วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone เจเนอเรชั่นใหม่ในชื่อ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus iPhone ใหม่โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบกระจกและอะลูมิเนียมซึ่งใช้กระจกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน มีสีสันสวยงามให้เลือก 3 สี นอกจากนี้ยังมาพร้อมจอภาพ Retina HD, ชิพ A11 Bionic และออกแบบมาเพื่อสุดยอดประสบการณ์ความจริงเสมือน ส่วนกล้องที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกก็เยี่ยมยอดยิ่งกว่าเดิมด้วยกล้องเดี่ยวและกล้องคู่ที่มาพร้อมคุณสมบัติ “การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” บน iPhone 8 Plus และการชาร์จแบบไร้สายที่ช่วยเพิ่มความสามารถใหม่ๆ อันทรงพลังให้กับ iPhone iPhone ทั้งสองรุ่นจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 กันยายนเป็นต้นไปในกว่า 25 ประเทศและเขตปกครอง และจะวางจำหน่ายในร้านตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 กันยายนเป็นต้นไป
“iPhone 8 และ iPhone 8 Plus คือ iPhone เจเนอเรชั่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจากทุกสิ่งที่เรารักใน iPhone” Philip Schiller รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple กล่าว “iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีดีไซน์ที่ทำมาจากกระจกและอะลูมิเนียม พร้อมด้วยจอภาพ Retina HD ใหม่ และชิพ A11 Bionic ซึ่งเป็นชิพที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ยิ่งกว่านั้น iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ยังสามารถชาร์จแบบไร้สายได้อย่างอิสระ และปรับแต่งมาสำหรับ AR อย่างที่ไม่เคยมีสมาร์ทโฟนเครื่องใดทำได้มาก่อน อีกทั้งยังมีกล้องที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าเดิมพร้อมโหมดภาพถ่ายบุคคลและคุณสมบัติ “การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” และยังเป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอได้ยอดเยี่ยมที่สุดอีกด้วย”
ดีไซน์ใหม่อันสวยงามทำจากกระจกและอะลูมิเนียม
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อมดีไซน์ด้านหลังอันสวยงามซึ่งทำมาจากกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน และมี 3 สีใหม่ให้เลือก ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ สีเงิน และสีทอง ผิวกระจกผ่านกระบวนการลงหมึกถึง 7 ชั้น ทำให้สามารถแสดงเฉดสีและความทึบแสงได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความอิ่มสีที่มีมิติยิ่งขึ้น นอกจากนี้ขอบเครื่องยังใช้อะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศสีเดียวกับกระจก ทั้งยังทนน้ำและฝุ่นอีกด้วย1
จอภาพ Retina HD ใหม่
จอภาพ Retina HD® ใหม่ ขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone® ช่วยปรับไวท์บาลานซ์บนหน้าจอให้ตรงกับแสงรอบๆ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ประสบการณ์การรับชมมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นเหมือนกำลังดูแผ่นกระดาษจริงๆ จอภาพ Retina HD สีสันสดใสที่รองรับขอบเขตสีกว้างสามารถแสดงสีสันได้ถูกต้องแม่นยำที่สุดในอุตสาหกรรม ส่วนลำโพงสเตอริโอออกแบบใหม่มีเสียงดังขึ้น 25% พร้อมเสียงเบสที่ทุ้มลึกกว่าเดิม เพื่อถ่ายทอดพลังเสียงเพลง เสียงโทรแบบวิดีโอหรือโทรผ่านสปีกเกอร์ได้เต็มอิ่มมากกว่าเดิม
ขอแนะนำ A11 Bionic
ชิพ A11 Bionic ชิพที่ทรงพลังและฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีในสมาร์ทโฟนมาพร้อม CPU แบบ 6 คอร์ ซึ่งประกอบด้วยคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้น 25% และคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ที่เร็วกว่าชิพ A10 Fusion ถึง 70% จึงมีประสิทธิภาพในการประมวลผลและการประหยัดพลังงานอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ ตัวควบคุมประสิทธิภาพรุ่นที่ 2 ใหม่สามารถขับเคลื่อนทั้ง 6 คอร์ไปพร้อมๆ กัน จึงช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมถึง 70% และทำให้ลูกค้าสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้โดยที่แบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้นาน ชิพ A11 Bionic ยังรวม GPU ที่ออกแบบโดย Apple เข้ากับดีไซน์แบบ 3 คอร์ที่จะยกระดับประสิทธิภาพด้านกราฟิกให้เร็วขึ้นอีกถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และขุมพลังทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้การเรียนรู้ของระบบอันล้ำสมัย รวมถึงแอพ AR และเกม 3D แบบสมจริงเป็นไปได้ใน iPhone
ออกแบบมาสำหรับ AR
กล้องบน iPhone 8 Plus ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อประสบการณ์ AR ในระดับสุดยอด โดยกล้องแต่ละตัวได้รับการปรับเทียบอย่างละเอียด และมีไจโรสโคปพร้อมด้วยอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบใหม่ที่ช่วยให้ติดตามการเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ ส่วนการติดตามโลกรอบตัว การรู้จำฉาก และกราฟิกที่ลื่นไหลระดับ 60fps สำหรับ AR นั้นเป็นหน้าที่ของชิพ A11 Bionic ในขณะที่โปรเซสเซอร์ประมวลผลสัญญาณภาพจะคาดคะเนสภาพแสงแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ นักพัฒนา iOS ยังสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม
AR ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยอาศัย ARKit เพื่อสร้างเกมและแอพที่มอบประสบการณ์อันเต็มอิ่มสมจริงและไหลลื่นเกินกว่าแค่ในหน้าจอ
กล้องใหม่หมดเพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม
กล้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยกล้องความละเอียด 12 เมกะพิกเซลที่ดีกว่าเดิม พร้อมเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและไวขึ้น ฟิลเตอร์สีแบบใหม่ และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพใหม่ที่ออกแบบโดย Apple ยังทำให้การประมวลผลพิกเซลมีความล้ำหน้า สามารถบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้าง ออโต้โฟกัสได้เร็วขึ้นในสภาพแสงน้อย และถ่ายภาพ HDR ได้ดีขึ้น ในขณะที่แฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวงใหม่พร้อมด้วยคุณสมบัติสโลว์ซิงค์ช่วยให้ภาพมีความสว่างพอดีทั้งฉากหลังและฉากหน้า ทั้งหมดนี้ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม มีสีสันสดใสสมจริงและถ่ายทอดรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น
กล้องใหม่ยังสามารถบันทึกวิดีโอด้วยคุณภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการบันทึกวิดีโอระดับ 4K สูงสุด 60fps และสโลว์โมชั่นแบบ 1080p สูงสุด 240fps นอกจากนี้ ตัวเข้ารหัสวิดีโอที่ Apple ออกแบบจะวิเคราะห์ภาพและการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์เพื่อให้ได้วิดีโอที่มีคุณภาพดีที่สุด ใน iOS 11 นั้น ทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus รองรับ HEIF และ HEVC ที่บีบอัดข้อมูลได้ดีขึ้นสูงสุดสองเท่า และจัดเก็บรูปภาพและวิดีโอได้มากขึ้นอีกสองเท่า
iPhone 8 Plus มาพร้อมกล้องคู่ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล และโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมคุณสมบัติ “การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” ที่เป็นการนำเอฟเฟ็กต์แสงระดับสตูดิโอสุดอลังการมาสู่ iPhone ช่วยให้ลูกค้าสามารถถ่ายภาพบุคคลที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยเอฟเฟ็กต์ระยะชัดตื้นในสไตล์การจัดแสงที่แตกต่างกัน 5 แบบ
คุณสมบัติ “การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” ได้แรงบันดาลใจจากการค้นคว้าวิจัยแบบเจาะลึกทั้งด้านศาสตร์และศิลป์ของการถ่ายภาพบุคคลและหลักการจัดแสงในการถ่ายภาพ โดยคุณสมบัตินี้จะใช้กล้องคู่และโปรเซสเซอร์ประมวลผลสัญญาณภาพที่ Apple ออกแบบในการรู้จำฉาก สร้างแผนผังในแนวลึก และแยกแบบออกจากฉากหลัง จากนั้นใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อระบุองค์ประกอบบนใบหน้า และเพิ่มแสงเงาให้กับส่วนเว้าส่วนโค้งของใบหน้านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในแบบเรียลไทม์ ทำให้ลูกค้าสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านการถ่ายภาพได้ทรงพลังยิ่งขึ้น2
ออกแบบมาเพื่ออนาคตแห่งโลกไร้สาย
ดีไซน์ด้านหลังแบบกระจกคือส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบชาร์จแบบไร้สายระดับโลกกลายเป็นจริง โดยการชาร์จแบบไร้สายสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของ Qi ซึ่งรวมถึงแผ่นรองชาร์จไร้สายแบบใหม่สองรุ่นจาก Belkin และ mophie ซึ่งมีจำหน่ายที่ apple.com และ Apple Store
Apple เผยโฉม AirPower™ อุปกรณ์เสริมสำหรับการชาร์จแบบไร้สายที่จะวางจำหน่ายในปี 2018 ซึ่งมีพื้นที่สำหรับการชาร์จกว้างพอในระดับที่ลูกค้า iPhone 8, iPhone 8 Plus หรือ iPhone X สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้พร้อมกันถึง 3 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง Apple Watch Series 3 และกล่องชาร์จ AirPods® แบบไร้สายที่มีให้เลือก
มาพร้อม iOS 11 ระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ล้ำหน้าที่สุดของโลก
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาพร้อม iOS 11 ที่ช่วยพัฒนาโหมดภาพถ่ายบุคคลให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเอฟเฟ็กต์ใหม่ๆ ที่ทำให้การถ่ายรูป Live Photos สนุกสนานและมีลูกเล่นมากกว่าเดิม
iOS 11 ยังทำให้อุปกรณ์ iOS หลายร้อยล้านเครื่องได้ใช้งานความจริงเสมือน โดยมาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ซึ่งมีไว้ให้นักพัฒนาสร้างแอพต่างๆ ที่ให้ผู้ใช้วางคอนเทนต์เสมือนไว้ด้านบนสุดของฉากต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงได้ Siri สามารถพูดได้ทั้งเสียงผู้ชายและผู้หญิง อีกทั้งสามารถแปลวลีในภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน หรือสเปนได้
ราคาและการวางจำหน่าย
iPhone 8 และ 8 Plus มีจำหน่ายในสีเทาสเปซเกรย์ สีเงิน และสีทองแบบใหม่หมดในรุ่นความจุ 64GB และ 256GB ที่ apple.com และ ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ (ราคาอาจแตกต่างออกไป)
ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 กันยายนเป็นต้นไป โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน ในประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะวางจำหน่ายในประเทศอันดอร์รา, บาห์เรน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, กรีซ, กรีนแลนด์, เกิร์นซีย์, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, เกาะแมน, เจอร์ซีย์, คอซอวอ, คูเวต, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, มัลดีฟส์, มอลตา, โมนาโก, โปแลนด์, กาตาร์, โรมาเนีย, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, สโลวะเกีย และสโลวีเนีย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป
อุปกรณ์เสริมที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งรวมถึงเคสหนังและเคสซิลิโคนในสีสันต่างๆ แท่นวาง Lightning Dock ในสีสันต่างๆ แบบเมทัลลิกที่เข้ากันกับตัวเครื่องก็จะมีวางจำหน่ายด้วย
ลูกค้าทุกรายที่ซื้อ iPhone 8 หรือ iPhone 8 Plus จาก Apple จะได้รับบริการตั้งค่าแบบส่วนตัวในร้านหรือทางออนไลน์ฟรี เพื่อช่วยปรับแต่ง iPhone ให้เหมาะกับการใช้งานของตนโดยการตั้งค่าอีเมล แสดงการใช้งานแอพใหม่ๆ จาก App Store และอีกมากมาย4
1 iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น ซึ่งผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมที่ระดับ IP67 ตามมาตรฐาน IEC 60529 ความสามารถในการทนน้ำ น้ำกระเด็นใส่ และฝุ่นจะไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งความสามารถดังกล่าวอาจลดลงจากการใช้งานตามปกติ ห้ามชาร์จ iPhone ในขณะที่เครื่องยังเปียกอยู่ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการทำให้แห้งในคู่มือผู้ใช้ การรับประกันไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากของเหลว
2 คุณสมบัติ “การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” เปิดให้ใช้งานในรุ่นเบต้า
3 อ้างอิงจากแผนผ่อนชำระ 24 เดือน ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมด
4 ในประเทศส่วนใหญ่