โลกของธุรกิจในยุคปัจจุบันปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยี Cloud เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญขององค์กรทั้งขนาดใหญ่และธุรกิจแบบ SME เพราะเปรียบเสมือนศูนย์กลางที่ทำให้ระบบหลังบ้านมีระบบที่ทันสมัย เพื่อเตรียมพร้อมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ดังนั้นเทคโนโลยี Cloud จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามอง และยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย และจากความน่าสนใจที่ว่านี้เลยทำ AIS ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในบ้านเราให้ความสนใจและนำเทคโนโลยี Cloud มาให้ได้ใช้งานกันง่ายยิ่งขึ้น กับการเปิดตัวสุดยอดบริการ AIS Business Cloud สำหรับองค์กรธุรกิจ แต่ถ้าใครยังงงๆว่าเทคโนโลยีที่ว่านี้คืออะไร จะใช้งานได้อย่างไร และมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนั้น วันนี้ทางทีมงาน @flashfly มีคำตอบมาให้ได้ทำความรู้จักกัน
โดยเมื่อเร็วๆนี้ AIS ได้จัดงานสัมมนาใหญ่เผยวิสัยทัศน์และนโยบาย AIS Business Cloud 2017 เพื่อองค์กรธุรกิจในยุค Thailand 4.0 ด้วยการเปิดตัวบริการ AIS Business Cloud แบบ End-to-End อย่างเป็นทางการด้วยการผสานเข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ AIS มีอยู่ทั้ง Mobile, Internet of Things (IoT), Fixed Network ฯลฯ เพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ที่แตกต่าง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กรทุกขนาด และพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์กับทุกธุรกิจที่ต้องการมีระบบ Cloud ของตัวเอง โดยให้บริการแบบ Managed Service ที่ครบวงจรพร้อมช่วยดูแล ตั้งแต่ให้คำปรึกษา วางแผน ปฏิบัติ และให้บริการตลอดการใช้งาน โดยเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย 5 หัวใจหลักได้แก่ Network for Business ,Infrastructure/ Platform as a service,Security Service ,Software as a service และ Managed Cloud Services
โดยสิ่งดูจะเป็นไฮไลท์ของบริการ AIS Business Cloud นั่นก็คือบริการในกลุ่ม Software as a service (SaaS) นั่นเองประกอบไปด้วย บริการ AIS Unified Communication และ AIS mForm เรามาดูกันว่ามันคืออะไรและมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
มาเริ่มกันที่ AIS Unified Communication หรือ UC กับการรวมช่องทางการสื่อสารบนอุปกรณ์ต่างๆในองค์กรธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียวด้วย Cloud Platform ทำให้ลืมการติดต่อแบบเดิมๆไปได้เลย แน่นอนว่าการที่ต้องการติดต่อใครสักคนในองค์กรเป็นเรื่องที่ลำบากหากไม่รู้เบอร์ติดต่อภายในหรือเบอร์มือถือส่วนตัว ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่าขณะนั้นสามารถติดต่อด้วยช่องทางไหนจึงจะสามารถติดต่อได้โดยเร็วๆที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความสับสนในการเลือกช่องทางติดต่ออย่างมาก ไม่รู้ว่าควรโทรไปที่โทรศัพท์สำนักงานหรือเบอร์มือถือดี ควรส่งข้อความไปทาง SMS หรือจะติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชั่นแชตต่างๆดี
ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะ AIS Unified Communication ช่วยเชื่อมต่อโทรศัพท์สำนักงาน ,โทรศัพท์มือถือ ,แท็ปเล็ต และคอมพิวเตอร์ ไว้ด้วยกัน ทำให้การติดต่อสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องมาคอยเดาว่าต้องติดต่อทางไหนถึงจะเข้าถึงตัวได้อีกต่อไปแล้ว แถมใช้งานได้ทั้งในและนอกสำนักงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรหากันระหว่างเบอร์โทรศัพท์สำนักงานและมือถือขององค์กร และไม่ต้องลงทุนในการติดตั้ง และดูแลรักษาระบบตู้ PBX มูลค่าหลายล้านบาทที่สำนักงานอีกต่อไป
โดย AIS จะเปลี่ยนโทรศัพท์สำนักงานที่เป็นแบบเก่าให้เป็นแบบ IP Phone ทั้งหมด สามารถโทรไปยังเบอร์สำนักงานทั่วไปได้ตามปกติ กรณีที่ต้องการติดตั้งทาง AIS แนะนำว่าควรเข้ามาปรึกษาก่อนเพื่อที่จะได้เตรียมตัวเครื่องให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร สามารถเลือกรุ่นหรือฟีเจอร์ของโทรศัพท์ได้ตามต้องการอย่างเครื่องของผู้บริหารอาจจะเน้นฟีเจอร์มากหน่วยดูหรูหรากว่ารุ่นทั่วไป ในกรณีที่ผู้บริหารมีเลขาหลายคนสามารถผูกเบอร์ไว้ด้วยกันได้ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน VDO Conference ประชุมแบบเห็นหน้าได้ทุกที่รองรับทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ (Windows และ Mac ) สามารถแชร์ภาพหน้าจอที่เราใช้งานไปยังหน้าจอขนาดใหญ่ที่ห้องประชุมได้อีกด้วย
คุณสมบัติเด่น
บริการ AIS Unified Communication แบ่งออกเป็น 2 แพ็กเกจหลักตามคุณสมบัติที่องค์กรสามารถเลือกใช้งาน
1. Hosted PBX เชื่อมต่อโทรศัพท์สำนักงาน IP Phone เพื่อใช้งาน Basic PBX features เช่น Call Forwarding, Call Transfer, Auto Attendance, Hunt Group เป็นต้น
2. Full UC
– เชื่อมต่อโทรศัพท์สำนักงาน IP Phone เพื่อใช้งาน Basic PBX features และ Advance PBX features เช่น Call Park, Simultaneous Ring Personal, Outlook Integration เป็นต้น
– เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต และคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งาน Collaboration Features ต่างๆ เช่น Instant Messaging, Audio/VDO Conferencing, File Sharing เป็นต้น
เรียกได้ว่าบริการ AIS Unified Communication พลิกโฉมการติดต่อสื่อสารขององค์กรธุรกิจในยุค Thailand 4.0 ไปเลยทีเดียว
มาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งบริการเด็ดกับ AIS mForm เป็นบริการที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างหรือปรับแต่งฟอร์มเอกสารผ่าน Online ตามความต้องการในการใช้งานทั้งภายในและภายนอกองค์กรด้วย Mobile application บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android รวมถึงใช้งานผ่าน Web browser ช่วยประหยัดต้นทุนในการจัดพิมพ์เอกสาร และแบบฟอร์มต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสามารถเข้าถึงแบบฟอร์มได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนแบบฟอร์มได้เองอย่างรวดเร็ว สามารถแนบรูปถ่ายหรือพิกัดไปในฟอร์มได้ ปกป้องความเสียหายของข้อมูลที่เกิดจากการส่งต่อเอกสาร หรือแบบฟอร์มที่เป็นกระดาษโดยการเปลี่ยนมาใช้แบบฟอร์มแบบดิจิตัล และเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์
โดย mForm นั้นผู้ใช้งานสามารถสร้าง ออกแบบแบบฟอร์มได้ง่ายดายผ่านหน้าเว็บไซต์รองรับรูปแบบฟอร์มที่หลากหลายเช่น Dropdown list, Radio button, Photo, GPS หรือ Signature การจัดวางก็แค่ลากมาวางเท่านั้น เมื่อจัดวางเสร็จเรียบร้อย สามารถกำหนดสิทธิ์ หรือจัดกลุ่มผู้ใช้งานได้ทันทีอาทิเช่น ทีม Engineer, ทีม Survey, ทีมขนส่ง, ทีมผู้บริหาร เป็นต้น แถมยังสามารถกำหนด workflow ได้ง่ายๆว่าต้องมีมีการผ่านการรับรองจากฝ่ายไหนก่อนบ้าง เมื่อมีแบบฟอร์มที่ต้องทำการ approve หรือดำเนินการต่อจะมี Notify แจ้งเตือนมาในกลุ่มผู้ใช้งานทันทีทั้งบนมือถือหรือคอมพิวเตอร์ รวมถึงยังสามารถติดตามสถานะของแบบฟอร์มที่เราสร้างขึ้น หรือส่งต่อได้ด้วยตนเองได้อีกด้วย สำหรับการดู report ของแบบฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นและใช้งานได้ผ่านหน้าเว็บ และยังสามารถ Export ออกมาเป็นฟอร์แมท Microsoft Excel อีกด้วย
นอกจาก 2 บริการในกลุ่ม Software as a service ที่น่าสนใจมากๆแล้ว สำหรับบริการอื่นๆนั้นก็ล้วนแล้วน่าใช้บริการแทบทั้งสิ้นรวมถึงในกลุ่ม Network & Security กับบริการ Bandwidth on Demand (BOD)ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาปรับเพิ่ม Bandwidth ได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บไซต์โดยสามารถปรับเพิ่ม Bandwidth เป็นรายวันแบบชั่วคราวได้ยืดหยุนต่อการใช้งานและค่าใช้จ่าย แก้ไขปัญหาความต้องการเพิ่มแบนด์วิดท์เป็นช่วงเวลา หรือกรณีฉุกเฉินได้ซึ่งใช้เวลาปรับเพิ่มไม่กี่ชั่วโมงระบบก็พร้อมใช้งานแล้ว สามารถสั่งซื้อแบบรายครั้ง (one time) และแบบรายเดือนต่อเนื่อง (Monthly Recurring) ซึ่งจะเป็นการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง ค่าบริการจะถูกเรียกเก็บพร้อมกับค่าบริการตามรอบบิลที่ใช้งานอยู่
Centralized Firewall บริการรักษาความปลอดภัย Security Service ผ่านระบบ Cloud ซึ่งทาง AIS ได้ร่วมกับ Palo Alto ในการให้บริการซึ่งเป็นบริการในรูปแบบ Virtual Firewall เพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ปลอดภัยในรูปแบบของ Cloud Service สามารถวิเคราะห์การใช้งานทราฟฟิกโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประเภทแอพพลิเคชั่นคอนเท้นท์ที่เข้าถึงรวมไปถึงใครเป็นผู้เข้าถึงอีกด้วย ช่วยตอบสนองกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความรวดเร็วโดยเฉพาะบริษัทที่มีสาขาต่างๆ ทำให้ประหยัดต้นทุนมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ Firewall ไปติดตั้งแต่ละสาขาอีกต่อไป
ตามมาด้วย Hybrid Cloud Solution ที่เป็นการนำระบบ Cloud ชื่อดัง Microsoft Azure มาผสมผสานกันกับ AIS Business Cloud ที่ทำงานได้แบบไร้รอยต่อโดย AIS เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายรายเดียวในประเทศไทยที่ทีระบบเชื่อมต่อตรงกับศูนย์ข้อมูลของ Microsoft ทั้ง 2 แห่งคือ สิงคโปร์และฮ่องกง พร้อมด้วย SLA 99.9% เพื่อการให้บริการ Cloud ทำให้การใช้งาน Microsoft Azure จาก AIS มีประสิทธิภาพสูงสุด
Backup on cloud เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง AIS กับ Veeam เป็นการให้บริการสำรองข้อมูลพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมบนระบบคลาวด์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมระบบสำรองข้อมูลสำหรับองค์กรและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูลและกู้ข้อมูลมีความปลอดภัย และมีความเสถียรสูงสุด รองรับการสำรองข้อมูลและการกู้ข้อมูล Microsoft SQL Server ในระดับ Specific Point in time ผ่าน Transaction log สามารถกู้ข้อมูลในระดับ Table Level หรือ Object Level
อีกหนึ่งบริการในกลุ่ม AIS Enterprise Cloud นั่นก็คือ Database Platform ที่ทาง AIS ได้ร่วมกับ TMaxsoft นำเอา Tibero6 ระบบจัดการ Database Management System ที่มีประสิทธิภาพสูงเข้ามาให้บริการ สนับสนุนฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยนวัตกรรมสถาปัตยกรรมแบบ Hyper Thread สามารถใช้งานร่วมกับฐานข้อมูลประเภท RDBMS อื่นๆได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังสามารถโอนย้ายข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลเดิม และผสานรวมกับแอปพลิเคชันอื่นๆที่ใช้กันในปัจจุบันได้อย่างลงตัว โดยในระบบจัดการฐานข้อมูลมีฟังก์ชั่นในการทำ partition ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง การบีบอัดข้อมูล และยังมีระบบการควบคุมดูแล Database เพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้งานฐานข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่ำ
สุดท้ายสำหรับลูกค้าองค์กรที่มีความสนใจใช้บริการแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีทาง AIS ได้เตรียมทีมงานมืออาชีพไว้คอยแนะนำเริ่มตั้งแต่ให้คำปรึกษา, ติดตั้งระบบ, ย้ายระบบ, ดูแลรักษาระบบเครือข่าย รวมถึงความปลอดภัยของระบบ ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ทีมงานของ AIS ที่ดูแลลูกค้าองค์กร, AIS Business Call Center 1149 หรือที่ www.ais.co.th/business
บทความโดย – www.flashfly.net