HMD Global เปิดตัวสมาร์ทโฟนพร้อมกัน 3 รุ่น ในงาน Mobile World Congress 2017 ได้แก่ Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 แต่ไฮไลท์ที่แฟนๆ ทั่วโลกจับตามองกลับเป็นโทรศัพท์มือถือที่เรียบง่ายนั่นคือ Nokia 3310 รุ่นใหม่ ที่ถูกดีไซน์ออกมาโดยใช้พื้นฐานจาก Nokia 3310 รุ่นแรกที่เคยทำตลาดเมื่อ 17 ปีที่แล้ว
Nokia 3310 รุ่นปี 2000 ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก มียอดจำหน่ายมากกว่า 120 ล้านเครื่อง ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม HMD Global จึงตัดสินใจปลุกชีพ Nokia 3310 ขึ้นมาอีกครั้ง
Nokia 3310 รุ่นปี 2017 ยังคงเอกลักษณ์จากของเดิม โดยเฉพาะดีไซน์ส่วนขอบจอแสดงผล และรูปทรงปุ่มกด แต่ได้รับการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
Nokia 3310 รุ่นใหม่ ใช้จอสี ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล ขนาด 2.4 นิ้ว ส่วนรุ่นเก่าเป็นจอขาว-ดำ 84 x 48 พิกเซล
Nokia 3310 รุ่นแรกไม่มีกล้อง แต่รุ่นใหม่ถ่ายรูปได้แล้ว โดยมากับความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
Nokia 3310 รุ่น 2017 มากับแบตเตอรี่ 1,200mAh รอรับสายนานสูงสุด 31 วัน สนทนานานสูงสุด 22 ชั่วโมง เล่น MP3 นานสูงสุด 51 ชั่วโมง และฟังวิทยุ FM นานสูงสุด 39 ชั่วโมง ส่วนรุ่นแรกมีความจุ 1,000mAh รอรับสายนานสูงสุด 11 วัน และสนทนานานสูงสุด 2.5 ชั่วโมง เรียกได้ว่ารุ่นใหม่แบตอึดว่าชัดเจน และสามารถชาร์จด้วยพอร์ต microUSB
เมื่อจับทั้งคู่มาเปรียบเทียบด้านข้าง จะเห็นว่า Nokia 3310 รุ่นใหม่บางกว่าชัดเจน โดยมีสัดส่วน 115.6 x 51 x 12.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 79.6 กรัม ขณะที่รุ่นเก่ามีขนาด 113 x 48 x 22 มิลลิเมตร น้ำหนัก 137 กรัม
Nokia 3310 (2017) รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 3.0 มีช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร สนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 32GB สำหรับเก็บเพลงและภาพถ่าย ทำงานบนแพลตฟอร์ม Nokia Series 30+ แต่น่าเสียดายที่รองรับเฉพาะเครือข่าย GSM 900/1800 MHz ซึ่งเราหวังว่า HMD Global จะมีการออกรุ่นอัพเกรดที่สามารถรองรับ 3G และ Wi-Fi ตามออกมาในอนาคต
ทั้งนี้ Nokia 3310 (2017) จะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน 2017) สนนราคา 50 ยูโร หรือราว 1,840 บาท
ที่มา – TechRadar
http://www.flashfly.net/wp/?p=175708