หลังจากที่ทีมงาน @flashfly ได้ทำการรีวิวแกะกล่อง OPPO F5 ไปตั้งแต่ช่วงวันวางจำหน่ายวันแรกต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็มาต่อกันด้วยกับรีวิวฉบับเต็มของ OPPO F5 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมหน้าแบบ Full Screen ความละเอียด FHD+ ขนาด 6 นิ้ว รวมถึงเทคโนโลยี A.I. Beauty ปรับภาพถ่ายให้หน้าสวยสมจริงเปิดตัวมาในราคาเพียง 9,990 บาทเท่านั้น ซึ่งก็สร้างยอดขายแบบถล่มทลายในวันแรกสร้างสถิติยอดจำหน่ายเฉลี่ย 1 เครื่องต่อ 10 วินาทีเลยทีเดียว

ที่นี้เรามาดูกันแบบเจาะลึกว่า OPPO F5 นั้นมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจกันบ้างโดยเราจะมาเริ่มที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อนที่ต้องบอกว่าดูหรูหราสวยงามและพรีเมี่ยมอย่างมากสวยงามแบบ unibody บางเพียง 7.5 มม. น้ำหนักเบามากๆ เพียง 152 กรัมเท่านั้นจับถนัดมือมากๆ

ฝาหลังของ OPPO F5 มีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม บางเพียง 0.4 มิลลิเมตร อยู่ที่ขอบด้านบนและล่างตัวเครื่อง

ต่อด้วยจุดเด่นพิเศษของ OPPO F5 คือมาพร้อม A.I. Beauty Technology ที่ทาง OPPO ได้นำเอาเทคโนโลยี A.I เข้ามาประยุกต์ใช้กับโหมดบิวตี้ที่จะสแกนใบหน้ากว่า 200 จุดช่วยให้ได้ภาพเซลฟี่ที่ดูดีแบบเป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่ง A.I. จะสามารถจดจำประเภทและโทนสีผิว เพศ และอายุ รวมถึงสภาพแสง และเรียนรู้เพื่อที่ปรับแต่งความสวยงามให้แต่ละภาพดียิ่งขึ้น แยกความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิง เด็กและผู้ใหญ่ ภาพเดี่ยวและภาพคู่ ภายใต้ความแตกต่างของแต่ละพื้นหลังและสภาพแสง

ตัวซอฟต์แวร์ถูกพัฒนาตามคำแนะนำของช่างภาพและช่างแต่งหน้ามืออาชีพ และรับฟังเสียงความคิดเห็นผ่านทางการสำรวจความคิดเห็นและการวิจัยแบบกลุ่ม เทคโนโลยีนี้ยังได้ใช้การปรับแต่งที่ได้รับการยอมรับในทุกๆ เพศและทุกเชื้อชาติ เช่น การทำให้ฟันขาวขึ้น ทำให้หน้าตาดูอ่อนล้าน้อยลง ถือว่า OPPO F5 เป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่ที่ฉลาดที่สุดในเวลานี้

นอกจากนี้ใน OPPO F5 ยังมีฟังก์ชั่นที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่าง Facial Unlock เทคโนโลยีสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคตัวเครื่องช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเพียงแค่ยกเครื่องขึ้นมาเท่านั้น OPPO F5 สามารถปลดล็อคด้วยใบหน้าในระยะเวลาเพียง 0.4 วินาที ได้ทั้งแบบลืมตาและหลับตาอยู่ก็ได้ คราวนี้จะมือเปียกหรือมือเลอะก็ไม่เป็นปัญหาในการปลดล็อคหน้าจออีกต่อไป แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องอยู่ในที่มีแสงสว่างเพียงพอให้กล้องมองเห็นใบหน้า

สำหรับการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือก็ยังสามารถทำได้ที่ด้านหลังตัวเครื่อง

ทางด้านหน้าจอของ OPPO F5 ก็มาในรูปแบบ Full Screen ความละเอียด FHD+ (2160 x 1080 พิกเซล) 16 ล้านสีสัดส่วน 18:9 ขนาด 6 นิ้วมีพื้นที่ใช้งานถึง 84.2% ช่วยให้ใช้งานได้เต็มตาแบบสุดๆโดยที่ไม่ต้องเพิ่มขนาดตัวเครื่อง แถมยังสามารถใช้งาน Split Screen (แบ่งหน้าจอ) ใช้งานพร้อมกัน 2 แอพพลิเคชั่นไปพร้อมๆกัน อาทิ Whatsapp, YouTube, Facebook Messenger และ Google Maps

รวมถึงยังสามารถใช้งานแอพแชตยอดนิยมอย่าง LINE ได้พร้อมกับ 2 บัญชีในเครื่องเดียวด้วยฟีเจอร์โคลนแอพ ใครที่ใช้ WhatsApp หรือ BBM อยู่ก็รองรับ

แถมการที่ไม่มีปุ่ม Home หรือปุ่มสแกนนิ้วมือมาให้เกะกะสายตา ช่วยเพิ่มประสบการณ์การมองเห็นภาพที่สดใส สมจริงและการใช้งานแบบเต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้นจึงเหมาะสำหรับการดูหนัง เล่นเกมเป็นอย่างมาก รวมถึงการอ่านเนื้อหาต่างๆบนหน้าจอก็ดียิ่งขึ้นไม่ต้องเลื่อนหน้าจอลงมาอ่านกันบ่อยๆอีกต่อไป

เท่านี้ยังไม่สะใจคอเกมพอด้วยฟีเจอร์ Game Mode ที่ใส่เข้ามาใน OPPO F5 ทุกรุ่นทำให้สามารถเล่นเกมกับเพื่อนได้ไม่ขาดตอนแม้มีสายโทรเข้าขณะเล่นเกม ซึ่งเมื่อมีสายโทรเข้ามาขณะเล่นเกมเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับสายหรือไม่ ถ้าเป็นสายสำคัญก็สามารถกดรับสายและพูดคุยไปพร้อมๆขณะเล่นเกมได้แบบทันทีไม่มีสะดุดเลย ถือได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่คอเกมมือถือทุกคนรอคอยเลยก็ว่าได้

นอกจากจะป้องการสายโทรเข้าขณะเล่นเกมแล้ว ก่อนที่จะเข้าเกมทุกครั้งตัวระบบจะดึงเอาความสามารถทั้งหมดของเครื่องออกมาเพื่อให้เล่นเกมได้ราบรื่นที่สุด ช่วยจำกัดการเรียกใช้งานดาต้า 4G หรือ Wifi ของแอพที่เปิดใช้งานก่อนเล่นเกมเพื่อการเล่นมีความเสถียรภาพ และยังป้องกันการแตะที่ไม่ตั้งใจด้วยการปิดการใช้แป้นพิมพ์เมื่ออยู่ในโหมดแนวนอนไม่ต้องมาหงุดหงิดขณะเล่นเกมมันๆแล้วเผลอไปกดถุกปุ่มอื่นทำให้หน้าจอเกมเด้งออกมาให้เสียอารมณ์

ทางด้านกล้องดิจิตอลของ OPPO F5 ทาง OPPO ก็ยังจัดเต็มมาด้วยกล้องเซลฟี่ด้านหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลรูรับแสงกว้าง f/2.0 ที่เมื่อทำงานพร้อมกับเทคโนโลยี A.I. Beauty Technology ที่ช่วยในการภาพถ่ายเซลฟี่ให้สวยงามเป็นธรรมชาติซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้ที่แฟนๆ OPPO ชื่นชอบมาโดยตลอด

สำหรับกล้องดิจิตอลด้านหลังก็จัดมาให้ที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลรูรับแสงกว้างถึง f/1.8 พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ถือได้ว่าเป็นสเปคกล้องที่ดีกว่าหลายๆแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มราคาเดียวกัน ต้องบอกเลยว่าคุณภาพที่ได้นั้นไม่แพ้กล้องระดับแฟลกชิปเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีโหมดหน้าชัดหลังเบลอหรือโบเก้ (Bokeh) โหมดโปรที่สามารถปรับค่าต่างๆได้เองแบบกล้องโปร รวมถึงกล้องหน้าในโหมด HDR ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องแสงที่มากเกินไป อีกทั้งยังมีระบบ ES ที่ช่วยกันสั่น และระบบ DSP ที่ช่วยลดเม็ดสีรบกวนของภาพแม้ในที่แสงน้อยและแม้ภาพไม่ชัดอีกด้วย

ทั้งกล้องดิจิตอลด้านหน้าและกล้องดิจิตอลด้านหลังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p ได้ทั้ง 2 กล้อง

ด้วยระบบปฎิบัติการ ColorOS 3.2 ที่ทำงานบนพื้นฐานของ Android 7.1.1 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด โดยทาง OPPO ได้เปลี่ยนหน้าตา UI ใหม่หมด ใช้งานง่ายและสะดวกกว่าเดิมมาก แถมยังมีดีไซน์สวยงามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ด้วยฟีเจอร์ O-Share ทำให้สามารถส่งไฟล์ระหว่างโทรศัพท์ OPPO ได้โดยไม่ต้องง้อสัญญาณอินเตอร์เน็ตหรือบูลทูธอีกต่อไป แถมยังส่งไฟล์ได้เร็วกว่าบลูทูธถึง 100 เท่าอีกด้วย

ทางด้านสเปคนั้น OPPO F5 มาพร้อมกับ RAM 4GB และ RAM 6GB ในรุ่น OPPO F5 6GB หน่วยความจำภายใน 32GB และ 64GB ทำให้สามารถสลับไปมาระหว่างแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดาย ทำให้การเล่นเกมหรือดูหนังทำได้อย่างไม่มีสะดุด ทางด้านหน่วยประมวลผลเป็นแบบ Octa-core แบบ 16 นาโนเมตร ที่ใช้พลังงานที่น้อยกว่า ปล่อยความร้อนน้อยกว่า ทำให้ระบบปฏิบัติการทำงานได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 40% เลยทีเดียว

ส่วนการเปิดใช้งานแอพต่างๆก็ทำได้เร็วขึ้นกว่า 23% ตัวเครื่องยังเพิ่มหน่วยความจำได้ด้วย Micro SD สูงสุด 256GB ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3200mAh เมื่อทำงานร่วมกับ ColorOS 3.2 และซีฟียู Octa-core แบบ 16 นาโนเมตร ทำให้ OPPO F5 ใช้งานต่อเนื่องนานถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันสบายๆ ทำให้ไม่ต้องพก Power Bank ให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป

สำหรับการใช้งานในโหมด Gesture & Motion หรือโหมดท่าทางและเคลื่อนไหวก็ยังมีมาให้ใช้งานใน OPPO F5 ด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการใช้ 3 นิ้วเลื่อนขึ้นหรือลงเพื่อจับภาพหน้าจอได้ทันที การโทรก็สามารถใช้โหมดอัจฉริยะให้โทรออกทันทีเมื่อวางไว้ใกล้หู รับสายอัตโนมัติเมื่อวางใกล้หู สลับจากการเปิดลำโพงไปที่ตัวเครื่องอัตโนมัติเมื่อวางใกล้หู หรือคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียงโทรเข้า

ขณะที่หน้าจอปิดอยู่ สามารถแตะสองครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ วาดรูปตัว O เพื่อเปิดการใช้งานกล้องถ่ายภาพ วาดรูปตัว V เพื่อเปิดไฟฉาย รวมถึงยังสามารถวาด < หรือ > ในการควมคุมเพลงได้อีกด้วย หรือจะเพิ่มคำสั่งการวาดนิ้วได้เพื่อเปิดการใช้งานแอพอื่นๆก็สามารถทำได้

OPPO F5 ใช้ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-slot รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบนาโนได้พร้อมกัน 2 ซิมและการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้ในเวลาเดียวกัน แถมรองรับการใช้งาน OTG หรือการนำแฟลชไดร์ฟมาเชื่อมต่อกับตัวเครื่องเพิ่มความสะดวกในการเปิดไฟล์ต่างๆทั้งเอกสารหรือรูปภาพอีกด้วย

จากการใช้งานจริงของตัวเครื่อง OPPO F5 พบกว่าค่อนข้างประทับใจอย่างมาก แรกสัมผัสกับตัวเครื่องดีไซน์สวยงามแบบ UniBody หน้าจอขนาดใหญ่ 6 นิ้วแบบ Full Screen แต่น้ำหนักเบามากๆ จับกระชับมือ ไม่มีปุ่ม Home มาเกะกะสายตา การใช้งานปลดล็อกด้วยใบหน้าทำได้สะดวกรวดเร็วแค่มองไปที่หน้าจอเท่านั้น แต่ต้องอยู่ในที่แสงสว่างเพียงพอ ถ้าใครจะใช้เซ็นสแกนนิ้วมือก็มีมาให้ที่ด้านหลังตัวเครื่อง ขณะที่หน้าตาการใช้งานก็สวยงามและใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วย Colors OS เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ทางด้านสเปกก็ถือว่าดีที่เดียวเมื่อเทียบกับหลายรุ่นที่อยู่ในกลุ่มราคาเดียวกันไม่เกินหมื่นบาทได้แรมมา 4GB เล่นเกมใหม่ๆหรือยอดฮิตอย่าง Rov ที่เฟรมเรทสูงภาพ HD ได้แบบสบายๆ แถมยังมีฟีเจอร์ Game Mode ที่ป้องกันสายเรียกเข้าขณะเล่นเกมไม่ให้ติดขัดเสียอารมณ์อีกด้วย

ขณะที่ตัว AI Beauty ก็ทำออกมาได้ประทับใจได้ภาพเซลฟี่ดูสวยหล่อกันแบบดูดีกันแบบธรรมชาติกันทุกคนใช้แล้วจะเห็นเลยว่าแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ สมกับสโลว์แกน Capture the Real You แต่ที่ทีมงานชอบเป็นพิเศษคือกล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/1.8 ที่ถ่ายภาพออกมาได้ดีเกินราคาค่าตัวอย่างมาก สามารถถ่ายภาพโบโก้หรือภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายๆอีกด้วย โดย OPPO F5 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 9,990 บาทในรุ่นแรม 4GB และรุ่นแรม 6GB รอม 64GB ราคา 13,990 บาทมีสีแดงและสีดำให้เลือก ซึ่งทางทีมงานจะมีการพรีวิว OPPO F5 รุ่นแรม 6GB สีแดงสุดงามตามมาในเร็วๆนี้

ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO F5 ที่ไม่ได้มีการปรับแต่งใดๆเพียงย่อขนาดลงมาเท่านั้น
บทความโดย – www.flashfly.net
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ – oppo