ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone พร้อมกัน 3 รุ่น คือ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ซึ่ง iPhone X หรือ iPhone Ten ถือเป็นรุ่นพิเศษที่ Apple สร้างขึ้นมาในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ iPhone และปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็น iPhone ที่ดีที่สุดตั้งแต่ Apple ผลิตออกมา ด้วยดีไซน์ วัสดุ จอแสดงผล และ ระบบกล้อง ได้รับการออกแบบให้ดีกว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone และถ้าใครคิดว่า iPhone X นั่นอยู่ไกลเกินเอื้อมหรือเกินความจำเป็น เรามีเหตุผลดีๆ ที่จะมาช่วยคุณตัดใจจาก iPhone X
1. ราคาแพง
iPhone 8 เริ่มต้นที่ 28,500 บาท iPhone 8 Plus เริ่มต้นที่ 32,500 บาท และ iPhone X เริ่มต้นที่ 40,500 บาท เป็นเหตุผลที่ดีถ้าคุณเลือกซื้อ iPhone 8 หรือ iPhone 8 Plus ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป่าได้ 8,000 – 12,000 บาท
2. ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน
iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ใช้ชิปประมวลผลเดียวกัน คือ Apple A11 Bionic เพียงแต่ iPhone X จะได้ประโยชน์มากกว่าเนื่องจากรองรับฟีเจอร์ที่ต้องอาศัย Neural Engine ที่ฝังมากับชิป A11 สำหรับใช้งาน Face ID
3. Touch ID เร็วกว่า Face ID
iPhone X ไม่มี Touch ID โดยถูกแทนที่ด้วย Face ID สามารถทำงานได้ทุกอย่างเหมือน Touch ID เพียงแต่ใช้วิธีสแกนใบหน้าแทนสแกนลายนิ้วมือ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังถนัดการใช้ Touch ID และดูเหมือนจะมีวิธีใช้งานที่สะดวกรวดเร็วกว่า เพราะ Face ID ต้องใช้เวลาในการยก iPhone ขึ้นมาจ้องมอง ขณะที่ Touch ID เพียงแค่แตะนิ้วลงบนปุ่มโฮมก็ใช้งานได้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีรายงานปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับ Face ID มากมาย โดยเฉพาะกรณีการปลดล็อคจากผู้อื่นที่มีใบหน้าคล้ายกันทั้งที่ไม่ใช่ฝาแฝด และหลายครั้งที่เด็กๆ สามารถปลดล็อต Face ID ของผู้ปกครองได้
4. รองรับการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สายได้เหมือนกัน
iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X เป็น iPhone กลุ่มแรกที่สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สาย นั่นหมายถึง ถ้าคุณซื้อ iPhone รุ่นถูกกว่า ก็ยังคงได้รับเทคโนโลยีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วและชาร์จไร้สายมาให้ในกล่อง คุณต้องซื้อเพิ่มเอง และถ้าคุณซื้อ iPhone 8 หรือ iPhone 8 Plus แทนที่จะซื้อ iPhone X ก็จะทำให้คุณมีเงินเหลือไปซื้ออุปกรณ์เสริมเหล่านี้
5. iPhone 8 Plus และ iPhone X มีระบบกล้องคล้ายกัน
iPhone 8 Plus และ iPhone X มีกล้องคู่หลังเหมือนกัน ด้วยเลนส์มุมกว้างกับเลนส์เทเลโฟโต้ รองรับการถ่ายภาพในโหมด Portrait และ Portrait Lighting ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ iPhone X จะมีระบบลดภาพสั่นไหว OIS ทั้ง 2 เลนส์ แต่ iPhone 8 Plus ติดตั้งมาให้เฉพาะเลนส์มุมกว้าง
6. กล้องเซลฟี่ตัวเดียวกัน
ตามสเปกแล้ว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ใช้กล้องด้านหน้าตัวเดียวกัน ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 บันทึกวีดีโอ Full HD 1080p แต่ iPhone X จะเพิ่มเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อนเรียกว่าระบบกล้อง TrueDepth ซึ่งทำให้สนับสนุนฟีเจอร์ Portrait Mode, Portrait Lighting และ Animoji
7. iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ไม่มีรอยบากที่จอแสดงผล
iPhone X ใช้ดีไซน์ Full Screen ที่มีจอแสดงผลกว้างจนชิดขอบ แต่เพื่อติดตั้งระบบกล้อง TrueDepth ทำให้ Apple จำเป็นต้องสร้างรอยบากที่ขอบจอด้านบน ซึ่งบางครั้งมันอาจดูเกะกะสายตา และบดบังการแสดงผลของแอพต่างๆ ถ้าคุณชอบจอแสดงผลสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบเต็มๆ คุณจะมีความสุขมากกว่าถ้าเลือก iPhone 8 หรือ iPhone 8 Plus
8. ประหยัดเงินซื้อเคสถ้าอัพเกรดมาจาก iPhone 7
ถ้าคุณเป็นเจ้าของ iPhone 7 และอัพเกรดมาซื้อ iPhone 8 หรืออัพเกรดจาก iPhone 7 Plus มาเป็น iPhone 8 Plus คุณจะประหยัดเงินในการซื้อเคสใหม่ เพราะขนาดบอดี้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณเลือกซื้อ iPhone X คุณก็ต้องเสียเงินซื้อเคสใหม่ด้วย
9. อายุการใช้งานแบตเตอรี่
iPhone X ได้รับการพัฒนาแบตเตอรี่ให้ดีขึ้น ด้วยการใช้แบตเตอรี่ 2 ก้อนเชื่อมติดกันเป็นรูปตัว L และจากการใช้งานของ BusinessInsider พบว่าแบตเตอรี่ของ iPhone X ให้พลังงานยาวนาน 12 – 13 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus อยู่ได้นานกว่านั้น โดยแบตเตอรี่ของ iPhone 8 ให้พลังงานยาวนาน 13 – 14 ชั่วโมง และ iPhone 8 Plus ให้พลังงานยาวนาน 14 – 15 ชั่วโมง
ที่มา – BusinessInsider
http://www.flashfly.net/wp/203989