iPhone X มาพร้อม Face ID ระบบยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าแบบ 3 มิติ โดยใช้ Dot Projector (ตัวฉายจุดแสง) ฉายแสงลงบนใบหน้ากว่า 30,000 จุด เพื่อสร้างโครงหน้าของผู้ใช้งานในรูปแบบ 3 มิติ ซึ่ง Apple ยืนยันว่ามีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดเพียง 1 ใน 1,000,000 จึงมีความปลอดภัยมากกว่า Touch ID ที่มีอัตราความผิดพลาด 1 ใน 50,000
เบื้องหลังของ Face ID คือความซับซ้อนของระบบกล้อง TrueDepth ทำให้การผลิตเกิดความล่าช้า และอาจส่งมอบไม่ทันตามกำหนดการที่วางไว้ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ และเพื่อให้ iPhone X สามารถพร้อมจำหน่ายได้ทันตามเวลา Apple จึงถูกกล่าวหาว่า มีการลดชิ้นส่วนบางอย่าง เพื่อให้ iPhone X ผลิตทันตามกำหนด และชิ้นส่วนนั้นก็อาจส่งผลให้ Face ID มีความแม่นยำลดลง
ระบบกล้อง TrueDepth ประกอบไปด้วยกล้องและเซ็นเซอร์หลัก 8 ชิ้นส่วน แต่ส่วนที่จำเป็นสำหรับ Face ID ประกอบไปด้วย ตัวฉายจุดแสง, อิลลูมิเนเตอร์มุมกว้าง และ กล้องอินฟราเรด โดยชิ้นส่วนที่สร้างปัญหาในการผลิตมากที่สุดคือ ตัวฉายจุดแสง หรือ Dot Projector ซึ่งต้องอาศัยความแม่นยำในการผลิตสูง
iPhone X กำลังจะวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ โดยจะกระจายไปทั้งหมด 55 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มแรก (ไม่รวมประเทศไทย) นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าจะมี iPhone X เพียง 2 – 3 ล้านเครื่องเท่านั้นที่พร้อมจัดส่งในวันแรก และภายในปีนี้ Apple จะสามารถจัดส่ง iPhone X ได้เพียง 25 – 35 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าที่เคยคาดการณืเอาไว้ 40 ล้านเครื่อง
ที่มา – Phonearena
http://www.flashfly.net/wp/?p=197494