Microsoft เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดสำหรับ Windows 10 ในงานประชุมนักพัฒนาประจำปี Build 2016

ในงานประชุมนักพัฒนาประจำปี Build 2016 ผู้บริหารไมโครซอฟท์ นำโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายสัตยา นาเดลลา และรองประธานกลุ่มธุรกิจวินโดวส์และดีไวซ์ นายเทอร์รี ไมเออร์สัน ได้ร่วมกันเผยถึงทิศทางและความสำเร็จล่าสุดในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ได้ในรูปแบบของการสนทนา พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทุกคน ในโอกาสนี้ นายนาเดลลาได้แนะนำคุณสมบัติใหม่ล่าสุดของคอร์ทานา ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มวินโดวส์ 10 พร้อมด้วยบริการคลาวด์และชุดเครื่องมือใหม่มากมายสำหรับการพัฒนา “บอท” (bot) หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำความเข้าใจโลกรอบตัวเราและสื่อสารกับมนุษย์ได้ ส่วนนายไมเออร์สันได้ประกาศเปิดตัว Anniversary Update สำหรับวินโดวส์ 10 ที่พร้อมมอบนวัตกรรมใหม่มากมายให้กับผู้ใช้ทุกคน ควบคู่ไปกับคุณสมบัติใหม่สำหรับการพัฒนาแอพบน Universal Windows Platform

“ทุกวันนี้ อุตสาหกรรมไอทีกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ผสมผสานพลังของการติดต่อสื่อสารด้วยภาษามนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติ เข้ากับศักยภาพการคิดคำนวณอันเหลือล้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์” นายนาเดลลากล่าว “ความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เกิดแพลตฟอร์มใหม่ที่เราขนานนามว่า ‘Conversations as a Platform’ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาต่อยอดจากศักยภาพเดิมของระบบคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ บริการ Office 365 และแพลตฟอร์มวินโดวส์ เพื่อมอบพลังให้นักพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น”

“ฐานผู้ใช้วินโดวส์ 10 ในปัจจุบัน ครอบคลุมดีไวซ์รวมกว่า 270 ล้านเครื่องทั่วโลก เพื่อฉลองความสำเร็จนี้ เราได้พัฒนา Anniversary Update สำหรับวินโดวส์ 10 ที่จะเพิ่มศักยภาพให้ผู้ใช้สามารถตอบโต้กับดีไวซ์ของตนได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยปากกา ภาพ และเสียง” นายไมเออร์สันกล่าวเสริม “นอกจากนี้ เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวินโดวส์ 10 ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับนักพัฒนาแอพทุกคนด้วยคุณสมบัติใหม่มากมายบน Universal Windows Platform และชุดเครื่องมือใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแอพจากแพลตฟอร์มใดก็ได้ให้กลายเป็นแอพวินโดวส์ 10”

บริการคลาวด์อัจฉริยะ บอทที่รองรับการสนทนากับผู้ใช้ และชุดเครื่องมือ Cortana Intelligence Suite

ชุดเครื่องมือ Cortana Intelligence Suite หรือในชื่อเดิมว่า Cortana Analytics Suite เป็นผลงานสร้างสรรค์จากงานวิจัยด้านข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ การรับรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการพัฒนาบอท โดยไมโครซอฟท์พร้อมมอบศักยภาพทั้งหมดนี้ให้นักพัฒนาและภาคธุรกิจได้นำไปปรับใช้บนแพลตฟอร์มคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ เพื่อสร้างโซลูชั่นอัจฉริยะแบบครบวงจรในรูปแบบใหม่ เช่นแอพพลิเคชันที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากโลกรอบตัวเราได้ และบอทที่สามารถสนทนากับผู้คนได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ในงาน Build 2016 นี้ ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่สองชิ้นในชุด Cortana Intelligence Suite โดยพร้อมให้นักพัฒนาได้ทดลองใช้แล้ววันนี้ สำหรับเครื่องมือชิ้นแรก ได้แก่ API ชุด Microsoft Cognitive Services ที่ช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถมองเห็น ได้ยิน พูด และเข้าใจการสื่อสารกับมนุษย์ได้ในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ ส่วนเครื่องมือชิ้นที่สอง Microsoft Bot Framework จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้โค้ดภาษาใดก็ได้มาพัฒนาบอทอัจฉริยะที่สนทนากับผู้ใช้ได้ ผ่านทั้งข้อความ SMS บริการ Office 365 เว็บไซต์ต่างๆ หรือแอพอย่าง Skype และSlack เป็นต้น

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้แสดงให้เห็นว่านักพัฒนาสามารถใช้บริการในชุด Cortana Intelligence Suite นี้เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างไรบ้าง ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างของโครงการ Seeing AI ซึ่งนำศักยภาพของบริการดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ให้ผู้พิการทางสายตาสามารถรับรู้และเข้าใจว่ามีใครหรือสิ่งใดอยู่รอบตัวบ้างในขณะนั้น

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัว Skype Bot Platform ที่มีทั้งชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา (SDK) API และWorkflow รวมไว้ให้ในบริการ Skype Bot Portal เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างบอทที่ติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ผ่านทาง Skype ได้ ทั้งในรูปแบบข้อความ เสียง วิดีโอ และตัวละครเสมือนจริงแบบสามมิติ ผู้สนใจสามารถทดลองใช้งานบอท Skype ได้แล้ววันนี้ในแอพ Skype รุ่นล่าสุด ทั้งบนแพลตฟอร์มวินโดวส์ แอนดรอยด์ และไอโอเอส ส่วนนักพัฒนาก็สามารถใช้ Skype Bot Platform เพื่อเริ่มพัฒนาบอทของตนเองและให้บริการกับผู้ใช้ Skype หลายร้อยล้านคนทั่วโลกได้แล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cortana Intelligence Suite ได้ที่นี่ พบกับนวัตกรรมจากโครงการSeeing AI ได้ที่นี่ หรือดาวน์โหลด Skype รุ่นล่าสุดและสัมผัสกับ Skype Bot Platform ได้ที่นี่

นวัตกรรมใหม่ในวินโดวส์ 10 ตอบสนองทุกความต้องการที่แตกต่าง พร้อมเปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้กับนักพัฒนา

แพลตฟอร์มวินโดวส์ 10 ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน ในรูปแบบที่ทั้งเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และครอบคลุมดีไวซ์ที่หลากหลาย ด้วยฟีเจอร์เด่นมากมาย เช่นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ คอร์ทานา หรือเทคโนโลยีปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนม่านตา วินโดวส์ เฮลโล ทั้งหมดนี้ทำให้วินโดวส์ 10 กลายเป็นวินโดวส์รุ่นที่มีฐานผู้ใช้งานเติบโตรวดเร็วที่สุด ด้วยยอดรวมในขณะนี้กว่า 270 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งเร็วกว่าวินโดวส์ 7 ถึง 145% นอกจากนี้ ลูกค้าทั่วโลกยังใช้เวลาอยู่กับวินโดวส์ 10 รวมกันแล้วถึง 75,000 ล้านชั่วโมง จากฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ผู้พัฒนาแอพชื่อดังจำนวนมากจึงหันมาสร้างแอพวินโดวส์ที่ใช้งานได้ทั้งบนพีซีและสมาร์ทโฟนวินโดวส์ 10 ไม่ว่าจะเป็น Twitter, Uber, King, Disney, Wargaming, Square Enix, Yahoo หรือ WWE ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ใช้วินโดวส์ 10 ก็จะได้พบกับแอพใหม่อย่าง Bank of America, Starbucks, Facebook, Messenger และ Instagram เป็นต้น ส่วนหน้าร้านวินโดวส์ สโตร์ ก็มีโอกาสได้ต้อนรับแฟนๆ วินโดวส์แล้วกว่า 5 พันล้านครั้ง โดยภายในร้าน มีแอพที่ทำงานผสานกับผู้ช่วยส่วนตัว Cortana เกือบพันแอพด้วยกัน

ในงาน Build ครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้เผยถึงก้าวต่อไปในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้ด้วยการประกาศ Anniversary Update สำหรับวินโดวส์ 10 ซึ่งอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วินโดวส์ อิงค์ คอร์ทานา วินโดวส์ เฮลโล หรือนวัตกรรมเพื่อการเล่นเกม สำหรับฟีเจอร์ วินโดวส์ อิงค์ จะเปิดโอกาสให้คุณได้ใช้ดีไวซ์วินโดวส์ราวกับเป็นแผ่นกระดาษ สามารถเขียนโน้ตแปะบนหน้าจอ วาดภาพบนกระดานไวท์บอร์ด และแบ่งปันสิ่งต่างๆ จากปลายปากกาคุณให้โลกได้รู้อย่างง่ายดาย ส่วนฟังก์ชันใหม่จากคอร์ทานาจะทำให้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะของวินโดวส์สามารถให้คำแนะนำคุณได้ตลอดวัน ทั้งยังพูดคุยโต้ตอบกับคุณได้ แม้ขณะที่ตัวเครื่องยัง
ล็อกอยู่[1] ส่วนวินโดวส์ เฮลโล ระบบปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนม่านตา ก็ได้รับการพัฒนาให้รองรับดีไวซ์หลายเครื่อง รวมถึงเว็บบราวเซอร์ ไมโครซอฟท์ เอดจ์ อีกด้วย เพื่อให้คุณล็อกอินเข้าใช้งานดีไวซ์และบริการต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ Anniversary Update ของวินโดวส์ 10 จะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในช่วงฤดูร้อนนี้

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเริ่มต้นส่งมอบอุปกรณ์โฮโลเลนส์รุ่นสำหรับนักพัฒนาให้กับผู้สนใจ เพื่อเปิดโลกเทคโนโลยีโฮโลแกรมบนแพลตฟอร์มวินโดวส์ และเปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้สร้างสรรค์แอพแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว พร้อมยังบอกเล่าถึงเรื่องราวการใช้งานโฮโลเลนส์ที่น่าสนใจในกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งมหาวิทยาลัย เคส เวสเทิร์น รีเสิร์ฟ และองค์การนาซ่า ทั้งนี้ นักพัฒนาแอพสามารถใช้ Universal Windows Platform เพื่อสร้างสรรค์แอพที่ผสมผสานโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกเสมือนจริงได้ด้วยเทคโนโลยีโฮโลแกรม

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาวินโดวส์ให้เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง พร้อมรองรับนวัตกรรมจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จากทั่วโลก และในวันนี้ ไมโครซอฟท์ยังคงยืนหยัดภายใต้จุดมุ่งหมายเดิมด้วยการยกระดับ Universal Windows Platform ให้เปิดกว้างเทียบเท่ากับวินโดวส์ทุกรุ่นในอดีต และครบครันด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่เหมาะสมกับตลาดแอพพลิเคชันในยุคนี้ แอพบน Universal Windows Platform ในอนาคตจะสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันการประมวลผลข้อมูลขั้นสูงของคอร์ทานา และชุดเครื่องมือพัฒนาแอพล่าสุดสำหรับวินโดวส์ 10 Anniversary Update ที่ช่วยให้แอพสามารถนำฟังก์ชันล่าสุดของวินโดวส์ 10 มาใช้งานได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นวินโดวส์ อิงค์ หรือวินโดวส์ เฮลโล

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่อีกมากมายเพื่อสนับสนุนให้นักพัฒนาสามารถเปลี่ยนแอพที่มีอยู่ให้กลายเป็นแอพวินโดวส์ 10 ได้อย่างง่ายดาย ดังนี้
· เว็บแอพจาก American Express, BBC Sport, Yahoo Mail, zulily และอื่นๆ อีกมากมาย ได้นำเทคโนโลยี Hosted Web Apps ของวินโดวส์ 10 มาใช้งานอย่างคุ้มค่า และเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จนี้ ไมโครซอฟท์จึงได้ขยายศักยภาพให้วินโดวส์ 10 รองรับสคริปต์ Bash อย่างเต็มรูปแบบ ให้คุณใช้งานระบบไฟล์ของวินโดวส์ร่วมกับคำสั่งแบบ command line จากโลกโอเพนซอร์สได้เต็มที่

· Project Centennial เครื่องมือแปลงแอพที่จะช่วยให้ผู้พัฒนาแอพ Win32 และ .NET สามารถแปลงแอพเดสก์ท็อปทั่วไปกว่า 16 ล้านแอพให้กลายเป็นแอพบน Universal Windows Platform ที่พร้อมให้ดาวน์โหลดผ่านทางหน้าร้าน วินโดวส์ สโตร์

· ชุดเครื่องมือจาก Xamarin จะช่วยให้นักพัฒนา .NET สามารถใช้โค้ดร่วมกันได้มากขึ้นในการพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์มวินโดวส์ ไอโอเอส และแอนดรอยด์ โดยที่แอพยังสามารถมอบประสบการณ์ที่เข้ากับทั้งสามระบบปฏิบัติการได้อย่างกลมกลืน ไร้รอยต่อ

ท่านที่ต้องการสัมผัสกับนวัตกรรมล่าสุดใน Anniversary Update ของวินโดวส์ 10 สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ วินโดวส์ อินไซเดอร์ ได้แล้ววันนี้ ส่วนนักพัฒนาที่เป็นสมาชิกโครงการดังกล่าวก็สามารถนำชุดเครื่องมือ Windows Anniversary SDK รุ่นพรีวิวไปทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ได้ก่อนใคร