Steve Jobs Theater กำลังจะเปิดประตูต้อนรับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ในวันที่ 12 กันยายนนี้ ซึ่ง Apple ได้ยืนยันใช้สถานที่ดังกล่าวจัดกิจกรรมพิเศษขึ้น เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ แน่นอนหลายคนคาดหวังว่าจะได้เห็น iPhone รุ่นพิเศษในโอกาสครบรอบ 10 ปี iPhone แต่เชื่อว่า Apple อาจจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus เปิดตัวมานานแล้ว 1 ปีเต็ม จึงสมควรแก่เวลาที่ Apple จะออกรุ่นใหม่ โดยคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักในเรื่องของดีไซน์ จึงอาจจะใช้ชื่อ iPhone 7s และ iPhone 7s Plus แต่รายงานล่าสุดระบุว่า Apple จะใช้ชื่อ iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus
iPhone 8 และ 8 Plus ยังคงใช้จอแสดงผล LCD ขนาด 4.7 นิ้ว กับ 5.5 นิ้ว ตามลำดับ แต่บอดี้จะเปลี่ยนจากอลูมิเนียมเป็นสแตนเลสสตีล ประกบด้านหน้าและหลังด้วยกระจก มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ, สีขาว และ สีทอง รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย
iPhone X
นี่คือ iPhone รุ่นพิเศษที่เป็นไฮไลท์ของงาน เพราะมีการออกแบบใหม่หมด โดยใช้จอแสดงผล OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ขอบจอบางเฉียบ ไร้ปุ่มโฮม และไม่มี Touch ID แต่จะแทนที่ด้วย Face ID สีสันกับวัสดุแบบเดียวกับ iPhone 8 แต่ดีไซน์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมถึง User Interface ก็จะมีความแตกต่างเพราะไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไปแล้ว
iPhone X อาจกันน้ำได้ดีกว่า iPhone 7 นั่นหมายถึงรองรับมาตรฐาน IP68 มาพร้อมกล้องคู่จัดวางแนวตั้ง ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นด้าน Augmented Reality สนับสนุนการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย และมีฟีเจอร์ที่หาไม่ได้จาก iPhone รุ่นอื่น อย่าง Animoji
iPhone X เคยถูกเรียกว่า iPhone 8 หรือ iPhone Edition แต่ข่าวลือล่าสุดรายงานว่า iPhone X คือชื่อที่ Apple จะนำมาใช้ทำตลาด และจะมีราคาสูงที่สุดตั้งแต่เคยมี iPhone ออกมา คืออยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
Apple Watch Series 3
ในปีที่แล้ว Apple Watch Series 1 และ Series 2 ได้รับการเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 7 และในวันอังคารที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็เชื่อว่า Apple Watch Series 3 จะถูกแนะนำตัวควบคู่กับ iPhone รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ รองรับเครือข่าย LTE ทำให้ Apple Watch ลดการพึ่งพา iPhone มากขึ้น จนอาจใช้งานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone อีกต่อไป
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า ถึงแม้ Apple Watch รุ่นใหม่ จะสนับสนุน LTE แต่ก็อาจจำกัดใช้งานเฉพาะบริการดาต้าหรือเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต สามารถสนทนาได้ผ่านระบบ VoIP ผ่าน FaceTime Audio หรือ Skype เป็นต้น แต่ข้อมูลล่าสุดยืนยันว่า อาจจะใช้โทรศัพท์ได้เหมือน iPhone โดยทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เตรียมออกแพ็กเกจไว้รองรับแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ Apple Watch รุ่น LTE จะใช้ e-SIM และเป็นเบอร์เดียวกับ iPhone (กรณีที่เจ้าของ iPhone เป็นลูกค้ารายเดิมอยู่ก่อนแล้ว)
นอกจากนี้ Apple Watch Series 3 ยังมากับสีทอง Blush Gold เฉดเดียวกับ iPhone รุ่นใหม่ด้วย และในรุ่นพิเศษ Apple Watch Edition จะใช้วัสดุเซรามิคในโทนสี Gray
Apple TV รุ่นที่ 5
มีความเป็นไปได้สูงที่ Apple TV รุ่นใหม่ จะสนับสนุนคอนเท้นต์ความละเอียด 4K และรองรับการแสดงผลแบบ HDR (High dynamic Range) พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะมากับ tvOS 11 หลักฐานที่ชัดเจนอีกอย่างก็คือใน iTunes เคยระบุว่าคอนเท้นต์ 4K HDR กำลังจะมาถึง ขณะเดียวกับ Apple ก็ตกเป็นข่าวว่ากำลังเจรจากับพาร์ทเนอร์ เพื่อนำคอนเท้นต์คุณภาพสูงมาป้อนลง iTunes
ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ Apple อาจจะพูดถึงในวันอังคารนี้
HomePod ลำโพงอัจฉริยะที่มาพร้อม Siri ซึ่งเคยเปิดตัวไปแล้ว แต่อาจจะมีการนำเสนออีกครั้ง ก่อนที่จะวางจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้
AirPods มีข่าวว่าจะได้รับการรีเฟรชเล็กน้อย โดยย้ายตำแหน่งหลอดไฟ LED จากด้านในมาไว้ด้านนอก
AirPlay 2 จะสนับสนุนกับลำโพง Beats รุ่นใหม่ ซึ่งยังไม่ได้รับการเปิดตัว จนกว่า HomePod จะเริ่มวางจำหน่าย
ที่มา – 9to5mac
http://www.flashfly.net/wp/?p=193005