หลังจากที่คสช. ได้อนุมัติงบประมาณ 20,000 ล้านให้ ICT ดำเนินการโครงการอินเตอร์เน็ตในประเทศ ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาให้กระแสข่าวว่าเป็นงบประมาณในการทำ Single Gateway ที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยจำนวนมากคัดค้าน ซึ่งล่าสุดทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ได้ออกมายืนยันงบประมาณที่ครม.อนุมัติ 20,000 ล้านบาท เป็นงบในการดำเนินโครงการอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ และเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่โครงการ Single Gateway พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้เสนอให้ สตช. ใช้ Single Gateway แก้ปัญหาเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง แฮกเกอร์ต่างๆ เนื่องจากมีกฎหมายและแนวทางอื่นๆ ที่ใช้แก้ไขอยู่แล้ว
โดยโครงการดังกล่าว จะดำเนินการออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกในปี 2559 นี้ จะเป็นการดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่วนเฟสสอง ในปี 2560 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ ใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยมีทั้งหมดราว 70,000 กว่าหมู่บ้าน ในจำนวนนี้มีหมู่บ้านที่สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตแล้วเพียงร้อยละ 53 ที่เป็นการลงทุนโครงข่ายอินเทอร์เน็ตโดยบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ แต่ที่เหลืออีกร้อยละ 47 หรือราว 30,000 กว่าหมู่บ้านนั้นยังไม่สามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตได้ เนื่องจากบริษัทเอกชน มองว่า ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตมีจำนวนน้อย ทำให้การวางโครงข่ายอาจจะไม่คุ้มค่าการลงทุน
ขณะที่รัฐบาล มองว่า ในทุกพื้นที่ของประเทศไทยมีความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตได้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องลงทุนในส่วนนี้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสให้ประชาชนทั้งประเทศสามารถเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ต โลกดิจิตอลในวันข้างหน้าได้
ที่มา – voicetv
http://www.flashfly.net/wp/?p=136737