ในที่สุดก็ถึงวันวางจำหน่าย iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อย่างเป็นทางการในประเทศไทยหลังจากที่เปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมาในกลุ่มประเทศแรก ซึ่งในปีนี้ทั้ง 3 ค่ายมือถือก็ได้พร้อมใจเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาซึ่งยังได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีมีนียอดจองเต็มจำนวนตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง ซึ่งตอนนี้ (3 พ.ย.60)ที่ Apple Online Store และร้านค้าไอทีชื่อดังทั้งหลายที่เป็นตัวแทนสินค้า Apple ก็พร้อมจำหน่ายด้วยเช่นเดียวกั
สำหรับราคาของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ในประเทศไทยปรับขึ้นมาตามขนาดความจุที่เพิ่มขึ้นเป็น 64GB เริ่มต้นที่ 28,500 บาทมีให้เลือก 3 สีคือสีเงิน ,สีเทาสเปซเกรย์และสีทองใหม่ โดยทางทีมงาน @flashfly ก็ได้ตัวเครื่อง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เครื่องศูนย์ประเทศไทย ความจุ 256GB สีเงินและสีทองมาเป็นที่เรียบร้อย เรามาแกะกล่องดูกันว่าจะสวยงามกว่ารุ่นเดิมขนาดไหนและมีอะไรในกล่องกันบ้าง
เริ่มที่ตัวกล่อง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านบนจะเป็นรูปด้านหลังตัวเครื่อง ที่ด้านข้างโลโก้ iPhone จะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องเช่นเดียวกัน หยิบสีไม่ผิดแน่นอน
พลิกมาดูด้านหลังจะมีรายละเอียดภาษาไทยระบุความจุไว้ชัดเช่น พร้อมอุปกรณ์ต่างๆที่แถมมาในชุดจำหน่าย
เปิดฝาออกมาก็จะพบกับซองใส่คู่มือการใช้งานเบื้องต้นเอาไว้แบบเดียวกับ iPhone 7
ในเอกสารก็จะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น การรับประกัน ที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ขาดไม่ได้เลยกับเข็มจิ้มถาดใส่ซิม
สุดท้ายก็เป็นสติ้กเกอร์โลโก้ Apple สีขาวที่มีแถมมาให้โดยตลอด หลายคนชอบสะสม
ดูเอกสารคู่มือเสร็จเรียบร้อยจะเห็นตัวเครื่องวางอยู่พร้อมแผ่นพลาสติกติดรอบตัวเครื่องกับหน้าตาที่คุ้นเคยกันดี
หยิบ iPhone 8 ขึ้นมาหน้าจอขนาด 4.7 นิ้วเท่ากับ iPhone 7 ซึ่งเป็นขนาดนิยมพกพาสะดวก ด้านหลังเปลี่ยนวัสดุเป็นกระจกชาร์จไร้สายได้ มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 12 ล้านพิกเซลใช้เซ็นเซอร์ใหม่หมด
มาดู iPhone 8 Plus กันบ้างซึ่งยังคงขนาด 5.5 นิ้วเท่ากับ iPhone 7 Plus ด้านหลังเป็นกระจกเช่นเดียวกับ iPhone 8 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 2 ตัวเป็นเลนส์มุมกว้างและเลนส์ซูมใช้เซ็นเซอร์ใหม่หมด
วางตัวเครื่องลงไปก่อนมาดูกันต่อที่อุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่องเห็นชัดเจนเลยคือที่ชาร์จแบบพกพาUSB Power Adapter ขนาด 5 วัตต์เช่นเคยใครอยากชาร์จเร็วกว่านี้แนะนำให้ใช้ที่ชาร์จ iPad หรือการชาร์จเร็วด้วยที่ชาร์จ MacBook
ถัดมากับหูฟัง EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning
พลิกมาดูด้านหลังจะมีหัวแปลง Lightning to 3.5 mm Headphone Jack Adapter แถมมาให้แบบเดียวกับ iPhone 7
สุดท้ายกับสาย Lightning to USB Cable ที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลา
เปิดกล่องกันไปหมดเรียบร้อยมาต่อกันที่ตัวเครื่อง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ด้วยการลอกพลาสติกที่ติดรอบตัวเครื่องออกจะเห็นความสวยงามที่ด้านหน้าและด้านหลังอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

สำหรับสีทองใหม่ใน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus นั้นจะออกชมพูนิดๆสวยงามโดนใจหลายคนแน่นอนโดยเฉพาะสาวๆ
ที่ด้านข้างเป็นขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศสีเดียวกับกระจก

แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.และตัวเครื่องยังกันน้ำกันฝุ่นได้เช่นเดียวกับ iPhone 7
ทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ยังคงมาพร้อม Touch ID ที่ปุ่ม Home ตัววงแหวนสีเดียวกับตัวเครื่อง
ด้านหลังเป็นกระจกที่ผ่านมาการลงหมึกถึง 7 ขั้นตอนสวยงามโดย Apple ยืนยันว่าเป็นกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แถมยังรองรับการชาร์จไร้สายหมดปัญหากับใครที่ใช้สาย Lightning พังบ่อยๆ
สำหรับกล้อง iPhone 8 Plus นั้นจะมี Portrait Mode ที่ปรับปรุงใหม่ถ่ายโบเก้ได้สวยงามกว่าเดิมเปิดแฟลชถ่ายได้แล้ว รวมถึงมีโหมดใหม่ Portrait Lighting ที่ช่วยในการจัดแสงภายถ่ายใน Portrait Mode ได้เหมือนในสตูดิโอเลยซึ่งทีมงาน @flashfly จะนำมารีวิวฉบับเต็มให้ชมกันตามมาเร็วๆนี้
ปิดท้ายด้วยการย้ายข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่าไปยัง iPhone 8 ด้วยความสามารถของ iOS 11 ทำให้การย้ายข้อมูลเป็นเรื่องง่ายมากๆเพียงแค่เปิดเครื่อง iPhone 8 หรือ iPhone 8 Plus ครั้งแรก ใส่ซิมแล้วให้นำเครื่องเก่ามาอยู่ใกล้ๆ เพื่อทำการเชื่อมต่อผ่านทาง iCloud

ทำตามขั้นตอนไปเรื่องๆ จากนั้นให้ทำการยืนยันสิทธิ์ด้วยการนำ iPhone เครื่องเก่ามาส่องไปที่วงกลมบนหน้าจอ iPhone 8 คล้ายกับการจับคู่ Apple Watch จากรนั้นระบบจะทำการดึง Backup ล่าสุดบน iCloud ลงมาที่ iPhone 8 ทันทีแนะนำว่าให้ทำที่บ้านและเชื่อมต่อ WiFi ใช้เวลาไม่นานขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์ Backup ล่าสุดที่ได้สำรองข้อมูลไว้นั่นเอง
แน่นอนว่าการวางจำหน่าย iPhone รุ่นใหม่ในประเทศไทยยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ยังมี iPhone X หรือไอโฟนเท็นที่รอการวางจำหน่ายอยู่อีกหนึ่งรุ่นซึ่งทาง Apple ก็ได้ประกาศราคาทางการออกมาแล้วคาดว่าจะวางจำหน่ายในเร็วๆนี้่อย่างแน่นอน
บทความโดย – www.flashfly.net
