เรียกได้ว่า OPPO ปล่อยหมัดเด็ดรัวไม่ยั้งกับตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยหลังจากที่เปิดตัวและวางจำหน่าย OPPO F7 ไปไม่นานก็สร้างกระแสและยอดขาดแบบถล่มทลายไปแล้วยังส่งสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมมาลงตลาดบนอีกรุ่น
ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรากำลังอยู่กับสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของ OPPO ในตอนนี้นั่นก็คือ OPPO R15 Pro ที่พร้อมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว มีความโดดเด่นตั้งแต่การออกแบบ สเปก ฟีเจอร์การใช้งาน กล้อง แบตเตอรี่ ไปจนถึงเรื่องบริการหลังการขาย สำหรับ OPPO R15 Pro ถือว่ามีความพิเศษกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่ OPPO เคยนำเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเรา
มาเริ่มกันที่ดีไซน์ของ OPPO R15 Pro มีความพรีเมี่ยมด้วยวัสดุกระจก ใช้สีแบบไล่เฉดสี ทำให้พื้นผิวดูมีมิติ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Karim Rashid ดีไซน์เนอร์ชาวอียิปต์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้สีเป็นพิเศษ โดย OPPO R15 Pro ในประเทศไทยจะมีให้เลือก 2 สี คือ สีแดง Ruby Red กับ สีม่วง Cosmic Purple บอกได้คำเดียวว่ามันสวยมากๆ
ด้านหน้าก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ด้านหลัง ด้วยจอแสดงผลแบบ Super Full Screen ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.28 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19:9 ให้สัดส่วน screen-to-body อยู่ที่ 89% สูงที่สุดเท่าที่ OPPO เคยผลิตออกมา
โดยมีรอยบากที่ขอบจอด้านบนตามสมัยนิยม ซี่งรวมเอากล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลมาพร้อมเทคโนโลยี Sensor HDR ช่วยเก็บรายละเอียดภาพได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแสง และลำโพงเอาไว้ที่เดียวกันตรงกลางจอ
OPPO R15 Pro มากับความบาง 8 มิลลิเมตร ส่วนขอบด้านขวามือจะมีปุ่มปรับระดับเสียง แยกปุ่มเพิ่ม–ลดความดังของลำโพง
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ดและ MicroSD ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนซ่อนไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างจะพบกับลำโพง พอร์ต Micro USB ไมโครโฟน และ ช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
พลิกมาดูด้านหลังก็จะพบกล้องคู่หลังจาก Sony IMX519 ความละเอียด 16 + 20 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/1.7 ไฟแฟลช LED รองรับการถ่ายภาพในโหมด Portrait พร้อมเอฟเฟ็กต์แสง 3D มีการนำ AI มาใช้กับโหมด Beauty รวมถึงช่วยปรับค่ากล้องให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะถ่ายสัตว์เลี้ยง อาหาร ทิวทัศน์ และสามารถถ่ายวีดีโอได้ในระดับ 4K
กรอบเลนส์กล้องด้านหลังนูนขึ้นมาเล็กน้อย ปลอดภัยจากการเป็นรอยเมื่อใส่เคสที่ OPPO แถมมาให้ ที่สำคัญก็คือวัสดุกระจกและการไล่เฉดสี ทำให้ OPPO R15 Pro มีความสวยงามหรูหรา ไม่ต่างจากเรือธงของคู่แข่งในระดับราคเฉียดสามหมื่นบาท
ถัดลงมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือและโลโก้ OPPO ตรงกลางเครื่อง
ส่วนด้านล่างจะมีบอกละเอียดรหัสรุ่นและผลิตในประเทศจีน
ด้านความปลอดภัยการใช้งาน OPPO R15 Pro สามารถปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า รวมถึงมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านหลังตัวเครื่องเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
สำหรับอุปกรณ์ต่างๆที่มีมาในกล่อง OPPO R15 Pro นั้นมีดังนี้ เข็มจิ้มถาดใส่ซิม,คู่มือการใช้งานเบื้องต้น เคสใส หูฟังแบบ 3.5 มม. สาย Micro USB สำหรับชาร์จเร็ว และที่ชาร์จพกพา VOOC Flash Charge
ทางด้านสเปกของ OPPO R15 Pro ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE (Artificial Intelligence Engine) ซึ่งหมายถึงเป็นชิปที่มี AI ในตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพในด้านความปลอดภัย การเล่นเกม ระบบเสียง การถ่ายภาพ มาพร้อมจีพียู Adreno 512
ทำงานบนพื้นฐาน Android 8.1 Oreo สวมทับด้วย ColorOS 5.0 ความจำ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 128GB และสนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 256GB
ด้วยความสามารถของชิพเซ็ต Snapdragon 660 AIE (Artificial Intelligence Engine) ใน OPPO R15 Pro ซึ่งจะมีการใช้ AI ช่วยบริหารทรัพยากรภายในตัวเครื่อง ให้มีความลื่นไหลและรองรับการใช้งานในหลายๆฟังก์ชันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงยังสามารถรองรับการเล่นเกมต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะเกมฮิตอย่าง ROV ก็สามารถเล่นได้ด้วยเฟรมเรทที่ 60fps หรือจะเป็นเกม PUBG ก็สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลหมดห่วงเรื่องเกมกระตุกกันไปได้เลยเรียกได้ว่าถูกใจคอเกมอย่างแน่นอน
นอกจากจะมีชิพเซ็ต Snapdragon 660 ที่ถูกนำมาใช้ทำให้สามารถเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงแล้ว OPPO R15 Pro ยังมีส่วนเสริมความสามารถของชิพเซ็ต Snapdragon ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Game Acceleration ซึ่งจะเป็นโหมดที่มาช่วยเร่งการทำงานของซีพียูขึ้นทุกครั้งที่เริ่มเกม ปิดการแจ้งเตือนต่างๆไม่ให้มากวนใจ เล่นเกมออนไลน์แบบเต็มสปีด 4G ด้วยจัดการการเชื่อมต่อดาต้าของแอพที่เปิดทิ้งไว้ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะลื่นไหลไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะเกมยอดนิยมอย่าง ROV เมื่อเปิดเล่นบน OPPO R15 Pro พบว่ารองรับเฟรมเรทสูงถึง 60fps ภาพคมชัดระดับ HD เลยทีเดียวเรียกได้ว่าลื่นกันแบบหัวแตก
แถมเวลามีสายเรียกเข้าขณะเล่นเกมก็ไม่ต้องหยุดเล่นให้เสียอารมณ์เพราะสามารถรับสายได้ไปพร้อมๆกับเล่นเกมเลย เมื่อได้ทดสอบใช้งานแล้วจะเห็นได้เลยว่าสามารถเล่นเกมได้เต็มอรรถรสแบบไม่มีสะดุดให้เสียอารมณ์กันเลย
นอกจากนี้ขณะเล่นเกมก็ไม่พลาดข้อความหรือแชตสำคัญระหว่างที่กำลังดูคลิปหรือเล่นเกมบนหน้าจอแนวนอนอยู่เรายังสามารถใช้งานแอพด่วนได้ 3 แอพได้แก่ SMS, LINE และ FaceBook Messenger ได้ในเวลาเดียวกันด้วยฟีเจอร์ Full Screen Multitasking ซึ่งการเรียกใช้งานง่ายๆด้วยการปัดนิ้วจากขอบจอฝั่งซ้ายเข้ามา ก็จะเห็นไอคอนแอพด่วนที่รองรับการใช้งานแบบ Pop Up
ส่วนด้านล่างเป็นฟั่งชั่นด่วนได้แก่ อัดวิดีโอบนหน้าจอ จับภาพหน้าจอ และปิดการแจ้งเตือน ซึ่งด้วยฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถเล่นเกมโปรดได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมาสะดุดกับการเปิด หรือเปลี่ยนสลับแอพพลิเคชั่นไปมานั่นเอง รวมถึงการอัดวิดีโอหรือกดจับภาพหน้าจอขณะเล่นก็ทำได้ทันที แถมเครื่องไม่หน่วงสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลอีกด้วย
แน่นอนว่าในส่วนของการเล่นเกมนั้น หน้าจอของสมาร์ทโฟนก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้การเล่นเกมมีความสนุกและได้อรรถรสของเกมที่ครบถ้วน ซึ่ง OPPO R15 Pro ก็ได้จัดสเป็คมาให้เพื่อคอเกมได้เล่นเกมกันอย่างเต็มตา เพราะด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.28 นิ้ว ที่มาในแบบ Super Full Screen ทำให้มีมุมมองในการเล่นเกมที่กว้างและเต็มตา เต็มอารมณ์ของคอเกมอย่างแท้จริง
สเป็คในส่วนของ Ram และ Rom ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนเสริมประสิทธิภาพให้ OPPO R15 Pro นั้นสามารถเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม เพราะตัวเครื่องมาพร้อมกับ Ram 6GB ซึ่งจะมาช่วยทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมนั้นเล่นได้ไหลลื่นขค้าน รวมถึงสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นได้หลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ไม่มีสะดุด และถ้าต้องการย้อนกลับมาที่แอพพลเคชั่นเดิมที่ใช้งานค้างอยู่ก็ไม่ต้องเริ่มโหลดใหม่อีกด้วย ในขณะที่ส่วนของ Rom นั้น ก็จัดมาให้ถึง 128 GB ทำให้สามารถจุดข้อมูลได้เยอะสะใจทั้งเกมทั้งภาพถ่ายทั้งคลิปนั่นเอง
เล่นเกมกันแบบสะใจมาแล้วเรื่องแบตเตอรี่ก็หายห่วงเพราะ OPPO R15 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว 3,430 mAh สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge ซึ่งเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ ชาร์จแบตเตอรี่เพียง 5 นาที สามารถใช้สนทนาได้นานถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งมีแถมมาให้ในกล่องเรียบร้อย
คราวนี้มาถึงเรื่องของการทดสอบความโดดเด่นของกล้องบน OPPO R15 Pro กันบ้าง เพราะหลายคนสอบถามมาว่าสมาร์ทโฟนของ OPPO นั้นหลายๆรุ่นมีความโดดเด่นในเรื่องของกล้องเป็นอย่างมาก แล้ว OPPO R15 Pro รุ่นนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
จุดเด่นของ OPPO R15 Pro ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้น ต้องบอกว่ามาจากการที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับสเป็คของกล้องหลังคู่ 20 ล้านพิกเซล และ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมเซนเซอร์ใหม่ล่าสุดตัวแรกบนสมาร์ทโฟนกับSony IMX519 ซึ่งจะช่วยทำให้จับโฟกัสและถ่ายภาพคมชัดในสภาพแสงต่างๆได้ดีไม่ว่าจะเป็นที่แสงน้อยหรือที่แสงจ้า
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี AI-enhanced camera ที่มีฟีเจอร์ช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการถ่ายภาพ ใครที่กลัวว่าไม่ค่อยมีความรู้หรือไม่มีพื้นฐานในการถ่ายภาพแล้วจะถ่ายภาพไม่สวย หมดกังวลไปได้เลย เพราะ OPPO R15 Pro นั้นทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายและสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้นกว่าเดิมแถมยังได้ภาพที่สวยอีกด้วย
ส่วนสำหรับกล้องหน้านั้นมาพร้อมกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซลพร้อมเซนเซอร์ HDR ถ่ายภาพเซลฟี่สวยได้ทุกสถานการณ์ โดนใจคนชอบถ่ายเซลฟี่อย่างแน่นอน
ได้รู้ถึงสเป็คและความสามารถของกล้องกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาทดสอบคุณสมบัติของการถ่ายภาพในโหมดต่างๆกันดูบ้าง เริ่มจากการถ่ายภาพในโหมด AI Portrait Mode โดยการถ่ายภาพในโหมดนี้จะเป็นภาพถ่ายบุคคลที่มีฟีเจอร์Bokeh Effect หรือฟีเจอร์การทำหน้าชัดหลังเบลอภาพที่ได้จะมีความเบลอด้านหลังได้อย่างสวยงามรวมถึงมีความเรียบเนียนคมชัดมีมิติอีกด้วย
นอกจากนี้ในส่วนการถ่ายภาพในโหมด AI Portrait Mode ยังมีฟีเจอร์หรับแต่งแสงให้ภาพถ่ายดูดีมีมิติมากขึ้น กับเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า 3D portrait lighting ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีการปรับแต่งภาพแสงในแบบ 3D ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้ภาพได้มากขึ้น หรือพูดง่ายๆว่าคล้ายกับการถ่ายภาพในสตูดิโอนั่นเอง แต่สำหรับการถ่ายภาพด้วยOPPO R15 Pro นั้นจะเห็นได้ว่ามีความสะดวกสบายในการปรับแต่งเป็นอย่างมากเพราะสามารถใช้งานได้ง่ายในทันทีที่ต้องการทำให้ได้ภาพที่สวยงามโดยไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งด้วยวิธีอื่นให้ยุ่งยากกันเลย โดยโหมดต่างๆใน 3D portrait lighting มีดังต่อไปนี้
- Natural Light แสงธรรมชาติ โหมดยอดนิยมที่หลายคนมักนิยมใช้
- Film Light แสงแบบภาพยนตร์ โหมดนี้จะปรับแสงและสีบนใบหน้าให้สวยงามขึ้น
- Tone Light แสงขาวดำ เหมาะถ่ายภาพแนวคลาสสิก
- Contour Light แสงเน้นรูปร่าง จะเห็นสัดส่วนและเงาต่างๆบนใบหน้าชัดเจนขึ้น
- Bi-colour Light แสงแบบสองสีเขียวแดงให้อารมณ์ภาพที่แตกต่างจากที่เคยเห็น
ตัวอย่างภาพถ่าย 3D portrait lighting
ความฉลาดของกล้องบน OPPO R15 Pro นั้น ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI scene recognition ซึ่งจะสามารถตรวจจับและระบุได้ถึง 120 ความแตกต่างของภาพถ่ายและวัตถุ
พร้อมความสามารถในการจำแนกภาพได้ถึง 16 ประเภทยกตัวอย่างเช่นภาพอาหารภาพวิวภาพสัตว์เลี้ยงเป็นต้นโดยจะสามารถประมวลภาพถ่ายให้ดูดีเหมาะสมในแต่ละประเภทแต่ละหมวดหมู่ที่แตกต่างไปได้อย่างอัจฉริยะอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องเลนส์คู่ AI scene recognition
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี AI Beauty 2.0
มาดูความหน้าสนใจของกล้องหน้ากันบ้าง โดย OPPO R15 Pro นั้น กล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และเทคโนโลยี AI Beauty 2.0 ซึ่งจะมาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามอย่างเหมาะสมด้วยจุดประมวลผลกว่า 296 จุด
และสามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้ทั้งเพศ สีผิว โครงหน้า เพื่อภาพถ่ายบุคคลและภาพเซลฟี่ที่สวมเป็นธรรมชาติ พร้อมลงโซเชียลมีเดียทันทีในทุกๆ สถานการณ์
แถมยังถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหน้าได้ด้วยเช่นเดียวกันเพียงเปิดโหมด Depth Effect ละลายฉากหลัง
โหมด HDR ก็สามารถถ่ายฉากหลังให้คมชัดแม้จะมีแสงสว่างจ้าหรือถ่ายย้อนแสงก็ตาม
ใครอยากเพิ่มสีสันความสนุกให้กับภาพถ่ายให้ดูมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกันแล้วละก็ OPPO R15 Pro ก็จัดมาให้กับ AR Sticker สติกเกอร์น่ารักๆที่จะมาทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่สนุกสนานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
และนี้คือทั้งหมดของ OPPO R15 Pro เป็นการกลับมาทำตลาดอีกครั้งของ R series ในบ้านเรา ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ ต้องบอกว่ามากับความพรีเมี่ยม ดีไซน์หรูหรา เน้นคุณภาพกล้องที่ดีมากๆทั้งกล้องหน้าและกล้องคู่ด้านหลัง แถมให้แรมกับรอมมาอย่างจุใจ เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลระดับ 60 FPS กันเลยทีเดียว
โดย OPPO R15 Pro เคาะราคาออกมาที่ 19,990 บาทวางจำหน่ายแล้วที่ OPPO Brand Shop และร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยจะได้รับของแถมเป็น Gift Box ซึ่งเป็นสายชาร์จ VOOC พร้อมหัวชาร์จความเร็วสูงสำหรับรถรวมมูลค่า 1,599 บาท พร้อมบริการหลังการขายที่พิเศษสุดๆไม่เหมือนใครอีกด้วย กับบริการ OPPO Premium Service บริการสุดพิเศษซึ่งถ้าหากเครื่องมีปัญหาที่เกิดจากการผลิต ไม่ต้องรอซ่อม ไม่ใช่จากตัวผู้ใช้เอง จะสามารถมาเปลี่ยนเครื่องได้ทันทีที่ศูนย์บริการ OPPO ได้ทันที ภายใต้เงื่อนไขการประกัน
บทความโดย – www.flashfly.net