ปีนี้เป็นอีกครั้งที่ HMD Global นำสมาร์ทโฟนสุดคลาสสิคมาปัดฝุ่นใหม่ และเปิดตัวที่งาน Mobile World Congress เรากำลังพูดถึง Nokia 3310 ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว กับ Nokia 8110 ที่นำมาเปิดตัวอีกครั้งในปี 2018 โดยทั้งคู่ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นต้นแบบที่ออกมาครั้งแรกในปี 2000 (สำหรับ Nokia 3310) และ 1996 (สำหรับ Nokia 8110)
Nokia 3310 เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Mobile World Congress 2017 โดยเป็นเวอร์ชั่น 2G ก่อนจะเวอร์ชั่น 3G ออกมาภายหลัง และล่าสุดในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ได้ออกเวอร์ชั่น 4G สำหรับทำตลาดในประเทศจีน แต่ยังไม่มีรายงานว่า Nokia 3310 4G จะวางจำหน่ายไปทั่วโลกหรือไม่ ดังนั้น การเปรียบเทียบกับ Nokia 8110 จะยึดตามเวอร์ชั่น 2G หรือ 3G เป็นหลัก
Nokia 8110 4G เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Mobile World Congress 2018 ซึ่งรุ่นต้นฉบับถูกเรียกกันว่ามือถือกล้วยหอมเพราะความโค้งของบอดี้ และในรุ่นใหม่ก็ยังคงความโค้งไว้แบบเดียวกัน อีกทั้งยังออกสีเหลือง ตามสีของกล้วยมาให้เลือกด้วย พร้อมกับสีดำอีกหนึ่งสี ขณะที่ Nokia 3310 3G มีสีสันให้เลือกเยอะกว่า ได้แก่ สีฟ้า, สีเหลือง, สีแดง และ สีดำ
Nokia 3310 มีขนาด 117 x 52.4 x 13.35 มิลลิเมตร น้ำหนัก 84.9 กรัม ส่วน Nokia 8110 4G มากับขนาด 133.45 x 49.3 x 14.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 117 กรัม แต่ Nokia ไม่ได้ระบุว่าเป็นสัดส่วนเมื่อสไลด์มือถือหรือยัง อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รุ่นผลิตด้วยวัสดุประเภทเดียวกัน โดยทำมาจากโพลีคาร์บอเนต
Nokia 3310 ใช้จอแสดงผล QVGA (240 x 320 พิกเซล) ขนาด 2.4 นิ้ว Nokia 8110 4G ใช้จอแสดงผล QVGA เช่นเดียวกัน แต่ระบุว่ามีขนาด 2.45 นิ้ว และเป็นจอโค้ง เนื่องจากบอดี้มีความโค้งนั่นเอง
Nokia 8110 4G ทำงานบนแพลตฟอร์มเดียวกับ Nokia 3310 แต่ใช้ชิปประมวลผลที่ต่างกัน 8110 ใช้ชิป Qualcomm 205 MSM8905 1.1GHz Dual Core ขณะที่ 3310 ใช้ชิปของ Mediatek (ไม่ทราบรุ่น) แต่ด้วยซอฟต์แวร์ที่ใช้ ทำให้ทั้ง 2 รุ่น ทำงานคล้ายกัน รองรับการซิงโครไนซ์รายชื่อ และอีเมลจาก Gmail, Outlook หรือ Microsoft Exchange รวมถึงการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ และเกมงูเวอร์ชั่นใหม่ นอกจากนี้ยังมี App Store ที่เข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้
Nokia 8110 4G ใช้ความจำ RAM 512MB ความจุในตัว 4GB ขณะที่ Nokia 3310 มีความจุในตัว 64MB หรือ 128MB สำหรับรุ่น 3G และสูงสุด 512MB สำหรับรุ่น 4G และยังรองรับการ์ด MicroSD ทำให้มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า
ระบบเชื่อมต่อของ Nokia 3310 และ 8110 รุ่นใหม่ ดีกว่ารุ่นต้นฉบับอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้ง Bluetooth, FM Radio, Micro-USB ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และมีเวอร์ชั่นรองรับ 2 ซิมการ์ดให้เลือกด้วย อย่างไรก็ตาม Nokia 8110 ได้เปรียบกว่าเพราะรองรับเครือข่าย 4G LTE สนับสนุนการโทรผ่าน VoLTE และยังมี Wi-Fi 802.11 b/g/n พร้อมด้วย GPS/AGPS (Nokia 3310 4G ก็มี Wi-Fi เช่นเดียวกัน แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ยังจำกัดการทำตลาดเฉพาะในประเทศจีน)
กล้องดิจิตอลของทั้งคู่ มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ซึ่งไม่สามารถคาดหวังความคมชัดได้
Nokia 3310 มากับความจุแบตเตอรี่ 1200 mAh สแตนด์บายนานสูงสุด 31 วัน สนทนานานสูงสุด 22 ชั่วโมง ขณะที่ Nokia 8110 4G มากับความจุแบตเตอรี่ 1500 mAh สแตนด์บายนานสูงสุด 25 วัน สนทนานานสูงสุด 10 ชั่วโมง บนเครือข่าย 4G
ราคาเปิดตัว Nokia 3310 เริ่มต้นที่ 49 ปอนด์ หรือราว 2,150 บาท ส่วนรุ่น 3G ราคา 55 ปอนด์ หรือราว 2,410 บาท ขณะที่ Nokia 8110 4G จะวางจำหน่ายในราคา 79 ยูโร หรือราว 3,055 บาท
ที่มา – Pocket-lint
http://www.flashfly.net/wp/?p=210236