Apple ตกเป็นข่าวใหญ่ในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากออกมายอมรับว่า iOS 10.2.1 ที่ปล่อยออกมาตอนต้นปี 2017 ไม่ได้เพียงแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ดับโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น แต่ยังส่งให้ iPhone ชะลอประสิทธิภาพลงด้วย โดยมีผลกับ iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s,iPhone 6s Plus และ iPhone SE ที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ และยังส่งผลกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่อัพเดทเป็น iOS 11.2
คำถามที่ตามมาก็คือ Apple ได้ควบคุมการจัดการแบตเตอรี่กับ iPad ด้วยหรือไม่? ประเด็นนี้ Apple ได้ยืนยันว่า ฟีเจอร์จัดการพลังงาน ถูกนำมาใช้กับ iPhone เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple ดังนั้น เจ้าของ iPad ควรสบายใจได้
ทำไม iPad จึงไม่ได้รับฟีเจอร์จัดการพลังงานแบตเตอรี่? แหล่งข่าวบอกว่า เป็นเพราะ iPad มากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า iPhone ถึง 4 เท่า ยกตัวอย่างจาก iPad Air 2 ได้รับแบตเตอรี่ความจุ 7,340 mAh (27.62 Wh) ขณะที่ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ซึ่งเปิดตัวในปีเดียวกัน มากับแบตเตอรี่ 1,810 mAh (6.9 Wh) และ 2,915 mAh (11.1 Wh) ตามลำดับ
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า iPad จึงให้พลังงานยาวนานกว่า และไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยเหมือนกับ iPhone ส่งผลให้แบตเตอรี่ของ iPad มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
อย่างไรก็ตาม Apple ยังยืนยันว่า iPhone รุ่นเก่า หากเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ก็จะทำให้ iPhone กลับมามีประสิทธิภาพดีเหมือนเดิม และยังลดราคาค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่เหลือเพียง 1,000 บาท (สำหรับเจ้าของ iPhone ที่เปลี่ยนแบตเตอรี่กับ Apple ภายในปี 2018) และในต้นปีนี้ Apple สัญญาว่าจะอัพเดทซอฟต์แวร์ให้กับอุปกรณ์ iOS เพื่อให้เจ้าของอุปกรณ์ตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
ที่มา – Gsmarena
http://www.flashfly.net/wp/?p=205332