Microsoft เปิดตัวสมาชิกใหม่ Surface Go แท็บเล็ตที่มีราคาถูกที่สุดในครอบครัว Surface มาพร้อมจอสัมผัส 10 นิ้ว รองรับปากกา Surface Pen บานพับที่ปรับองศาได้อย่างประณีต และสามารถแปลงร่างเป็นแล็ปท็อปได้ ซึ่งยากที่จะหลีกเลี่ยงการนำไปเปรียบเทียบกับ iPad ของ Apple
เมื่อเทียบกับ iPad ของ Apple ดูเหมือน Surface Go จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ซึ่งมีราคาถูกกว่า โดยวางจำหน่ายอยู่ที่ 329 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 10,900 บาท (ในประเทศไทยมีราคาเริ่มต้น 11,500 บาท) ส่วน Surface Go แขวนป้ายราคาเริ่มต้นไว้ที่ 399 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 13,220 บาท และต่อไปนี้ความแตกต่างระหว่าง Surface Go กับ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6)
เริ่มกันที่จอแสดงผล Surface Go ใช้จอแสดงผล PixelSense ขนาด 10 นิ้ว ระบบสัมผัสมัลติทัช ความละเอียด 1800 x 1200 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 3:2 ขณะที่ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ใช้จอแสดงผล Retina ขนาด 9.7 นิ้ว ระบบสัมผัสมัลติทัช ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3 จอแสดงผลของทั้งสองรุ่นให้ความคมชัดทั้งคู่ แต่ iPad จะให้ความคมชัดที่ดีกว่าเล็กน้อย
Surface Go รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Surface Pen ซึ่งรองรับแรงกด 4096 ระดับ ขณะที่ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ก็รองรับ Apple Pencil เช่นเดียวกัน โดยทั้ง Surface Pen และ Apple Pencil เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยกต่างหาก ไม่ได้แถมมาให้ในกล่อง
Surface Go ชั่งน้ำหนักได้ 522 กรัม ขณะที่ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) น้ำหนัก 469 – 478 กรัม ขึ้นกับรุ่น Wi-Fi หรือ Wi-Fi + Cellular ชัดเจนว่า Surface Go หนักกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังเบากว่า Surface Pro
ภายใน Surface Go มาพร้อมโปรเซสเซอร์ 7th-Generation Intel Pentium Gold ซึ่งเรายังไม่เห็นประสิทธิภาพว่าจะตอบสนองการใช้งานได้ดีขนาดไหนเมื่อรันแอพต่างๆ ของ Windows 10 ขณะที่ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ใช้ชิปประมวลผล Apple A10 Fusion
ความจุในตัวของ Surface Go เริ่มต้นที่ 64GB (eMMC) และยังมีให้เลือกอีก 2 รุ่น คือ 128GB (SSD) กับ 256GB (SSD) ส่วน iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) มีให้เลือก 2 รุ่น 32GB กับ 128GB
สำหรับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ Surface Go ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 9 ชั่วโมง ส่วน iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 10 ชั่วโมง
ด้านประสบการณ์การใช้งาน Surface Go ทำงานบน Windows 10 ใน S mode ซึ่งรองรับเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่อยู่ใน Microsoft Store เช่นเดียวกับ iPad 9.7 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ที่ทำงานบน iOS เวอร์ชั่นล่าสุด และรองรับเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่อยู่ใน App Store อย่างไรก็ตาม Surface Go สามารถอัพเกรดไปใช้ Windows 10 เวอร์ชั่นอื่น ที่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นจากภายนอกได้ แต่ถ้าหากออกจาก S mode ไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาใช้ S mode ได้อีก
แอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่ใน App Store ออกแบบมาให้ใช้งานบนอุปกรณ์จอสัมผัส ถึงแม้ในเวอร์ชั่นใหม่ จะสนับสนุนให้ iPad ทำงานในระบบ Multitasking ได้มากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับ Surface Go จะเห็นว่าแท็บเล็ตของ Microsoft สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดและเม้าส์ได้ จึงสามารถใช้งานในโหมดแล็ปท็อปได้เต็มรูปแบบ ส่วน iPad รองรับอุปกรณ์เสริมที่เป็นแผงคีย์บอร์ดเท่านั้น ไม่รองรับ Magic Mouse
นอกจากนี้ Surface Go ยังสนับสนุนพอร์ด USB-C 3.1 ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว และยังรองรับการ์ด microSD โดยรวมแล้ว Surface Go ตอบสนองการทำงานได้เต็มรูปแบบมากกว่า ขณะที่ iPad ใช้งานได้ดีในเรื่องของความบันเทิง
ที่มา – Phonearena
http://www.flashfly.net/wp/?p=223060