“เอไอเอส” จับมือ “Bridge Alliance” ประกาศความเป็นพันธมิตรกับ “GMA”เปิดแสดงนวัตกรรมใหม่ เป็นครั้งแรกของโลก รองรับการเติบโตของตลาด M2M และ IoTในงาน Mobile World Congress 2016 ที่บาร์เซโลน่า
เอไอเอสตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลของประเทศ เดินหน้ายกระดับการบริการสู่ตลาดโลก ด้วยการร่วมมือกับ Bridge Alliance เครือข่ายพันธมิตรผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิกรวมถึงตะวันออกกลางและแอฟริกา ซึ่งเอไอเอสเป็นสมาชิกอยู่ ประกาศความร่วมมือกับ Global M2M Association (GMA) เครือข่ายพันธมิตรกลุ่มเครือข่ายโทรศัพพ์มือถือผู้ให้บริการ M2M (Machine to Machine) และ IoT (Internet of Things) ชั้นนำระดับโลกในยุโรปและอเมริกาเหนือรวมถึงแอฟริกาและเอเซีย ซึ่งมีโอเปอร์เรเตอร์ชั้นนำรวมกว่า 77 ประเทศทั่วโลก ผนึกกำลังกันพัฒนาแพลทฟอร์ม Multi-Domestic Service รวมถึง Embedded SIM ที่เป็นมาตรฐานสากลในการบริหารจัดการซิมการ์ดข้ามเครือข่ายระหว่างประเทศด้วยระบบเดียวกันที่ใช้งานได้ถึง 77 ประเทศรวมกัน ได้เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งถือเป็นความร่วมมือด้านเทคโนโลยีครั้งสำคัญระดับโลก อันจะพลิกโฉมรูปแบบและกระบวนการพัฒนาธุรกิจการให้บริการ M2M และ IoT ของโลกไปจากเดิม โดยเป็นการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อขยายขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยี ทลายข้อจำกัดเดิม มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รองรับการขยายตัวของธุรกิจ M2M และ IoT ได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยความร่วมมือดังกล่าว ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์, บริษัทองค์กร, โอเปอร์เรเตอร์ รวมถึงผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง สามารถพัฒนาระบบ เพื่อให้บริการ M2M และ IoT ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงลดต้นทุนในการให้บริการอีกด้วย อันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ให้กับธุรกิจระหว่างประเทศในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจการแพทย์, ธุรกิจเครื่องไฟฟ้าภายในบ้าน, ธุรกิจขนส่ง, ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ ทั้งนี้ จะมีการแสดงการทดสอบให้บริการดังกล่าวในงาน Mobile World Congress 2016 ที่บาร์เซโลน่าในระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
โดยนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสในฐานะของผู้นำการให้บริการเครือข่ายและดิจิทัลของประเทศ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระดับโลกในครั้งนี้ ช่วยยกระดับศักยภาพของประเทศไทยสู่ตลาดโลก ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มบริการ Multi-Domestic Service รวมถึง eUICC SIM/ Embedded SIM ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มทีมีขีดความสามาถและความปลอดภัยสูงระดับมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกยอมรับ ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถร่วมทำธุรกิจ ระหว่างประเทศและแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างทัดเทียมในตลาด M2M และ IoT เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ ทำให้ Ecosystem ของการให้บริการ M2M และ IoT ของเอไอเอสแข็งแกร่งขึ้นด้วย ส่งผลให้สามารถนำเสนอบริการที่ดีกว่า และคุ้มค่ามากยิ่งกว่าให้กับลูกค้าของเรา ที่มีธุรกิจและการดำเนินงานในหลายประเทศ ให้สามาถบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์หรือสินค้าที่ต้องการการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต”