จากปัญหาที่ Apple ถูกร้องเรียนเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์ชะลอประสิทธิภาพ iPhone รุ่นเก่าที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ Apple ต้องออกมาตรการเยียวยาเจ้าของ iPhone รุ่นเก่า ด้วยการลดราคาค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ จากราคาปกติ 79 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 2,900 บาท เหลือเพียง 29 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 1,000 บาท
ก่อนหน้านี้ เจ้าของ iPhone ส่วนใหญ่ ไม่ทราบมาก่อนว่าแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมสภาพ จะส่งผลให้ iPhone ทำงานช้าลง โดยคิดว่าปัจจัยที่ทำให้ iPhone ช้าลง เป็นผลมาจากการอัพเกรด iOS เวอร์ชั่นใหม่
แต่ในที่สุด Apple ได้ออกมายอมรับว่า เมื่อปีที่แล้ว ได้ปล่อย iOS 10.2.1 ออกมาเพื่อปรับปรุงการจัดการพลังงานในช่วงที่ iPhone ทำงานหนัก จนอาจทำให้เครื่องดับไปเอง การอัพเดทนี้มีผลทำให้ iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s,iPhone 6s Plus และ iPhone SE มีประสิทธิภาพที่ลดลง และยังนำคุณสมบัติเดียวกันนี้ มาใช้กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ใน iOS 11.2 ด้วย อย่างไรก็ตาม Apple ทำไปเพื่อป้องกันไม่ให้ iPhone ทำงานหนักจนเครื่องดับเอง เพราะจะเป็นการขัดจังหวะการใช้งาน และเมื่อมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ประสิทธิภาพก็จะกลับมาดีเหมือนเดิม
แน่นอนว่า หลังจากเจ้าของทราบว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ทำให้ iPhone กลับมาเร็วเหมือนเดิม ย่อมส่งผลกระทบกับยอดขาย iPhone รุ่นใหม่ด้วย และ Mark Moskowitz นักวิเคราะห์จาก Barclays ก็ได้ประเมินออกมาเป็นตัวเลขให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น โดยเชื่อว่าหลังจาก Apple ออกโปรแกรมลดค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ จะทำให้เจ้าของ iPhone ถึง 77% ตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามข้อเสนอของ Apple
Mark Moskowitz คาดว่า 10% จากจำนวนผู้ใช้งาน 519 ล้านคนทั่วโลก จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ และใน 30% ของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ อาจตัดสินใจไม่ซื้อ iPhone ใหม่ในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ยอดขาย iPhone ในปี 2018 ลดลงประมาณ 16 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้ เจ้าของ iPhone รุ่นเก่า ตั้งแต่ iPhone 6 ขึ้นไป สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ในราคาพิเศษ 1,000 บาท ได้ตลอดปี 2018
ที่มา – MacRumors
http://www.flashfly.net/wp/204498