Apple® เปิดตัว Apple Watch® Series 2 ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ของสมาร์ทวอทช์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก โดย Apple Watch Series 2 อัดแน่นไปด้วยความสามารถด้านฟิตเนสและสุขภาพชั้นเยี่ยม รวมถึงคุณสมบัติการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร สำหรับการว่ายน้ำ* ตลอดจน GPS ในตัวที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องพก iPhone® นอกจากนี้ Apple Watch Series 2 ยังมีจอภาพที่สว่างเพิ่มมากขึ้นจากเดิม และโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core อันทรงพลังอีกด้วย เมื่อรวมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของ watchOS® 3 ผลที่ได้ก็คือ Apple Watch Series 2 จะช่วยให้สามารถเข้าใช้งานแอพของนักพัฒนารายอื่น รวมถึงรับและตอบกลับการแจ้งเตือนได้ง่ายยิ่งขึ้น ตลอดจนใช้งาน Apple Pay® ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ Apple Watch Series 2 จะวางจำหน่ายในกว่า 25 ประเทศ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน เป็นต้นไป
“เราตื่นเต้นอย่างยิ่งกับเสียงตอบรับที่มีต่อ Apple Watch และการที่ Apple Watch ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คน เราให้ความสำคัญในด้านฟิตเนสและสุขภาพ และคิดว่าลูกค้าของเราจะต้องชื่นชอบในความสามารถใหม่ๆ ของ Apple Watch Series 2” Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว “ด้วยโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ใหม่อันทรงพลัง ความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 50 เมตร และ GPS ในตัว จึงเรียกได้ว่า Apple Watch Series 2 นั้นอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าของเรามีสุขภาพที่ดี”
ฟิตเนสและสุขภาพ
Apple Watch Series 2 มีความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 50 เมตร สำหรับการว่ายน้ำ เล่นกระดานโต้คลื่น หรือเพียงแค่เล่นสนุกในสระว่ายน้ำก็ได้ สำหรับนักว่ายน้ำ Apple ได้พัฒนาอัลกอริธึมโฉมใหม่ขึ้นมา หลังจากที่ทำการวิจัยเป็นเวลาหลายร้อยชั่วโมงเพื่อให้มีตัวเลือกในการออกกำลังกายแบบใหม่เพิ่มเข้ามาสองแบบ ซึ่งได้แก่ การใช้งานในสระว่ายน้ำและการใช้งานในทะเล บึง หรือทะเลสาบ โดย Apple Watch Series 2 สามารถนับรอบ ติดตามความเร็วโดยเฉลี่ยในแต่ละรอบ ตลอดจนตรวจจับท่าว่ายน้ำโดยอัตโนมัติ เพื่อวัดจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไปอย่างแม่นยำ
เมื่อมี GPS ในตัว Apple Watch Series 2 จะบันทึกระยะทาง เวลาเฉลี่ยต่อระยะทาง ตลอดจนความเร็วสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้งประเภทต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น การเดิน การวิ่ง หรือการขี่จักรยาน โดยที่ไม่ต้องพก iPhone ไปด้วย โดยผู้ใช้สามารถเริ่มออกกำลังกายกลางแจ้งได้ทันที เนื่องจาก Apple Watch Series 2 ใช้ Wi-Fi, GPS และจัดเก็บข้อมูลดาวเทียมไว้ภายในเครื่อง เพื่อให้สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อออกกำลังกายกลางแจ้งเสร็จแล้ว ก็สามารถดูแผนที่แสดงเส้นทางซึ่งจะแสดงข้อมูลความเร็วในระดับต่างๆ ในแอพกิจกรรมบน iPhone ซึ่งไม่ว่าคุณจะวิ่ง ไปว่ายน้ำ หรือเดินไปประชุม แอพ Activity บน Apple Watch Series 2 ก็จะนับกิจกรรมทั้งหมดที่คุณทำในแต่ละวันรวมไว้ในวงแหวนการยืน การเคลื่อนไหว และการออกกำลังกาย
เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
Apple ได้ริเริ่ม System in Package (SiP) ที่ออกแบบมาสำหรับ Apple Watch โดยเฉพาะ และพัฒนาเทคโนโลยีเทคโนโลยีสุดล้ำที่ว่านี้อย่างต่อเนื่องด้วยชิพ S2 รุ่นที่ 2 เมื่อมีโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core จึงทำให้ชิพ S2 ยกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้น ส่งผลให้ Apple Watch ทำงานได้เร็วขึ้นถึง 50% นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม GPU ใหม่เข้ามา ทำให้ประสิทธิภาพด้านกราฟิกยอดเยี่ยมกว่าเดิมถึง 2 เท่า ยิ่งกว่านั้น Apple Watch Series 2 ยังมาพร้อมจอภาพที่สว่างมากขึ้นที่ 1,000 นิต ซึ่งเป็นความสว่างที่มากขึ้นกว่า 2 เท่า นี่จึงเป็นจอภาพที่สว่างที่สุดที่ Apple เคยมีมา ทำให้เห็นข้อมูลสำคัญๆ ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เหลือบมองเมื่ออยู่กลางแจ้งในวันที่แดดจ้า
watchOS 3
watchOS 3 มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก ซึ่งช่วยให้การเปิดใช้งานแอพทำได้ในทันทีและง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเปิดจากหน้าปัดนาฬิกาหรือใช้ Dock ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ซึ่งจะแสดงข้อมูลล่าสุดที่ได้รับการอัพเดทไว้ในเบื้องหลังเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของความสามารถด้านฟิตเนสและสุขภาพใหม่นั้นก็รวมถึงแอพ Breathe ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้ได้ใช้เวลาครู่หนึ่งในแต่ละวันในการฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อผ่อนคลายตนเองและลดความตึงเครียด และในตอนนี้แอพ Activity ก็มาพร้อมความสามารถในการแชร์ เปรียบเทียบ และแข่งขัน เพื่อให้เพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวมีแรงจูงใจอยู่เสมอ นอกจากการออกกำลังกายแบบเฉพาะแล้ว ก็ยังมีประสบการณ์ที่คิดมาเพื่อผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์โดยเฉพาะที่จะช่วยให้วงแหวนกิจกรรมเต็มวง
Apple Watch สะท้อนความเป็นคุณได้มากยิ่งขึ้นด้วยหน้าปัดนาฬิกาใหม่ เช่น หน้าปัด Minnie Mouse หน้าปัด Activity และหน้าปัด Numerals เพียงปัดจากขอบด้านหนึ่งไปยังขอบอีกด้านเพื่อเปลี่ยนไปมาระหว่างหน้าปัดใหม่ๆ แบบต่างๆ อีกทั้งยังมี Face Gallery ที่เพิ่มมาใหม่ในแอพ Apple Watch บน iPhone เท่านี้ก็สามารถปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาให้ได้อย่างใจและพบกับแอพของนักพัฒนารายอื่นได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย
ผลิตภัณฑ์ตระกูล Apple Watch
Apple Watch Series 2 มาพร้อมความสามารถด้านฟิตเนสและสุขภาพโฉมใหม่ ที่อยู่ภายในตัวเรือนอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาหรือตัวเรือนสแตนเลสสตีล ผสานกับสายสวยงามสีสันใหม่ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย
Apple Watch Series 1 มีจำหน่ายในรุ่นอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา อีกทั้งยังนำโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ใหม่และ GPU มารวมเข้ากับบรรดาคุณสมบัติอันน่าทึ่งของ Apple Watch รุ่นแรก จึงมีการทำงานที่เร็วขึ้นถึง 50%
สำหรับ Apple Watch Edition™ นั้น ในวันนี้มาในรูปแบบเซรามิกที่งดงาม ซึ่งผสานเอาความประณีตแห่งงานฝีมือเข้ากับตัวเรือนสีขาวอันเงางาม ตลอดจนคุณสมบัติอันน่าทึ่งทั้งหมดที่มีใน Apple Watch Series 2 เซรามิกนับว่าเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีความแข็งที่สุดในโลก ซึ่งมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลกว่า 4 เท่า และมีพื้นผิวสีขาวราวไข่มุกที่งดงาม ทำให้ Apple Watch Edition สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นเยี่ยม
การวางจำหน่าย
• Apple Watch มีตัวเรือนให้เลือก 2 ขนาด คือ 38 มม. และ 42 มม. Apple Watch Series 1 จะวางจำหน่ายในตัวเรือนอะลูมิเนียมสีทอง สีโรสโกลด์ สีเงิน หรือสีเทาสเปซเกรย์ คู่กับสายแบบ Sport Band; Apple Watch Series 2 จะวางจำหน่ายในตัวเรือนอะลูมิเนียมสีทอง สีโรสโกลด์ สีเงิน หรือสีเทาสเปซเกรย์ หรือตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีเงินหรือสีดำสเปซแบล็ค คู่กับสายหลากหลายแบบ และ Apple Watch Edition เซรามิกใหม่ และสามารถซื้อได้จาก Apple.com รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางราย สำหรับการวางจำหน่ายในท้องถิ่น โปรดไปที่ locate.apple.com
• ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อ Apple Watch Series 1, Apple Watch Series 2 และ Apple Watch Edition ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 16 กันยายน ในประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
• Apple Watch Nike+ จะพร้อมให้สั่งซื้อบน Apple.com ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป และวางจำหน่ายปลายเดือนตุลาคมในประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, คอสฅาริกา, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, อินเดีย, ไอร์แลนด์, อิสราเอล, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
• Apple Watch Series 1, Apple Watch Series 2 และ Apple Watch Edition จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 กันยายนเป็นต้นไป ในประเทศแองกวิลลา, แอนติกาและบาร์บูดา, หมู่เกาะเคย์แมน, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, เอลซัลวาดอร์, กรีซ, กวม, ฮังการี, เจอร์ซีย์, คูเวต, มาเก๊า, โมนาโก, โปแลนด์, กาตาร์, โรมาเนีย, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, สโลวาเกีย และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา
• Apple Watch Series 1, Apple Watch Series 2 และ Apple Watch Edition จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป ในประเทศอินเดียและเม็กซิโก
• Apple Watch Series 2 ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 5 หรือใหม่กว่าที่ใช้ iOS 10 หรือใหม่กว่า watchOS 3 และ iOS 10 จะพร้อมให้อัพเดทซอฟต์แวร์ฟรีตั้งแต่วันพุธที่ 14 กันยายน (เวลาในประเทศไทย) เป็นต้นไป คุณสมบัติบางประเภทไม่สามารถใช้ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา
*Apple Watch Series 2 มีความสามารถในการกันน้ำ โดยมีการป้องกันอยู่ที่ระดับ 50 เมตรตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งสามารถใช้ในกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือทะเล อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ Apple Watch Series 2 ในการดำน้ำลึก การเล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูงหรือต้องอยู่ในน้ำที่ลึกกว่าระดับน้ำตื้น สายสแตนเลสสตีลและสายหนังไม่มีความสามารถในการทนน้ำ
**ในประเทศส่วนใหญ่
ที่มา – Apple
http://www.flashfly.net/wp/?p=158044