หลังจากที่ Apple ได้เปิดราคา iPhone SE อย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้วเริ่มต้นที่ 16,800 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่ารุ่นพี่อย่าง iPhone 6s ถึง 9,700 บาท แถมสเปคทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นใช้ชิปเซ็ต A9 และ M9 แบบเดียวกัน มีกล้อง iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากัน รองรับ Live Photo ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ไฟแฟลชทูโทน แถมยังมีสีชมพู Rose Gold ให้เลือกเหมือนกันอีก ทีมงาน @flashfly เลยสรุปความแตกต่างแบบเจาะลึกมาฝากกันเพื่อประกอยการตัดสินใจเลือกซื้อทั้งหมด 11 ข้อดังนี้
ขนาดหน้าจอและความละเอียด
iPhone SE หน้าจอ 4 นิ้วจอภาพ Retina ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล 326ppi ขณะที่ iPhone 6s หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว จอภาพ Retina HD ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล 326 ppi ใช้แบ็คไลท์แบบ LED รุ่นใหม่ พร้อม Taptic Engine นอกจากนี้ อัตราส่วนคอนทราสต์ของหน้าจอ iPhone SE อยู่ที่ 800:1 ส่วน iPhone 6s อยู่ที่ 1400:1 หน้าจอสามารถซูมได้อีกด้วย
หน้าจอรับรู้แรงกด 3D Touch
Apple ยังคงใช้ฟีเจอร์นี้ให้เฉพาะ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เท่านั้น แม้แต่ iPad Pro ก็ยังไม่มีฟีเจอร์นี้เพิ่มเข้ามา โดย iPhone SE ยังคงเป็นเพียงหน้าหน้าจอ Retina ปกติ
4G LTE
iPhone SE รองรับ 4G LTE ดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps ส่วน iPhone 6s รองรับ 4G LTE Advanced ดาวน์โหลดสูงสุด 300Mbps
กล้องหน้า FaceTime
กล้องหน้า iPhone SE ของมีความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล F/2.4 ส่วน iPhone 6s มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล F/2.2 รองรับ Retina Flash ทั้ง 2 รุ่น
Touch ID
แน่นอนว่า iPhone SE นั้นก็มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือติดตั้งอยู่ในปุ่มโฮม แต่ของ iPhone 6s เป็นรุ่นที่ 2 ที่ทำงานรวดเร็วกว่าพอสมควร
ความจุ
iPhone SE นั้นมีความจุให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ 16GB และ 64GB ส่วน iPhone 6s มีให้เลือก 3 ขนาดคือ 16GB ,64GB และ 128GB
กล้อง iSight
สำหรับกล้อง iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลของ iPhone SE นั้นเป็นตัวเดียวกับ iPhone 6s ทุกประการ เพียงแต่ตัวเลนส์ไม่นูนออกมาจากตัวเครื่องเหมือน iPhone 6s ซึ่งทำให้ตัวเครื่องแลดูสวยงามกว่า
วัสดุ
จากผลทดสอบของหลายเว็บในต่างประเทศยืนยันชัดเจนว่า iPhone SE นั้นไม่ได้แข็งแรงเท่า iPhone 6s ที่เปลี่ยนไปใช้อลูมิเนียมซีรีย์ 7000 ซึ่งตัวเครื่อง iPhone SE ทนทานได้พอๆกับ iPhone 5s เท่านั้น
แบตเตอรี่
iPhone SE นั้นแม้ว่าจะมีขนาดแบตเตอรี่ที่น้อยกว่า iPhone 6s แต่กลับสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าดังนี้ iPhone SE ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงสุด 12 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, สูงสุด 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE, สูงสุด 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi เล่นวิดีโอสูงสุด 13 ชั่วโมง ขณะที่ iPhone 6s นั้นใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 3G, สูงสุด 11 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE, สูงสุด 11 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi เล่นวิดีโอสูงสุด 11 ชั่วโมง ซึ่งดูแล้ว iPhone SE ใช้งานได้นานกว่า iPhone 6s ราว 2 ชั่วโมง
ขนาดและน้ำหนัก
iPhone SE ตัวเครื่องใช้บอดี้และมีดีไซน์แบบเดียวกับ iPhone 5s ตัวเครื่องบาง 7.6 มม. หนักเพียง 113 กรัมเท่านั้น ขณะที่ iPhone 6s บาง 7.1 มม. หนัก 143 กรัม
บารอมิเตอร์
iPhonen SE ไม่มีบารอมิเตอร์หรือเซ็นเซอร์วัดความดันอากาศอีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดเก็บข้อมูลระดับความสูงด้านฟิตเนส
และนี่คือทั้ง 11 อย่างที่ทีมงานสรุปรวบรวมมาให้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง iPhone SE และ iPhone 6s ซึ่งก็น่าที่จะวางจำหน่ายในบ้านเราเร็วๆนี้แล้ว ใครที่ยังลังเลอยู่ก็คงพอจะช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
บทความโดย – www.flashfly.net