วิศวกรของ Intel เปิดเผยว่ามาตรฐาน USB Type-C เหมาะสำหรับใช้เป็นพอร์ตเชื่อมต่อกับชุดหูฟังมากที่สุด และคาดว่าอนาคตจะมาแทนที่แจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ขณะที่ Apple ก็มีแนวทางของตัวเอง จากข่าวลือที่ว่า iPhone รุ่นใหม่จะไร้ช่องเสียบแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร และปล่อยให้ลูกค้าเชื่อมต่อหูฟังผ่านพอร์ต Lightning
Brad Saunders วิศวกรจาก Intel ให้ข้อมูลว่า ชุดหูฟังที่ใช้พอร์ต USB Type-C เหมาะสำหรับการฟังเพลงดิจิตอลอย่างแท้จริง ให้คุณภาพเสียงคมชัดโดยไม่ต้องอาศัยชิปเสียง ขณะที่แผงวงจรอนาล็อกของแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร สามารถก่อให้เกิดเสียงรบกวนได้ ช่วยให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ไม่ต้องทำข้อตกลงกับบริษัทที่พัฒนาระบบเสียงอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็น Dolby หรือ Bose
หากสมาร์ทโฟนเลิกใช้แจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร แล้วแทนที่ด้วยพอร์ต USB Type-C จะทำให้ตัวเครื่องบางลงได้อีก ส่วนเรื่องการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ Brad Saunders บอกว่ามันจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ USB Type-C ยังสามารถใช้งานแทน DisplayPort และ HDMI ได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ OPPO เคยผลิตสมาร์ทโฟนที่ไร้ช่องเสียบแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร ออกมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะถ้าอยากฟังเพลงต้องเชื่อมต่อกับชุดหูฟัง Bluetooth จนมาถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา LeEco ค่ายมือถือจากประเทศจีนเช่นกันได้กลายเป็นค่ายแรกที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงโดยไม่มีช่องเสียบแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร โดยใช้หูฟังที่เป็นพอร์ต USB Type-C ตามมาด้วย Lenovo ที่เปิดตัว Moto Z series ซึ่งไม่รองรับแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตรเช่นกัน แต่แถม Adapter หรือตัวแปลงพอร์ต USB Type-C มาให้แทน
ทางด้าน Apple ก็มีข่าวลือว่า iPhone รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในต้นเดือนกันยายนนี้ จะไร้ช่องเสียบแจ๊ค 3.5 มิลลิเมตร และคาดว่าจะออก EarPods รุ่นใหม่ที่ใช้พอร์ต Lightning ปัญหาใหญ่ที่ผู้ใช้งานเป็นกังวลก็คือ หากสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์พกพา ไม่มีช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เหลือแต่พอร์ต USB เพียงอย่างเดียว การฟังเพลงในระหว่างชาร์จแบตเตอรี่จะทำอย่างไร
ที่มา – CNET
http://www.flashfly.net/wp/?p=155814