ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีก่อน ในวันที่ 3 ธันวาคม 1992 วิศวกรชื่อว่า Neil Papworth ได้เริ่มส่งข้อความ SMS เป็นครั้งแรก โดยเขาส่งจากคอมพิวเตอร์ ไปยังโทรศัพท์มือถือของ Richard Jarvis ผู้อำนวยการของ Vodafone โดยส่งข้อความสั้นๆ ว่า “merry Christmas” และนั่นคือจุดกำเนิดของบริการรับ-ส่งข้อความสั้น หรือ SMS
ในช่วงเริ่มต้นของ SMS ผู้ใช้งานต้องพิมพ์ข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกด ที่มีปุ่มกดตัวเลข โดยเรียกระบบการพิมพ์ว่า T9 (ย่อมาจาก Text on 9 keys) ซึ่งมีวิธีการพิมพ์ที่ค่อนข้างลำบาก อย่างเช่น ถ้าจะพิมพ์คำว่า cat ต้องกดปุ่มเลข 2 ถึง 3 ครั้ง ตามด้วยปุ่มเลข 2 อีกหนึ่งครั้ง แล้วปุ่มเลข 8 อีก 1 ครั้ง
หลังจากการรับ-ส่งข้อความเริ่มได้รับความนิยม จึงเริ่มมีโทรศัพท์มือถือที่มาพร้อมแผงคีย์บอร์ด QWERTY อย่างเช่น BlackBerry, Moto Q, Palm Treo เป็นต้น ทำให้ผู้ใช้งานพิมพ์ได้สะดวกขึ้น เพราะมีการวางปุ่มกดเหมือนแผงคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ และได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น เมื่อสามารถรับ-ส่งข้อความหากันผ่าน Wi-Fi ทำให้ประหยัดค่าโทรศัพท์ เพราะไม่ต้องสนทนาผ่านระบบ Voice เหมือนแต่ก่อน
เดือนมิถุนายน 2006 มีการส่งข้อความ 12.5 ล้านข้อความต่อเดือน ปีต่อมา ปริมาณการส่งข้อความเพิ่มขึ้นเป็น 45 ล้านข้อความต่อเดือน และในเดือนมิถุนายน 2017 มีผู้คนส่งข้อความมากถึง 781 ล้านข้อความต่อเดือน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นสถิติเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ปัจจุบัน SMS ได้พัฒนามาเป็นระบบแชท สามารถรับ-ส่งข้อความโต้ตอบหากันในชุดข้อความหรือในห้องสนทนาเดียวกัน แต่จะได้รับความนิยมน้อยกว่าการแชทผ่านแอพพลิเคชั่นด้านโซเชี่ยล อย่างเช่น LINE, Facebook Messenger, WhatsApp เนื่องจากไม่เสียค่าบริการ (หากเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Free Wi-Fi) และสามารถส่งภาพ, วีดีโอ และ ไฟล์อื่นๆ ได้อีกด้วย
ช่วยบอกเราทีว่าคุณยังใช้ข้อความ SMS ส่งหาเพื่อนๆ กันอยู่หรือเปล่า?
ที่มา – Engadget
http://www.flashfly.net/wp/201876