หลังจากที่ OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กับ OPPO R15 Pro ก็ปรากฎว่าได้กลายเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ฮอตฮิตติดกระแสกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นฮิตตามรอยรุ่นพี่ในซีรี่ย์ R มาอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของ Strategy Analyticd จะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ R ในรุ่น OPPO R9s นั้นได้ด้ขึ้นแท่นเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ขายดีอันดับ 1 ในโลกในไตรมาสแรกของปี 2560 กันเลยทีเดียว ซึ่งดูเหมือนว่า OPPO R15 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นน้องนี้ก็กำลังจะตามรอยความฮิตของรุ่นพี่มาติดๆนั่นเอง
ด้วยสเป็คและความโดดเด่นที่น่าสนใจของ OPPO R15 Pro ไม่ว่าจะเป็น กล้องหลังคู่ 20 และ 16 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด Sony IMX519 กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลพร้อมเซนเซอร์ HDR ตัวเครื่องดีไซน์กระจกโค้ง 3D มีมิติ มีความโค้งมนไล่เฉดสีสวยงาม หน้าจอแบบ Super Full Screen 6.28 นิ้ว FHD เทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge และ ชิพเซ็ต Snapdragon 660 AIE
ซึ่งอย่างที่เคยได้ทดสอบใช้งานประสิทธิภาพของชิพเซ็ต Snapdragon 660 ไปให้ได้เห็นกันในเรื่องของการเล่นเกมฮิตอย่าง ROV ที่เฟรมเรทระดับ 60fps และเกมยอดฮิตอย่าง PUBG กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่า OPPO R15 Pro สามารถตอบสนองการใช้งานในส่วนนี้ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดกันเลย
คราวนี้มาถึงเรื่องของการทดสอบความโดดเด่นของกล้องบน OPPO R15 Pro กันบ้าง เพราะหลายคนสอบถามมาว่าสมาร์ทโฟนของ OPPO นั้นหลายๆรุ่นมีความโดดเด่นในเรื่องของกล้องเป็นอย่างมาก แล้ว OPPO R15 Pro รุ่นนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
จุดเด่นของ OPPO R15 Pro ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้น ต้องบอกว่ามาจากการที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับสเป็คของกล้องหลังคู่ 20 ล้านพิกเซล และ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 พร้อมเซนเซอร์ใหม่ล่าสุดตัวแรกบนสมาร์ทโฟนกับ Sony IMX519 ซึ่งจะช่วยทำให้จับโฟกัสและถ่ายภาพคมชัดในสภาพแสงต่างๆได้ดีไม่ว่าจะเป็นที่แสงน้อยหรือที่แสงจ้า
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี AI-enhanced camera ที่มีฟีเจอร์ช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการถ่ายภาพ ใครที่กลัวว่าไม่ค่อยมีความรู้หรือไม่มีพื้นฐานในการถ่ายภาพแล้วจะถ่ายภาพไม่สวย หมดกังวลไปได้เลย เพราะ OPPO R15 Pro นั้นทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายและสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้นกว่าเดิมแถมยังได้ภาพที่สวยอีกด้วย
ส่วนสำหรับกล้องหน้านั้นมาพร้อมกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซลพร้อมเซนเซอร์ HDR ถ่ายภาพเซลฟี่สวยได้ทุกสถานการณ์ โดนใจคนชอบถ่ายเซลฟี่อย่างแน่นอน
ได้รู้ถึงสเป็คและความสามารถของกล้องกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาทดสอบคุณสมบัติของการถ่ายภาพในโหมดต่างๆกันดูบ้าง เริ่มจากการถ่ายภาพในโหมด AI Portrait Mode โดยการถ่ายภาพในโหมดนี้จะเป็นภาพถ่ายบุคคลที่มีฟีเจอร์ Bokeh Effect หรือฟีเจอร์การทำหน้าชัดหลังเบลอภาพที่ได้จะมีความเบลอด้านหลังได้อย่างสวยงามรวมถึงมีความเรียบเนียนคมชัดมีมิติอีกด้วย
นอกจากนี้ในส่วนการถ่ายภาพในโหมด AI Portrait Mode ยังมีฟีเจอร์หรับแต่งแสงให้ภาพถ่ายดูดีมีมิติมากขึ้น กับเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า 3D portrait lighting ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีการปรับแต่งภาพแสงในแบบ 3D ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้ภาพได้มากขึ้น หรือพูดง่ายๆว่าคล้ายกับการถ่ายภาพในสตูดิโอนั่นเอง แต่สำหรับการถ่ายภาพด้วย OPPO R15 Pro นั้นจะเห็นได้ว่ามีความสะดวกสบายในการปรับแต่งเป็นอย่างมากเพราะสามารถใช้งานได้ง่ายในทันทีที่ต้องการทำให้ได้ภาพที่สวยงามโดยไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งด้วยวิธีอื่นให้ยุ่งยากกันเลย โดยโหมดต่างๆใน 3D portrait lighting มีดังต่อไปนี้
- Natural Light แสงธรรมชาติ โหมดยอดนิยมที่หลายคนมักนิยมใช้
- Film Light แสงแบบภาพยนตร์ โหมดนี้จะปรับแสงและสีบนใบหน้าให้สวยงามขึ้น
- Tone Light แสงขาวดำ เหมาะถ่ายภาพแนวคลาสสิก
- Contour Light แสงเน้นรูปร่าง จะเห็นสัดส่วนและเงาต่างๆบนใบหน้าชัดเจนขึ้น
- Bi-colour Light แสงแบบสองสีเขียวแดงให้อารมณ์ภาพที่แตกต่างจากที่เคยเห็น
ตัวอย่างภาพถ่าย 3D portrait lighting
ความฉลาดของกล้องบน OPPO R15 Pro นั้น ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI scene recognition ซึ่งจะสามารถตรวจจับและระบุได้ถึง 120 ความแตกต่างของภาพถ่ายและวัตถุ
พร้อมความสามารถในการจำแนกภาพได้ถึง 16 ประเภทยกตัวอย่างเช่นภาพอาหารภาพวิวภาพสัตว์เลี้ยงเป็นต้นโดยจะสามารถประมวลภาพถ่ายให้ดูดีเหมาะสมในแต่ละประเภทแต่ละหมวดหมู่ที่แตกต่างไปได้อย่างอัจฉริยะอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องเลนส์คู่ AI scene recognition
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี AI Beauty 2.0
มาดูความหน้าสนใจของกล้องหน้ากันบ้าง โดย OPPO R15 Pro นั้น กล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และเทคโนโลยี AI Beauty 2.0 ซึ่งจะมาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามอย่างเหมาะสมด้วยจุดประมวลผลกว่า 296 จุด
และสามารถวิเคราะห์ใบหน้าได้ทั้งเพศ สีผิว โครงหน้า เพื่อภาพถ่ายบุคคลและภาพเซลฟี่ที่สวมเป็นธรรมชาติ พร้อมลงโซเชียลมีเดียทันทีในทุกๆ สถานการณ์
แถมยังถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหน้าได้ด้วยเช่นเดียวกันเพียงเปิดโหมด Depth Effect ละลายฉากหลัง
โหมด HDR ก็สามารถถ่ายฉากหลังให้คมชัดแม้จะมีแสงสว่างจ้าหรือถ่ายย้อนแสงก็ตาม
ใครอยากเพิ่มสีสันความสนุกให้กับภาพถ่ายให้ดูมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งกันแล้วละก็ OPPO R15 Pro ก็จัดมาให้กับ AR Sticker สติกเกอร์น่ารักๆที่จะมาทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่สนุกสนานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เห็นถึงความสามารถของกล้องบน OPPO R15 Pro กันไปแล้ว คงต้องบอกว่า OPPO นั้นจัดมาให้ค่อนข้างครบและโดนใจคนที่ชอบถ่ายภาพ หรือถ่ายเซลฟี่อย่างแน่นอน แต่ความพิเศษของ OPPO R15 Pro นั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของสเป็คเครื่องเท่านั้น ยังมีเรื่องของการบริการหลังการขายที่พิเศษสุดๆไม่เหมือนใครอีกด้วย กับบริการ OPPO Premium Service บริการสุดพิเศษซึ่งถ้าหากเครื่องมีปัญหาที่เกิดจากการผลิต ไม่ต้องรอซ่อม ไม่ใช่จากตัวผู้ใช้เอง จะสามารถมาเปลี่ยนเครื่องได้ทันทีที่ศูนย์บริการ OPPO ได้ทันที ภายใต้เงื่อนไขการประกัน
OPPO R15 Pro วางจำหน่ายแล้วที่ OPPO Brand Shop และร้านค้าที่ร่วมรายการในราคา 19,990 บาทโดยจะได้รับของแถมเป็น Gift Box ซึ่งเป็นสายชาร์จ VOOC พร้อมหัวชาร์จความเร็วสูงสำหรับรถรวมมูลค่า 1,599 บาท