ในที่สุด iPhone X ก็ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 หลังจากที่ค่ายมือถือได้เปิดจองกันไปตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมาซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย แม้ว่าตัวเครื่องจะมีราคาสูงระดับสี่หมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งยอดจองก็เต็มภายในไม่กี่นาทีแรกเลยทีเดียว

แน่นอนว่าทีมงาน @flashfly เองก็ได้เครื่อง iPhone X เครื่องศูนย์ประเทศไทยมาอยู่ในครอบครองเรียบร้อยแล้วโดยตัวเครื่องเป็นสีเงินความจุ 256GB ซึ่งเป็นความจุสูงที่สุดและแพงที่สุดนั่นเอง ถ้าใครที่เป็นแฟนเพจ Flashfly หลายคนก็น่าจะได้เห็น LIVE แกะกล่องกันไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งวันนี้เราก็จะมารีวิวแกะกล่องพร้อมสัมผัสตัวเครื่องเป็นครั้งแรกพร้อมๆกันอีกครั้ง
มาเริ่มที่ตัวกล่องของ iPhone X จะแตกต่างจากกล่องของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้าคือกล่องของ iPhone X จะโชว์ภาพด้านหน้าตัวเครื่องเพื่อโชว์ดีไซน์หน้าจอไรกรอบไร้ปุ่มโฮมนั่นเอง ขณะที่ของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะโชว์ด้านหลังตัวเครื่องแทนให้เห็นว่าเป็นกระจก โดยขนาดกล่อง iPhone X จะเล็กพอๆกับ iPhone 8 แต่ยาวกว่าเล็กน้อย

สำหรับภาพวอลเปเปอร์ตัวเครื่อง iPhone X สีเงินและสีเทาสเปซเกรย์บนกล่องก็จะแตกต่างกันอีกด้วย ที่ขอบตัวเครื่องจะเห็นสีเงินตัดกับพื้นสีขาวชัดเจน

ด้านข้างจะมีโลโก้ iPhone สีเงินแบบเดียวกับขอบตัวเครื่อง

ด้านหลังก็บอกอุปกรณ์เสริมต่างๆที่อยู่ภายในกล่อง พร้อมความจุและสีของตัวเครื่องในรูปบบภาษาไทย

เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับซองกระดาษวางอยู่ด้านบนสุดเช่นเคย

หยิบออกมาดูก็จะพบกับเอกสารต่างๆไม่ว่าจะเป็นคู่มือการใช้งานเบื้องต้นในรูปแบบภาษาไทย เอกสารการรับประกันตัวเครื่อง

ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือเข็มจิ้มถาดใส่ซิม

และสุดท้ายสติกเกอร์โลโก้ Apple สีขาวสำหรับสะสม หรือหลายๆคนชอบนำไปติดท้ายรถส่วนตัว

เมื่อดูเอกสารเสร็จเรียบร้อยก็จะพบกับตัวเครื่อง iPhone X ด้านหน้าเป็นสีดำวางนอนอยู่ในกล่อง มีแผ่นพลาสติกใสติดอยู่ที่หน้าจอและด้านหลังตัวเครื่อง

หยิบขึ้นมาดูขนาดเหมาะมือมาก ใหญ่กว่า iPhone 8 เล็กน้อยเท่านั้นแต่ได้หน้าจอขนาด 5.8 นิ้วเลยทีเดียวมากกว่า iPhone 8 Plus เสียอีก
พลิกมาดูด้านหลังจะพบกับกล้องคู่แนวตั้งดีไซน์ใหม่ ด้านหลังเป็นกระจกพื้นสีขาวสวยงาม

ตัวกล้องจะนูนขึ้นมาจากกระจกด้านหลังเล็กน้อย

ขอบด้านข้างเป็นสแตนเลสเงางามดูแล้วชวนนึกถึง iPhone รุ่นแรกๆ

ด้านซ้ายมีปุ่มปิดเสียง ถัดมาจะเป็นปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง

ด้านขวาจะมีปุ่ม Power หรือปุ่มเรียก Siri ขนาดใหญ่ ถัดลงมาจะเป็นถาดใส่ซิม

วางเครื่องลงไปก่อนมาดูกันต่อที่อุปกรณ์ต่างๆที่แถมมา

สิ่งแรกที่ต้องมีเลยคือที่ชาร์จพกพา USB Power Adapter ขนาด 5 วัตต์

ตามมาด้วยหูฟัง EarPods แบบหัวต่อ Lightning

พลิกมาดูด้านหลังก็จะพบสายแปลงจาก Lightning เป็นช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. หรือ Lightning to 3.5 mm Headphone Jack Adapter

สุดท้ายอยู่ด้านล่างสุดกับสาย Lightning to USB Cable สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

แกะกล่องเสร็จเรียบร้อยมาทำการแกะพลาสติกออกจาก iPhone X ด้วยการลอกจากด้านหลังไปยังด้านหน้าแบบนี้

เสร็จแล้วก็จะเห็นตัวเครื่อง iPhone X ที่สวยงามแบบเต็มตา ถือได้สบายๆน้ำหนัก 174 กรัม

จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ iPhone X คือที่ด้านหน้าจะมีกล้อง TrueDepth สำหรับใช้งานจดจำใบหน้าสำหรับปลดล้อคตัวเครื่องด้วย Face ID
ส่วนสำหรับอุปกรณ์เสริมของ iPhone X นั้น มีออกมาให้ได้ใช้คู่กันอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องตัวเครื่องด้วยเคสและปกป้องหน้าจอด้วยกระจกกันรอย หรือจะเป็นอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย Wireless Charging ก็มีมาให้ได้เลือกเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน
ปิดท้ายด้วยภาพเปรียบเทียบขนาด iPhone X กับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับรีวิวฉบับเต็มติดตามได้เร็วๆนี้อดใจรอไม่นานแน่นอน
บทความโดย – www.flashfly.net