ผู้ ค้ามาบุญครองย้ำไอโฟน 4 เอสมาไทยอย่างเป็นทางการยังไม่กระทบยอดขาย ระบุแค่ชลอตัวชั่วคราว หากโอเปอร์เรเตอร์ 3 รายใหญ่ได้โควต้ามาน้อยยังไม่ใช่คู่แข่งขณะนี้ เผยราคาผันตามดีมานด์ตลาด เตรียมหั่นราคาสู้เต็มที่เชื่อยังมีช่องว่างแข่งขันได้
แหล่งข่าว ผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ตรายใหญ่ในห้างมาบุญครอง กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาว่าผู้ให้บริการมือถือ 3 รายใหญ่ในไทยเตรียมเปิดขายไอโฟน 4 เอสพร้อมกันอย่างเป็นทางการวันที่ 16 ธ.ค.ยังไม่ส่งผลที่ชัดเจนต่อผู้ค้ามาบุญครองมากนัก ที่พบในเบื้องต้นคือทำให้ลูกค้าชลอดูสถานการณ์เพื่อเปรียบเทียบราคา
“โดย ปกติที่ผ่านมาโควต้าที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือไทยแต่ละรายได้มาค่อนข้าง น้อยและไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ตลาดมาบุญครองมีลูกค้าเข้ามาถามหาซื้อสินค้ามากเป็นปกติ และซื้อขายหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นปัญหาของเราจึงไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่เป็นจำนวนที่แต่ละรายได้มามากกว่า”
แหล่งข่าว เผยว่า ปัจจุบันผู้ค้าเริ่มไม่กักตุนสินค้าและทยอยขายสินค้าสต็อกเก่าให้หมดเพื่อ เริ่มต้นใหม่ คาดว่าราคาที่เคาะหลังจากวันที่ 16 จะแพงกว่าที่ขายในศูนย์บริการราว 2,000 บาท การสต็อกสินค้าจำเป็นต้องวางแผนอย่างระมัดระวังเพื่อว่าจะได้ไม่เจ็บตัวมาก นัก
ราคาผันตามดีมานด์
พร้อม กับชี้ว่า การที่มีรายใหญ่เข้ามาเป็นตัวเลือกยิ่งส่งผลดีกับการค้าขายที่มาบุญครอง เนื่องจากมีโปรโมชั่นแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตมาให้เลือกเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้กระแสในตลาดแรงมากขึ้น จากเดิมที่เป็นสินค้าเบอร์ 1 ในตลาดมาตลอดกาลอยู่แล้วก็ได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
แหล่ง ข่าว เผยว่า ส่วนต่างของราคาจะเริ่มปรับตัวลงเรื่อยๆ แน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่นิ่ง ผันผวนตามความต้องการที่มีในตลาด โดยปัจจุบันไอโฟน 4 เอสความจุ 16 กิกะไบต์ ราคา 24,700 บาท 32 กิกะไบต์ ราคา 27,900 บาท และ 64 กิกะไบต์ราคา 29,000 บาท สีดำและสีขาวราคาเท่ากันที่ปลดล็อกมาแล้วจากหลายแหล่งทั้งฮ่องกง ออสเตรเลีย และสหรัฐ
อย่างไรก็ตามหลังสถานการณ์น้ำคลี่คลายยอดขายของร้านยัง คืนไม่กลับคืนมา 100% บรรยากาศโดยรวมลูกค้าหายไปกว่าครึ่ง คาดว่าจากนี้อีก 2 เดือนจะยิ่งแย่ไปกว่านี้อีกเพราะต่างคนจำเป็นต้องนำเงินไปซ่อมบ้านของตัวเอง แต่ละวันเฉลี่ยขายสินค้าได้ 3 เครื่อง จากเดิมช่วงที่ขายดีสุดขายได้วันละ 6-7 เครื่อง
ยอดขายไม่เกี่ยว “สตีฟ จ็อบส์”
ผู้ ค้ารายเดิมเผยว่า หลัง “สตีฟ จ็อบส์” ซีอีโอคนก่อนตายไม่มีผลกับยอดขายที่นี่ จ็อบส์อาจเป็นสัญลักษณ์ของแอ๊ปเปิ้ลก็จริง แต่ท้ายที่สุดลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้ามักพิจารณาตามคุณภาพของสินค้า มากกว่า
“ส่วนตัวคิดว่าเขามีอิทธิพลในแง่ของความรู้สึก ทำให้ทุกคนยอมเปิดใจรับสินค้าทุกอย่างที่แอ๊ปเปิ้ลเปิดตัวออกมา แต่เมื่อไม่มีเขาแล้วทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม”
พร้อมระบุว่า ยอดขายแบล็คเบอร์รีทรงตัวไม่มากหรือน้อยไปกว่าเดิม ลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงานที่ใช้งานอีเมลเป็นประจำ ส่วนแอนดรอยด์ไม่ค่อยได้รับความนิยม ขนาดแบรนด์อันดับ 1 แอนดรอยด์ลูกค้าซื้อไปไม่ถึง 5 วันก็เอามาขายคืนก็มี
ที่มา – bangkokbiznews