เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม เกิดเหตุวุ่นวายในกลุ่มลูกค้าดีแทคเนื่องจากโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ ไม่สามารถใช้สื่อสารได้เป็นเวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้ใช้บริการแสดงความไม่พอใจผ่านทางสังคมออนไลน์ (โซเชียลเน็ตเวิร์ก) อย่างรุนแรง
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ที่เกิดเหตุดังกล่าวเนื่องจากดีแทคได้ย้ายระบบฐานลูกค้าจากระบบการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2จี สู่ระบบใหม่ (3จี) แต่เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค โดยพื้นที่ที่มีปัญหาการใช้งานเกิดขึ้นในบางพื้นที่ของ กทม.และสมุทรปราการ มีปัญหาเชื่อมต่อกับเครือข่ายไม่ได้ ทั้งส่วนของการให้บริการด้านเสียง (วอยซ์) และบริการด้านสื่อสารข้อมูล (ดาต้า) ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ของดีแทค ชื่อ @dtac_feelgoood ได้ออกมาทวีตแล้วว่ารับทราบปัญหาและกำลังแก้ไข
แหล่งข่าวจากดีแทคกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากระบบเชื่อมต่อฐานข้อมูลล่ม ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารไปยังโครงข่ายระบบอื่นๆ ได้ เนื่องจากอุปกรณ์เดิมใช้ของโนเกีย ซีเมนส์ แต่เมื่อเปลี่ยนระบบจะต้องเปลี่ยนมาเป็นอุปกรณ์ของอีริคสัน
“ก่อนหน้านี้เราใช้โนเกีย ซีเมนส์ ไม่เคยเกิดปัญหาดังกล่าว แต่พอเปลี่ยนอุปกรณ์มาใช้อีริคสัน เกิดปัญหาบ่อยมาก” แหล่งข่าวกล่าว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2555 กลุ่มทรูฯมีแผนลงทุน 2-2.3 หมื่นล้านบาท ในการขยายโครงข่ายเพื่อให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่เดิม 850 เมกะเฮิรตซ์ การขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (บรอดแบนด์) บนเทคโนโลยี DOCSIS ให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
นายศุภชัย กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทปี 2555 ว่า จะยังขาดทุนสุทธิ เนื่องจากมีขาดทุนสะสมอยู่ 7 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเข้าซื้อกิจการฮัทชิสัน และลงทุนให้บริการ 3จี ทรูมูฟ เอช แต่คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรได้ในปี 2556 ส่วนการตรวจสอบสัญญาให้บริการ 3จี เอชเอสพีเอ ร่วมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ยังมั่นใจว่าการเข้าซื้อกิจการฮัทช์เพื่อขยายโครงข่ายดังกล่าวเป็นการทำสัญญาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะไม่มีปัญหาในอนาคต
ที่มา – matichon