1Gbps โดยในเบื้องต้นที่ได้เริ่มเปิดตัวมานั้นอาจจะยังมีสมาร์ทโฟนที่รองรับจำนวนไม่มากเท่าใดนัก แต่ในวันนี้ AIS ได้พัฒนาและขยายการใช้งานไปในกลุ่มที่กว้างขึ้น ให้สามารถรองรับกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android 7.0 ได้แล้ว ทำให้หลายคนให้ความสนใจกันมากขึ้นว่า NEXT G นี้คืออะไร ถ้าอยากใช้งานต้องทำอย่างไร วันนี้ทางทีมงาน @flashfly เลยขอมาไขข้อสงสัยให้ได้เห็นกัน
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนเลยว่า NEXT G จาก AIS นี้คืออะไร ถ้าจะอธิบายกันง่ายๆเลย ก็คือบริการใหม่จาก AIS ที่ได้นำเอาความเร็วของ 4G บนมือถือ มารวมกับความเร็วจาก AIS SUPER WiFi ทำให้สามารถใช้งานเล่นเน็ตบนมือถือที่ความเร็วมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วสำหรับ 4G น่าจะสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุดประมาณ 400 Mbps แต่สำหรับ NEXT G แล้วจะสามารถให้ความเร็วในการเล่นเน็ตบนมือถือได้สูงสุดถึงระดับ 1 Gbps เร็วกว่า 4G ที่เกือบ 2.5 เท่ากันเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ความเร็วที่ได้จะขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่ใช้งานอยู่ด้วย โดยเชิงเทคนิคและทฤษฏีแล้วคือการที่ AIS ได้นำเทคโนโลยีการควบรวมกันของ LTE Advanced บนคลื่นความถี่มือถือซึ่งได้มีการนำเทคโนโลยี 3CA , 4x4MIMO และ DL 256AQM มาช่วยทำให้รับส่งข้อมูลได้เร็วกว่า 4G ให้ความเร็วได้สูงสุด 700 Mbps มารวมกับความเร็วจาก AIS SUPER WiFi ที่ให้ความเร็วได้สูงสุดถึง 650 Mbps ทำให้เกิดเป็นการนำความเร็วในการใช้งานเน็ตบนมือถือได้เร็วแรงได้สูงสุดที่ระดับ 1 Gbps นั่นเอง
ในเบื้องต้นของการเปิดตัว NEXT G จาก AIS ได้มีการเปิดบริการเพื่อใช้งานกับรุ่นของสมาร์ทโฟนได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่ในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีเมื่อ AIS ได้พัฒนาและขยายฐานของกลุ่มผู้ใช้งานให้กว้างขึ้น โดยสามารถรองรับการใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android 7.0 ผ่านแอพพลิเคชั่นได้แล้ว พอได้รู้จักและเห็นถึงความเร็ว ความแรงของ NEXT G กันไปทำให้หลายคนรู้สึกว่าอยากใช้งาน NEXT G ขึ้นมาบ้าง แต่จะต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง มีแพ็กเกจแบบไหน ลองมาดูรายละเอียดกันได้เลยดีกว่า
อันดับแรกมาดูเงื่อนไขของการใช้งาน NEXT G กันก่อน ว่าหากต้องการใช้งาน NEXT G แล้วมีเงื่อนไขอย่างไรกันบ้าง
เงื่อนไขการเปิดใช้บริการ NEXT G
1. มีสมาร์ทโฟนที่รองรับและเปิดเมนู NEXT G ในส่วนของสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการใช้งาน NEXT G นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน นั่นก็คือ สมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการใช้งานได้เลยทันที ซึ่งสมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้จะมีเมนู NEXT G มาให้ในตัวเครื่องเลย โดยจะอยู่ภายในเมนูตั้งค่า เช่น Samsung Galaxy S7, Galaxy S7edge, Galaxy S8, Galaxy S8+ , Galaxy S9, Galaxy S9+ , Galaxy Note 8 , Galaxy Note FE , Galaxy A8, Galaxy A8+ และ LG G6 ส่วนสมาร์ทโฟนอีกกลุ่มนั้นคือสมาร์ทโฟน Android 7.0 ขึ้นไป ที่จะต้องมีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น AIS NEXT G จาก Google Play Store มาติดตั้งในตัวเครื่องเพื่อเปิดใช้งาน
2. เปิดใช้งาน Mobile Data และ AIS SUPER WiFi
3. มีแพ็กเกจ NEXT G
4. อยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ NEXT G คือมีทั้ง 4G และ AIS SUPER WiFi ถึงสามารถใช้งาน NEXT G ได้อย่างสมบูรณ์
ได้เห็นเงื่อนไขการใช้งาน NEXT G กันไปแล้ว คราวนี้มาถึงขั้นตอนการเปิดใช้งาน พร้อมมาดูรายละเอียดของแพ็กเกจ NEXT G กันต่อเลยดีกว่า
ขั้นตอนการสมัครและเปิดใช้งาน NEXT G
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบสมาร์ทโฟน
ตรวจสอบอุปกรณ์ว่ารองรับการใช้บริการนี้หรือไม่ โดยกด *987# โดยสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้ NEXT G ได้มี 2 แบบ
1.สมาร์ทโฟนรุ่นที่ไม่มีเมนู NEXT G ในเมนูตั้งค่า ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Android Version 7.0 ขึ้นไป และสามารถทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน AIS NEXT G ฟรี ได้ที่ Google Play Store ส่วนตัวแอพพลิเคชั่นก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆกับเมนูการใช้งานต่างๆที่ไม่ยุ่งยากซ้ำซ้อน
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน AIS NEXT G ได้ที่นี่ https://play.google.com/store/apps/details?id=th.co.mimo.nextg
2.สมาร์ทโฟนรุ่นที่มีเมนู NEXT G ในเมนูตั้งค่า (Embedded Menu) สามารถเปิดใช้งานในเมนูตั้งค่าได้เลย ไม่ต้องทำการดาวน์โหลดแอพพลิคเชั่น
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบดูว่ามีแพ็กเกจ NEXT G รองรับอยู่หรือไม่
– ถ้าเป็นลูกค้ารายเดือน ที่ใช้แพ็กเกจ 4G Max Speed 799 บาทขึ้นไป สามารถใช้งาน NEXT G ได้ทันที
– ถ้าลูกค้าไม่ใช้แพ็กเกจหลักดังกล่าว สามารถสมัครแพ็กเกจเสริม NEXT G ได้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 89 บาท กับระยะเวลาใช้งานนาน 1 วัน แต่ถ้าใครอยากใช้งานแบบยาวๆไปเลย 1 เดือน ก็จัดไปกับราคาที่ 599 บาทในระยะเวลา 30 วัน
ขั้นตอนที่ 3 เปิดใช้งาน
– อุปกรณ์รุ่นที่ไม่มีเมนู NEXT G ในเมนูตั้งค่า
เปิดใช้งาน Mobile Data
เปิดการเชื่อมต่อ AIS Smart Login / AIS SUPER WiFi และทำการ Login เข้าแอปพลิเคชัน AIS NEXT G และเปิดเมนู NEXT G
สังเกตสัญลักษณ์ NEXT G ตรงมุมบนซ้ายของหน้าจอ
– อุปกรณ์รุ่นที่มีเมนู NEXT G ในเมนูตั้งค่า (Embedded Menu)
เปิดใช้งาน NEXT G ได้จากเมนูการตั้งค่า Settings > Connections > NEXT G On
สังเกตสัญลักษณ์ NEXT G ตรงมุมบนขวาของหน้าจอ
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วเราจะสามารถใช้งาน NEXT G ได้ที่ไหนนั้น คำตอบก็คือ สามารถใช้บริการ NEXT G ได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยที่มีทั้ง AIS 4G และ AIS SUPER WiFi / AIS Smart Login ในพื้นที่นั้น ๆ หรือพูดง่ายๆคือจะต้องเป็นจุดที่มีสัญญาณ AIS 4G Advanced และ AIS SUPER WiFi อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เช่น ตามห้างสรรพสินค้า , community mall มหาวิทยาลัย เป็นต้น
หลังจากทำการสมัครและเปิดใช้บริการ NEXT G กันแล้ว มาถึงข้อสงสัยของหลายๆคนที่ว่า แล้ว NEXT G พอใช้งานจริงแล้วจะเร็วและแรงจริงอย่างที่ว่าไหม ทางทีมงาน @flashfly เลยมาทดสอบการใช้งานและทดสอบสปีดให้เห็นกันไปเลย
โดยในครั้งนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ใช้ Huawei P20 Pro ในการทดสอบใช้งาน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกในการใช้งานอินเตอร์เน็ทความเร็วสูงนอกบ้านได้แรงขนาดนี้ ซึ่งจากทดสอบความเร็วได้เฉลี่ยของ NEXT G ในช่วงบ่ายซึ่งเป็นเวลาที่มีผู้คนเดินช้อปปิ้งในห้างจำนวนมากได้ความเร็วเฉลี่ย 300 – 400Mbps ขึ้นไปซึ่งแตกต่างไปตามพื้นที่และสภาพแวดล้อม
โดยทีมงาน @flashfly เคยทดสอบได้ถึง 800Mbps มาแล้ว ซึ่งความเร็วระดับนี้สามารถดาวน์โหลด์ไฟล์ขนาด 1.9GB เสร็จได้ในเวลาไม่ถึง 20 วินาทีเลยทีเดียว หรือถ้าใครที่ใช้งานสมาร์ทโฟนมาตลอดทั้งวันแล้วแบตเตอรี่เหลือน้อย มีความจำเป็นต้องการส่งไฟล์ขนาดใหญ่ๆก็สามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยส่งไฟล์ไปด้วย
ทั้งนี้ความเร็วและแรงของการใช้งาน NEXT G นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ระยะห่างจากตัวส่งสัญญาณ ถ้าห่างออกจากตัวส่งสัญญาณค่าความแรงของสัญญาณก็จะลดลงเปรียบเทียบได้กับท่อในการส่งข้อมูล ยิ่งใหญ่ก็จะส่งข้อมูลได้มากขึ้น และท่อสั้นก็จะส่งถึงปลายทางได้เร็วกว่า หรือจะเป็นเรื่องของ คลื่นรบกวน ซึ่งในพื้นที่จริงๆ จะมีการใช้งาน wifi ที่หลากหลายทั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า, ห้าง, ผู้ให้บริการเครือข่ายเจ้าอื่นๆ หรือ pocket wifi เป็นต้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้การส่งข้อมูลถูกรบกวน อาจทำให้การส่งข้อมูลทำได้ช้าลง ส่วนคลื่น 4G ก็จะโดนรบกวนคล้ายๆ กัน
ซึ่งอาจถูกรบกวนได้จากอุปกรณ์บางชนิดเช่น Gate ประตู, RFID, อุปกรณ์ส่งคลื่นวิทยุที่ซื้อมาจากต่างประเทศเป็นต้น รวมไปถึงปริมาณคนใช้งานทั้ง 4G และ wifi นั้นจะเป็นการใช้งานแบบ share ดังนั้นถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีคนเยอะ หรือมีการใช้งานเยอะ ก็จะทำให้ใช้งานได้ความเร็วที่น้อยลง ตัวอย่างเช่นในห้างสรรพสินค้า จะถูกแบ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ดังนั้นปริมาณคนใช้งานอาจไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ของห้าง และจากข้อจำกัดที่ได้กล่าวมานี้ ทำให้ในแต่ละพื้นที่จะมีค่าความแรงของ 4G และ WiFi ไม่เท่ากัน ในบางที่ 4G สูง WiFi ต่ำ บางพื้นที่ WiFi สูง 4G ต่ำ ซึ่งทำให้การใช้งาน NEXT G อาจจะเห็นตัวเลขความเร็วที่ต่างกันนั่นเอง
โดยสรุปแล้ว AIS NEXT G อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่ AIS ได้พัฒนาและมอบให้กับผู้ใช้งานในประเทศไทย ได้สัมผัสกับความเร็วในการเล่นเน็ตในระดับสูงสุดถึง 1Gbps ซึ่งถือได้ว่าเร็วและแรงมากๆ จนไม่ต้องไปกังวลกับการใช้งานเน็ตบนมือถือเลย จะท่องโซเชียล ดูหนัง ดูคลิป ฟังเพลง เล่นเกม ดาวน์โหลดหนังมาดูแบบออฟไลน์ จะส่งไฟล์ขนาดใหญ่ขนาดไหนก็ไม่ต้องกลัวกันแล้ว ใครที่ตรวจสอบและเห็นว่าอยู่ในกลุ่มที่สามารถใช้งาน AIS NEXT G กันได้แล้ว ต้องรีบเข้ามาใช้งานกันด่วน เพราะถ้า NEXT G จะเร็วขนาดนี้ แล้วจะเล่นเน็ตบนมือถือแบบช้าๆกันอยู่ทำไม ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://m.ais.co.th/Flashflyng
บทความโดย – www.flashfly.net