เปิดตัวและวางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วในประเทศไทยกับสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung นั่นก็คือ Galaxy A6 และ Galaxy A6+ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ถอดแบบมาจากรุ่นแฟลกชิป เริ่มจากจอแสดงผลแบบ Infinity Display ที่ให้อัตราส่วนภาพ 18.5:9 และติดตั้งกล้องดิจิตอล 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.7 ขณะที่ Galaxy A6+ จะเสริมด้วยกล้องตัวที่สอง 5 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายภาพหน้าขัดหลังเบลอ Live Focus ที่โดดเด่นของ 2 รุ่นนี้คือบอดี้โลหะ และไฟแฟลชด้านหน้าที่ปรับความสว่างได้ 3 ระดับเหมาะสำหรับคนที่ชอบเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือกลางแจ้งก็ไม่มีปัญหาเรื่องเงาบนใบหน้า
Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ใช้ดีไซน์ร่วมกัน มุมมองด้านหน้าอาจจะดูคล้าย Galaxy A8 (2018) series ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ด้านหลังแตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยเส้นเสาอากาศรูปตัว U ทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนความแตกต่างระหว่าง Galaxy A6 กับ Galaxy A6+ ดูได้จากขนาดบอดี้ A6+ จะมีขนาดใหญ่กว่า และมาพร้อมกล้องคู่หลัง
Galaxy A6 ใช้จอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 720 x 1480 พิกเซล ขนาด 5.6 นิ้ว แต่ Galaxy A6+ มากับความละเอียด 1080 x 2220 พิกเซล ขนาด 6 นิ้ว ขนาดเมื่อถืออยู่ในมือแลดูมีขนาดใกล้เคียงกัน
เหนือจอแสดงมีการติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง ลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ Proximity Sensor หรือ RGB Light Sensor และ แฟลช LED ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย ปรับความสว่างได้ 3 ระดับใช้งานได้แม้กลางแจ้ง
ด้านหลังจะเห็นความแตกต่างได้จากตำแหน่งกล้อง Galaxy A6 ใช้กล้องเลนส์เดียว ส่วน Galaxy A6+ ได้รับกล้องคู่ โดยติดตั้งแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้เหมือนกัน ภายในก็แตกต่างกันที่แบตเตอรี่ Galaxy A6 มีความจุ 3,000mAh ส่วนอีกรุ่นมีความจุ 3,500mAh
มุมมองด้านข้างของทั้งคู่ ไม่ได้มีความแตกต่างเท่าไรนัก แม้แต่ความบาง Galaxy A6 บาง 7.7 มิลลิเมตร ส่วน Galaxy A6+ บาง 7.9 มิลลิเมตร
Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ติดตั้งลำโพงไว้ที่ขอบด้านข้าง ฝั่งเดียวกับปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างหนึ่งติดตั้งปุ่มเพิ่มและลดความดังของลำโพง ถัดลงมามีถาดใส่การ์ด MicroSD และ ซิมการ์ด
ด้านล่างจะพบกับพอร์ต Micro USB รูไมโครโฟนและช่องเสียบแจ็คหูฟัง
Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo แต่ให้ชิปประมวลผลแตกต่างกัน Galaxy A6 ได้รับ 1.6GHz Octa Core ขณะที่ Galaxy A6+ มากับ 1.8GHz Octa Core แต่ทั้งสองรุ่น มีความจำ RAM กับ ROM ขนาดเท่ากัน คือ RAM 3GB หรือ 4GB และ ROM 32GB หรือ 64GB และรองรับการ์ด Micro SD สูงสุด 256GB
ขณะที่ Galaxy A6+ จะโดดเด่นเรื่องกล้องหลังมากกว่าที่เพราะมากับกล้องคู่หลัง ตัวหลัก 16 ล้านพิกเซล (F1.7) กล้องรอง 5 ล้านพิกเซล (F1.9) รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ Live Focus ที่มีมาในรุ่นแฟลกชิป
รวมถึงยังมีลูกเล่นต่างๆในการถ่ายภาพมาครบทั้งสติ้กเกอร์ ปรับโบเก้เป็นรูปทรงต่างๆได้อาทิ หัวใจหรือดาว
สำหรับกล้องเซลฟี่ด้านหน้าของ Galaxy A6+ นั้นมาพร้อมความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล (F1.9) มีไฟแฟลชที่ปรับระดับความสว่างได้ 3 ระดับใช้งานได้ทั้งในที่แสงน้อยหรือกลางแจ้งก็ไม่ต้องพบปัญหาเรื่องเงาต่างๆบนใบหน้าอีกต่อไป
ทางด้านรุ่นน้อง Galaxy A6 นั้นมีกล้องหลังตัวเดียวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F1.7) ส่วนกล้องเซลฟี่ด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F1.9) ฟีเจอร์การใช้งานเหมือน A6+
Samsung Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างการปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือใช้ระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ฟีเจอร์ App Pair สำหรับจับคู่แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานพร้อมกันบ่อยๆ ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์ที่มาจากรุ่นแฟลกชิปเช่นเดียวกัน
ส่วนจอแสดงผลก็รองรับ Always on Display แสดงข้อมูลและการแจ้งเตือนได้ทันทีโดยไม่ต้องปลดล็อค รองรับบริการชำระเงิน Samsung Pay และสนับสนุน Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวทั้ง Bixby Vision, Home และ Reminder
ในภาพรวม Galaxy A6 และ Galaxy A6+ ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความคุ้มค่าสำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบแบรนด์ Samsung โดยเฉพาะคุณภาพกล้องที่มากับรูรับแสง F1.7 ถือได้ว่าเป็นขนาดรูรับแสงที่ Samsung เคยนำมาใช้กับกล้องเรือธง Galaxy S series เลยทีเดียว และด้วยดีไซน์ Infinity Display ยังช่วยให้การออกแบบของทั้งคู่ดูดีขึ้นมา อย่างไรก็ตาม Galaxy A6+ ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างชันเจน ทั้งกล้องคู่หลัง จอแสดงผลที่ใหญ่กว่า แบตเตอรี่มีความจุมากกว่า
สำหรับราคาค่าตัวของ Galaxy A6 อยู่ที่ 8,900 บาทมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ และสีทอง ส่วน Galaxy A6+ ราคาอยู่ที่ 10,900 บาทเท่านั้นมี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ สีทอง และสีน้ำเงิน วางจำหน่ายแล้ววันนี้พร้อมกันทั่วประเทศ
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Galaxy A6 และ Galaxy A6+
บทความโดย – www.flashfly.net