วันนี้ เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รุ่นใหม่เพิ่มอีก 4 รุ่น ได้แก่ Nokia 8 Sirocco, Nokia 7 Plus, New Nokia 6 และ Nokia 1 เพื่อเสริมทัพให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนหน้าที่ได้รับรางวัลไปแล้วมากมาย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นับเป็นประดิษฐกรรมชั้นยอดที่มาพร้อมความทนทานและมาตรฐานตามแบบฉบับของ โนเกีย ที่จะมายกระดับมาตรฐานด้วย วัสดุที่มีคุณภาพและการออกแบบที่น่าประทับใจ
เอชเอ็มดี โกลบอล ยังคงสานต่อคำมั่นสัญญาที่จะส่งมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่มีประสิทธิภาพชาญฉลาด มาพร้อมความปลอดภัย และทันสมัย ล่าสุดประกาศว่าบริษัทเป็นพันธมิตรในระดับโลกกับ Google ซึ่ง โนเกีย จะเป็นบริษัทแรกของโลกที่ส่งผลิตภัณฑ์หลายรุ่นเข้าร่วมโครงการ Android One จาก Google ด้วยความทุ่มเทอย่างสม่ำเสมอของบริษัทในการสร้างประสบการณ์การใช้งานแอนดรอยด์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และทันสมัย แสดงให้เห็นว่าสมาร์ทโฟนของโนเกียจะสอดรับกับโครงการระดับโลกนี้ได้อย่างลงตัว
นอกจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจเหล่านี้แล้ว Nokia 8110 รุ่นที่เป็นอีกหนึ่งไอคอนจาก โนเกียก็ได้กลับมาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อสัญญาณ 4G โดยมาพร้อมกับแอปพลิเคชั่น Google Assistant, Google Map, Google Search, Facebook และ Twitter นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของโทรศัพท์ที่ตัวเครื่องสามารถสไลด์ได้
ระบบปฎิบัติการเพียวแอนดรอยด์ที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูงและทันสมัยอยู่เสมอภายใต้ Android One
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ โนเกีย 3 รุ่นได้แก่ Nokia 8 Sirocco Nokia 7 Plus และ New Nokia 6 ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Android One ซึ่งออกแบบโดย Google เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานซอฟต์แวร์คุณภาพสูงให้แก่ผู้ใช้ โดยสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น จะได้รับการอัปเดตให้ทันสมัยอยู่เสมอด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก Google ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการมีความปลอดภัยสูงสุดอยู่เสมอ และด้วยระบบปฏิบัติการ เพียว แอนดรอยด์ ทำให้สมาร์ทโฟนของ โนเกีย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง UI ปราศจากโปรแกรมอื่นๆที่ซุกซ่อนอยู่เพื่อคอยกัดกินการทำงานของแบตเตอรี่ หรือถ่วงเครื่องให้ทำงานช้าลง ทำให้คุณสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้น แอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่องก็มีจำนวนไม่มากเพื่อให้คุณมีพื้นที่สำหรับการใช้งานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ของคุณล้ำหน้าเหนือสมาร์ทโฟนอื่น
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมาพร้อมกับ Android Oreo™ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดต่าง ๆ ได้ทันที เช่น ฟีเจอร์ Picture-in-Picture สำหรับการทำงานแบบ Multitasking หรือ Android Instant Apps ที่จะช่วยค้นหาและเปิดแอปต่าง ๆ ให้คุณแบบไม่มีสะดุด รวมถึงอีโมจิใหม่ ๆ กว่า 60 รูปแบบและฟีเจอร์ที่จะช่วยให้การทำงานของแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่นการจำกัดการใช้แอปพลิเคชั่นพื้นหลัง เป็นต้น
เผยโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก โนเกีย 4 รุ่น
Nokia 8 Sirocco ขุมพลังขนาดย่อมสำหรับแฟน ๆ
การออกแบบของ Nokia 8 ได้รับแรงบันดาลใจจากโทรศัพท์รุ่นก่อนของโนเกียซึ่งมาพร้อมกับสไตล์ที่เรียบหรูด้วยขนาดกะทัดรัด ซึ่งผสมผสานความประณีตในการออกแบบและนวัตกรรมการใช้งานเอาไว้ได้อย่างลงตัว Nokia 8 Sirocco ประกอบด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแชร์เรื่องราว (Story Telling) ด้วยเลนส์ Dual-Sight จาก ZEISS ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และเครื่องเสียงที่ได้รับการปรับจูนเสียง อะคูสติก ด้วยระบบเสียงตามแบบฉบับของโนเกียทำให้ Nokia 8 Sirocco กลายเป็นขุมพลังขนาดพกพา ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามที่สุดกว่าที่เคยมีมา
ตัวเครื่องทำจากกระจกทรงโค้ง ห่อหุ้มกรอบสแตนเลสสตีลที่ผลิตขึ้นด้วยความประณีตเพื่อส่งมอบส่วนผสมที่ลงตัวของความแข็งแรงและความงดงามให้แก่ผู้ใช้ ด้วยขอบที่บางเพียง 2 มม. Nokia 8 Sirocco ได้รวมหน้าจอ pOLED 2K ทรงโค้งแบบขอบถึงขอบขนาด 5.5 นิ้วเข้ากับกรอบที่ขนาดเล็กกว่าและส่วนโค้งบนตัวเครื่องเพื่อให้ได้ดีไซน์ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุด
เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คู่ด้านหลังจาก ZEISS ที่ประกอบด้วยกล้องหลักมุมกว้างสำหรับการถ่ายรูปในที่แสงน้อยและเซ็นเซอร์รอง 13MP ที่มีระยะ Optical Zoom สูงสุด ที่ 2x และด้วยโหมด Pro Camera ก็ทำให้คุณสามารถปรับค่าต่าง ๆ ได้ตามที่ใจต้องการ ช่วยให้คุณสามารถเก็บภาพและเรื่องราวต่าง ๆ ได้ราวกับตากล้อง มืออาชีพ
กรอบสแตนเลสสตีลของ Nokia 8 Sirocco นั้นแข็งแรงกว่าอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ถึง 2.5 เท่า และเสริมความแข็งแรงด้วยกระจกแบบ 3D Corning® Gorilla® Glass ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวเครื่องคงทนสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแน่นอน น้ำหนักมีความสมดุลหรูหราให้สัมผัสที่กระชับถนัดมือด้วยด้วยการขัดเงากรอบสแตนเลสสตีลแบบ Dual Diamond-Polished
Nokia 8 Sirocco เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €399 หรือประมาณ 28,900 บาทไม่รวมภาษี
Nokia 7 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงสำหรับทุกคน
Nokia 7 Plus ถูกออกแบบมาเพื่อการสร้างคอนเทนต์โดยเฉพาะ มาพร้อมกับหน้าจอ แบตเตอรี่ ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ครบครันสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นที่โดดเด่นที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆด้วยการผสมระหว่างฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยและอัลกอริทึมด้านภาพอันชาญฉลาด Nokia 7 Plus ทำให้คุณสามารถเก็บช่วงเวลาดี ๆ ไว้ในรูปถ่ายได้อย่างไม่ตกหล่น และด้วยเทคโนโลยี Dual-Sight ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์คู่ด้านหลังจาก ZEISS ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลักมุมกว้าง 12MP สำหรับการเก็บภาพที่คมชัดไม่มีที่ติแม้มีแสงน้อยหรือแสงมาก และยังมีเซ็นเซอร์รอง 13MP ที่มีระยะ Optical Zoom สูงสุดที่ 2x ก็จะช่วยให้คุณสามารถเก็บภาพในระยะต่าง ๆ ที่คุณต้องการได้อย่างไม่มีสะดุด
เพื่อให้คุณสามารถเก็บความประทับใจและสนุกกับการสร้างคอนเทนต์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น Nokia 7 Plus ใช้ระบบปฏิบัติการอันทรงพลังจาก Qualcomm® Snapdragon™ 660 Mobile Platform ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานทั้งยังช่วยดึงการทำงานของตัวเครื่องออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นยังช่วยยืดการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย แม้กระทั่งในยามที่คุณไลฟ์สดวีดีโอด้วยฟังก์ชั่น #Bothie แชร์เรื่องราวดีๆที่ไม่ได้มีแค่ด้านเดียวใน Facebook หรือ Youtube ก็มั่นใจได้ว่าคุณสามารถใช้งานแบตเตอรี่อันทรงพลังขนาด 3800 mAh ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น Nokia 7 Plus ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วันติดต่อกันโดยไม่ต้องชารจ์แบตเพิ่มอีกด้วย
ด้านหลังของตัวเครื่องมีลักษณะโค้งมนสอดรับกับขอบจอบาง ทำให้คุณสามารถเสพคอนเทนต์จากหน้าจอขนาดใหญ่ได้บนสมาร์ทโฟนที่พกพาง่ายและจับได้ถนัดมือ และด้วยหน้าจอขนาด 6 นิ้ว สัดส่วน 18:9 แบบ Full HD+ ก็ทำให้ Nokia 7 Plus เหมาะสำหรับการเรียกดูคอนเทนต์ต่าง ๆ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดีย การเล่นเกมและตอบสนองความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้เหมือนกับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว
Nokia 7 Plus มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Black/Copper กับ White/Copper และจะเริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €399 หรือประมาณ 15,400 บาท ไม่รวมภาษี
New Nokia 6 สมาร์ทโฟนรุ่นที่ได้รับรางวัลและการตอบรับที่ดีจากทั่วโลกกับเวอร์ชั่นอัปเกรด
All New Nokia 6 ถูกพัฒนาขึ้นบนความสำเร็จของสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนหน้า โดยครั้งนี้ได้นำเอาสมรรถนะในการทำงานที่ทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมมารวมเข้ากับฟีเจอร์ใหม่ ๆ นำเสนอผ่านตัวเครื่องที่ทนทานและกะทัดรัดยิ่งขึ้น นอกจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากรุ่นก่อนหน้าแล้ว New Nokia 6 ยังได้รวมเอาเทคโนโลยี Dual-Sight เลนส์จาก ZEISS ระบบ USB-C fast charging สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ทำให้จับได้ถนัดมือยิ่งขึ้น ระบบเสียง Nokia spatial audio และประสบการณ์แบบแอนดรอยด์แท้ ๆ ที่ปลอดภัยและทันสมัยอยู่เสมอจาก Android Oreo™ มานำเสนอแก่ผู้ใช้
New Nokia 6 พาคุณไปสู่อีกระดับของความประณีตในการออกแบบด้วยดีไซน์แบบ Unibody ซึ่งทำจากอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ที่ผ่านกระบวนการชุบผิวและขัดเงากว่า 11 ชั่วโมง และด้วยหน้าจอแบบ 2.5D ดีไซน์สวยที่ทำจาก Corning® Gorilla® Glass ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่วยรักษาความงดงามของ New Nokia 6 เอาไว้ได้นานกว่าที่เคย
นอกจากนั้นวิศวกรของเรายังได้นำเทคโนโลยี Qualcomm® Snapdragon™ 630 Mobile Platform มาใช้เพื่อให้ All New Nokia 6 ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล และยาวนานตลอดทั้งวัน
All New Nokia 6 มี 3 สีได้แก่ Black/Copper, White/Iron และ Blue/Gold และยังมีสองรุ่นให้เลือกคือ 3GB RAM/32GB ROM วางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน หรือ 4GB RAM/64GB ROM วางจำหน่ายในภายหลัง New Nokia 6 เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €279 หรือประมาณ 10,800 บาท ไม่รวมภาษี
Nokia 1 ครบทุกประสบการณ์สมาร์ทโฟนจากโนเกียในเครื่องเดียวที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
Nokia 1 คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์สำคัญ สำหรับสมาร์ทโฟนและคุณภาพที่คุณสามารถไว้วางใจได้ บวกกับดีไซน์ที่แฟน ๆ โนเกียทั่วโลกต่างคุ้นเคย Nokia 1 คือสมาร์ทโฟนที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android Oreo (Go edition) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีแรมขนาด 1GB หรือต่ำกว่านั้นได้อย่างเต็มที่ โดย Nokia 1 ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างลื่นไหลและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว สามารถเข้าถึง Google Play™ Store ได้อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถค้นหาแอปพลิเคชั่นโปรดของคุณได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น WhatsApp, Facebook และ Instagram หรือกระทั่งแอปพลิเคชั่น โมบายแบงกิ้ง ต่าง ๆ ในขณะเดียวกันก็แนะนำแอปพลิเคชั่นทั้งหลายที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างเต็มที่บน Android Oreo™ (Go edition) อีกด้วย
นอกจากนั้น Nokia 1 ยังมาพร้อมกับ “Nokia Smile” ที่เป็นเอกลักษณ์ของโทรศัพท์มือถือ โนเกีย ในรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งทำให้คุณสามารถเปลี่ยนโฉมสมาร์ทโฟนของคุณได้ด้วยเคส Xpress-on Cover สีสันสดใสที่มีให้เลือกจำนวนมาก เพียงคลิกปุ่มเปิดปิดไม่กี่วินาทีก็จะทำให้คุณสามารถสื่อสารสไตล์ส่วนตัวของคุณผ่านเคสเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เคสเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนการที่มีความประณีตและใส่ใจไม่แพ้กันกับเคสที่ให้มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนด้วยกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน ทำให้เคสสองสีซึ่งทำจากโพลีคาร์บอเนตเหล่านี้พร้อมที่จะช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนของคุณจากแรงกระทบกระแทกต่าง ๆ ในแต่ละวันด้วยดีไซน์ที่มีความทนทานสูง
Nokia 1 เริ่มจัดจำหน้านในช่วงต้นเดือนเมษายน มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Warm Red และ Dark Blue สำหรับแฟน ๆ ทั่วโลกโดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ $85 sหรือประมาณ 2,670 บาทไม่รวมภาษี และจะมีเคส Xpress-on cover ซึ่งขายแยกกับสมาร์ทโฟนจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ $ 7.99 ในสี Azure, Grey, Yellow and Pink.
งานต้นแบบกับการกลับมาของ Nokia 8110 4G
Nokia 8110 4G ในตำนานกำลังจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของสมาร์ทโฟน 4G พร้อมดีไซน์แบบสไลเดอร์ทรงโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้ความสามารถพื้นฐานประหนึ่งสมาร์ทโฟน เพราะฟีเจอร์สำคัญของสมาร์ทโฟนจะพร้อมใช้งานอยู่เสมอเมื่อคุณต้องการเรียกใช้
Nokia 8110 4G มาพร้อมดีไซน์ที่คุ้นเคยและใช้งานได้ง่าย โดยมีการนำเอากลไกการสัมผัสที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจมาใช้ เช่น การสไลด์เพื่อรับสายหรือวางสาย รวมถึงจุดหมุนแบบเฮลิคอปเตอร์ตรงแกนกลางของตัวเครื่องด้วย นอกจากนั้น Nokia 8110 4G ยังถูกผลิตขึ้นด้วยความประณีตตามแบบฉบับของ โนเกีย ทำให้มีความทนทานและความเสถียรในระดับที่วางใจได้ตามแบบฉบับของโทรศัพท์มือถือ โนเกีย และมีระบบ VoLTE calling ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสนทนาด้วยเสียงได้อย่างคมชัด เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องการฟีเจอร์โฟน 4G ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรือโทรศัพท์มือถือคู่ใจ แล้วยังสามารถเข้าใช้งานในแอปสโตร์เพื่อใช้งานแอปที่คุณโปรดปราน อาทิ Google Assistant, Google Search, Google Maps, Facebook and Twitter และยังสามารถใช้รับส่งอีเมล์ หรือดึงข้อมูลจากรายชื่อและซิงค์ปฏิทินเข้ากับ Outlook และ Gmail ได้อีกด้วย เพื่อให้การใช้งานลื่นไหลไม่มีสะดุด Nokia 8110 มาพร้อมกับ Qualcomm® 205 Mobile Platform และแน่นอนว่า Nokia 8110 4G กลับมาพร้อมกับเกมงู (Snake) ที่เคยโด่งดังในเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย
Nokia 8110 4G มี 2 สีสดใสให้เลือกได้แก่ Traditional Black และ Banana Yellow โดยเริ่มจัดจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมและราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €79 หรือประมาณ 3,280 บาทไม่รวมภาษี
ฟลอเรียน ซีช (Florian Seiche) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า
“ในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว พวกเราเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ไปพร้อมกับความคาดหวังมหาศาลจากแฟน ๆ ของเราและความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะสืบทอดตำนานของแบรนด์ที่มีนวัตกรรมสุดล้ำ นับจากนั้นเราได้แนะนำแบรนด์ที่ผู้คนหลงใหลสู่ตลาดอีกครั้ง เราร่วมมือกับเพื่อนใหม่และเก่าในอุตสาหกรรมเพื่อที่จะนำส่ง ประสบการณ์การใช้งาน แอนดรอยด์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และทันสมัยอยู่เสมอ ผ่านผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนทุกรุ่นของเรา ในปีที่ผ่านมาเราได้นำส่งโทรศัพท์ โนเกีย ไปสู่ผู้คนทั่วโลกกว่า 70 ล้านเครื่อง ในขณะที่เรากำลังขยายธุรกิจออกไปเรายังคงมุ่งมั่นในวิสัยทัศน์ ที่จะนำส่งโทรศัพท์มือถือจาก โนเกีย ที่มีคุณค่าที่คู่ควรกับการที่แฟนๆของเราคาดหวัง ในช่วงของการก้าวไปข้างหน้าของโนเกีย เรามีแผนที่จะสร้างความสำเร็จด้วยการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าของเราด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโทรศัพท์อันเป็นที่รักที่สามารถไว้วางใจในการใช้งานได้”
จูโฮ ซาร์วีกาส (Juho Sarvikas) หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า
“วันนี้พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 5 รุ่น ซึ่งถือเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา และเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านดีไซน์ของสมาร์ทโฟนด้วย Nokia 8 Sirocco พร้อมกับการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุดของเราคือ Nokia 1
“ด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเราเหล่านี้ ทุกท่านจะสัมผัสได้ถึงวิธีการใหม่ ๆ ที่เรานำมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และมรดกด้านเทคโนโลยีในการถ่ายภาพอันแข็งแรงของเราที่อยู่ในระดับแนวหน้า ด้วยความร่วมมือกับ ZEISS และท่านจะรับรู้ได้ถึงคุณภาพของวัสดุที่ดีที่สุดที่เรานำมาใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่มีรูปทรงโดดเด่นทันสมัย ซึ่งมีความทนทานและความน่าเชื่อถือตามแบบฉบับของ โนเกีย อยู่อย่างครบถ้วน”
“พวกเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่จะช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้คน และความมุ่งมั่นที่จะสร้างสมาร์ทโฟนเพียวแอนดรอยด์ที่มีความปลอดภัยสูงและทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งเป็นแก่นของกลยุทธ์หลักของเราและเป็นจุดที่ผู้คนหลงรักเรา วันนี้พวกเรากำลังยกระดับความมุ่งมั่นทุ่มเทขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Android One ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่มีบริษัท Google เป็นผู้ให้การรับรอง”
เป็กกา รันทาลา (Pekka Rantala) รองประธานบริหาร และ หัวหน้าฝ่ายการตลาด เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวว่า
“สมาร์ทโฟนถือเป็นคู่หูในชีวิตประจำวันของผู้คนและเป็นสิ่งที่พวกเขาจำเป็นจะต้องรู้สึกว่าสามารถไว้วางใจได้ โดยปีที่แล้วพวกเราสัญญาไว้ว่าจะส่งมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟน โนเกียที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้กับผู้ใช้งาน และจะทำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับความไว้วางใจที่พวกเขามีต่อแบรนด์โทรศัพท์ โนเกีย วันนี้พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Android One และด้วยการประสานกำลังกันระหว่างความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนเพียวแอนดรอยด์ที่มีความปลอดภัยสูงและทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งทำให้เราได้ถูกเลือกให้ร่วมโครงการนี้ และด้วยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หมายความว่าทุกคนสามารถที่จะมอบความไว้วางใจให้กับโทรศัพท์มือถือของ โนเกีย ได้อย่างแท้จริง”
เจมี โรเซนเบิร์ก (Jamie Rosenberg) รองประธานฝ่ายธุรกิจ และ ปฏิบัติการ Androidและ Google Play กล่าวว่า
“Android One ถือเป็นโครงการความร่วมมือระดับเรือธงของเรา และชุดผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ โนเกีย ที่ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายนี้ถือเป็นตัวแทนของความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดที่เราเคยมีมา ทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกสามารถเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดีที่สุด โดยมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คุณภาพสูง ซึ่งมีความชาญฉลาด ปลอดภัย และยอดเยี่ยมอย่างน่าชื่นชม”
การจัดจำหน่าย:
Nokia 8 Sirocco เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €749 หรือประมาณ 28,900 บาท
Nokia 7 Plus เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €399 หรือประมาณ 15,400 บาท
New Nokia 6 เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €279 หรือประมาณ 10,700 บาท
Nokia 1 เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ $85 หรือประมาณ 2,670 บาท Xpress-on covers จำหน่ายแยกชิ้นเริ่มต้นที่ $7.99 ในสี Azure, Grey, Yellow and Pink.
Nokia 8110 4G เริ่มจัดจำหน่ายในช่วงพฤษภาคม โดยราคาขายปลีกเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ €79 หรือประมาณ 3,280 บาท
ราคาทั้งหมดนี้ไม่รวมภาษีและเงินอุดหนุน