Qualcomm เปิดตัวชิปประมวลผล Snapdragon 710 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ Xiaomi ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Mi 8 SE ที่มาพร้อมชิป Snapdragon 710 และสัปดาห์ที่แล้ว Vivo ก็ได้เปิดตัว NEX A ซึ่งใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน ที่น่าสนใจก็คือ สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น เป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ แต่เป็นอีกตัวเลือกที่ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด
ทำความรู้จักกับ Snapdragon 710
Xiaomi Mi 8 กับ Vivo NEX S เป็นรุ่นท็อปมากับชิป Snapdragon 845 ส่วน Xiaomi Mi 8 SE กับ Vivo NEX A จัดเป็นรุ่นเริ่มต้นของ series เดียวกัน จึงมากับชิป Snapdragon 710 ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 10 นาโนเมตร มาพร้อมจีพียู Adreno 616 ลดการใช้พลังงานมากถึง 40% สำหรับการเล่นเกมหรือดูวีดีโอ 4K HDR และลดการใช้พลังงานมากถึง 20% สำหรับวีดีโอสตรีมมิ่ง อีกทั้งสถาปัตยกรรม Kryo 360 ยังให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 20% ท่องเว็บเร็วขึ้น 25% เปิดแอพไวขึ้น 15% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 660
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710 ยังมากับ AI Engine เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนที่เน้นใช้งานด้าน AI ทั้งกล้องและเสียง ใช้ชิปโมเด็ม Snapdragon X15 LTE สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 800 Mbps และรองรับเทคโนโลยี Quick Charge 4+ ชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ในเวลาเพียง 15 นาที
จอแสดงผล
Xiaomi Mi 8 SE มากับจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 2244 x 1080 พิกเซล ขนาด 5.88 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 18.7:9 ขนาดบอดี้ 147.28 x 73.09 x 7.5 มิลลิเมตร ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ใช้จอแสดงผล 5.2 นิ้ว โดยหน้าจอมีรอยบากเหมือนกับรุ่น Mi 8 และ Mi 8 Explorer Edition แต่ไม่สนับสนุน 3D Face Unlock เหมือนกับรุ่นพี่
Vivo NEX A มากับจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 2316 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.59 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.3:9 ไม่มีรอยบาก และยังให้อัตราส่วน screen-to-body สูงถึง 91.24% ขณะที่ Xiaomi Mi 8 SE มีอัตราส่วน screen-to-body อยู่ที่ 86.12% นั่นหมายถึง Vivo NEX A มีขอบจอที่บางกว่า อย่างไรก็ตาม NEX A ไม่ได้รับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผล แบบเดียวกับรุ่น NEX S
ประสิทธิภาพ
ถึงแม้ทั้งคู่จะใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน แต่ยังมีความแตกต่างในเรื่องของความจำ Xiaomi Mi 8 SE มากับ RAM 4GB หรือ 6GB จับคู่กับ ROM 64GB โดยเวอร์ชั่น RAM 6GB ได้รับ 1,863 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 5,925 คะแนน สำหรับ Multi-Core จากการทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่น GeekBench
Vivo NEX A มีตัวเลือกเดียว คือ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 128GB และจากการทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่นเดียวกัน ทำได้ 1,833 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 5,805 คะแนน สำหรับ Multi-Core
แบตเตอรี่
Xiaomi Mi 8 SE ใช้แบตเตอรี่ความจุ 3120mAh จากการทดสอบด้วย PC Mark เมื่อปรับความสว่าง 80% และระดับเสียง 20% ได้ผลออกมาที่ 9 ชั่วโมง 37 นาที และเมื่อปรับความสว่าง 53% พบว่าพลังงานของแบตเตอรี่หายไป 14% เมื่อเล่นวีดีโอในระบบออนไลน์ได้นาน 1 ชั่วโมง และหายไป 11% เมื่อเล่นเกมนาน 30 นาที
ทางด้าน Vivo NEX A มากับแบตเตอรี่ 4000mAh เมื่อเล่นวีดีโอนาน 1 ชั่วโมง ระดับพลังงานของแบตเตอรี่หายไป 12% และเมื่อเล่นเกมนาน 30 นาที ระดับแบตเตอรี่จะหายไป 11% – 14%
กล้อง
Xiaomi Mi 8 SE มาพร้อมกล้องคู่หลัง ตัวหลัก 12 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน รูรับแสง f/1.9 สนับสนุน Dual PD ตัวรอง 5 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.0 สนับสนุนเทคโนโลยี AI ในการจดจำฉากได้มากกว่า 206 ประเภท ส่วนกล้องเซลฟี่ 20 ล้านพิกเซล รองรับ AI Smart Beauty 4.0
Vivo NEX A ใช้กล้องคู่หลัง 12 + 5 ล้านพิกเซล กล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล อย่างไรก็ตาม กล้องหลักของ NEX A ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363 แบบเดียวกับที่พบใน Mi 8 ซึ่งมากับขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน รูรับแสง f/1.8 รองรับเทคโนโลยี full-pixel dual-core focusing และสนับสนุนเทคโนโลยี 4-axis OIS + EIS
ราคา
- Xiaomi Mi 8 SE รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 1,799 หยวน หรือราว 9,100 บาท
- Xiaomi Mi 8 SE รุ่น RAM 6GB + ROM 64GB ราคา 1,999 หยวน หรือราว 10,100 บาท
- Vivo NEX A มีตัวเลือกเดียว RAM 6GB + ROM 128GB ราคา 3,898 หยวน หรือราว 19,700 บาท
ที่มา – Gizchina
http://www.flashfly.net/wp/?p=221113