สหรัฐอเมริกากับอังกฤษ ประกาศห้ามผู้โดยสารพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ เข้าไปในห้องโดยสาร มีผลกับเทียวบินที่จะเดินทางมาจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ซึ่งสาเหตุของการสั่งแบนในครั้งนี้ มาจากความกังวลเรื่องภัยคุกคามจากก่อการร้ายในสายการบินทั่วโลก
คำสั่งแบนของสหรัฐอเมริกากับอังกฤษ ไม่ได้ใช้นโยบายเดียวกัน โดยสหรัฐอเมริกาเริ่มประกาศใช้ออกมาก่อน ซึ่งจะมีผลกับสนามบิน 10 แห่ง เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของสหรัฐฯ อ้างว่านโยบายแบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ เริ่มมีการพิจารณามาตั้งแต่สมัย Obama เป็นประธานาธิบดี ขณะที่สหราชอาณาจักรได้ประกาศนโยบายตามหลังสหรัฐอเมริกาไม่กี่ชั่วโมง โดยมีคำสั่งห้ามที่คล้ายกัน แต่จะส่งผลกระทบกับกลุ่มประเทศที่แตกต่างกันเล็กน้อย
การสร้างระเบิดในปัจจุบัน สามารถบรรจุไว้ในตลับหมึกเครื่องพิมพ์ แบตเตอรี่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และถ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดใหญ่มาก นั่นก็หมายถึงอาจมีพื้นที่มากที่จะซ่อนวัตถุระเบิดจากการตรวจค้น ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสั่งแบนอย่างชัดเจน ประกอบไปด้วย แล็ปท็อป แท็บเล็ต และ กล้องถ่ายรูป ซึ่งทั้งหมดจะถูกห้ามนำเข้าห้องโดยสาร แต่สามารถเก็บไว้ในห้องสัมภาระได้ และไม่มีผลบังคับใช้กับนักบินหรือลูกเรือ
คำสั่งแบนของสหรัฐอเมริกา มีผลกับ 9 สายการบิน ที่จะเดินทางเข้ามาในสหรัฐฯ ได้แก่ Persian Gulf carriers, Emirates Airline, Qatar Airways, Etihad Airways, Turkish Airlines, Royal Jordanian, Saudi Arabian Airlines, Royal Air Maroc และ Kuwait Airways รวมประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน
คำสั่งแบนในอังกฤษ มีผลกับเทียวบินตรงมาจากประเทศตุรกี, เลบานอน, จอร์แดน, อียิปต์, ตูนิเซีย และ ซาอุดีอาระเบีย
ที่มา – The Wall Street Journal
http://www.flashfly.net/wp/?p=178122