ซัมซุงแถลงวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของบริษัทเพื่อแสดงความเป็นผู้นำด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี “อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือไอโอที (Internet of Things – IoT)” ด้วยนวัตกรรมล่าสุดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทดีไวซ์ อุปกรณ์เสริม หรือแพล็ตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นจากรากฐานของ IoT ที่ตอนนี้ซัมซุงสามารถ “ประสานเข้ากับชีวิตจริง (In Sync With Real Life)” ได้สำเร็จ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และสังคมทั่วโลก
ดร. วอน พโย ฮอง ประธานบริษัทซัมซุง เอสดีเอสและหัวหน้าฝ่ายโซลูชันสำหรับองค์กรธุรกิจ ใช้พื้นที่บนมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็คทรอนิคส์สำหรับผู้บริโภคระดับนานาชาติประจำปี 2016 (CES 2016) ณ ลาสเวกัส กล่าวแถลงเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของซัมซุงว่า “เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เสริม แพล็ตฟอร์ม และโซลูชันเพื่อความปลอดภัยของซัมซุงที่รองรับเทคโนโลยี IoT นั้นเป็นเหมือนส่วนผสมสำคัญที่นำความอัจฉริยะมาสู่ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกคนได้มากกว่าที่เคย และด้วยการทำงานร่วมกับระบบนิเวศของสมาร์ทธิงส์ (SmartThings) จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ของซัมซุง ทั้งสมาร์ทดีไวซ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับเทคโนโลยี IoT เพื่อเติมเต็มแนวคิดสมาร์ทโฮมหรือบ้านอัจฉริยะนั้น เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ซัมซุง เอสยูเอชดีทีวี (SUHD TV) รุ่นปี 2016 ที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้านที่มีคุณสมบัติรองรับ IoT ได้ รวมทั้ง ตู้เย็นรุ่นแฟมิลี่ฮับ (Family Hub) ที่มีหน้าจอแอลอีดีขนาด 21.5 นิ้วบนประตูหน้า ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถบริหารจัดการอาหารต่างๆ แบ่งปันข้อมูลหรือภาพถ่ายระหว่างสมาชิกในครอบครัว และกล้องในตู้เย็นที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบว่ามีอาหารใดอยู่ในตู้เย็นบ้างได้จากสมาร์ทโฟนอีกด้วย”
นอกจากนี้ ดร.ฮองยังได้นำเสนออุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงรุ่นใหม่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ความจุสูงที่มีขนาดบางมากและยืดหยุ่นได้ และหน่วยประมวลผลไบโอโพรเซสเซอร์ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับใช้งานด้านสุขภาพ
เปิดกว้างมากขึ้น ควบคุมได้จากอุปกรณ์อื่นได้ และทำงานประสานกันได้
ดร. ฮองเผยว่า “กลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี IoT ของซัมซุง คือ การเปิดกว้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอุปกรณ์จากแบรนด์อื่นได้ และมุ่งสร้างความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้คือรากฐานที่จะช่วยให้เทคโนโลยี IoT เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและใช้งานในวงกว้าง”
“การเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับเทคโนโลยี IoT เข้าด้วยกันเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่สามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับ ณ ขณะนี้ ซัมซุงกำลังเสริมสร้างความร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่ม Open Interconnect Consortium (OIC) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่พัฒนามาตรฐานกลางสำหรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี IoT ในชื่อ IoTivity”
ซัมซุงมีความเชื่อมั่นในแนวคิดของการพัฒนาสิ่งต่างๆ โดยเปิดให้บุคคลภายนอกร่วมพัฒนาได้ (Open Partnership approach) ภายใต้แนวคิดนี้ ซัมซุงได้นำเสนอส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์สำหรับการใช้งานบนคลาวด์ในชื่อ Samsung Smart Home Cloud API เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามรถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ใดๆ ของซัมซุงที่รองรับเทคโนโลยี IoT กับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้ผลิตอื่นๆ ที่รองรับเทคโนโลยี IoT เช่นกัน
ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด
เทคโนโลยี IoT เป็นเทคโนโลยีที่สร้างข้อมูลขึ้นมาเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ให้อย่างปลอดภัยมากที่สุด โดยซัมซุงได้พัฒนาโซลูชันความปลอดภัยสำหรับสมาร์ททีวี ซึ่งต่อยอดการพัฒนามาจากซัมซุง นอกซ์ (Samsung KNOX) อันเป็นแพล็ตฟอร์มเพื่อความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์พกพา ซึ่งโซลูชันนี้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในระดับสูง และจะติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงแอพลิเคชันต่างๆ โดยจะเริ่มติดตั้งโซลูชันบนสมาร์ททีวีรุ่นที่จะวางจำหน่ายในปีนี้เป็นต้นไป
สร้างความร่วมมือเพื่อสร้างเสริมศักยภาพของเทคโนโลยี IoT
ความร่วมมือจากองค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ส่งเสริมให้แนวคิด IoT เป็นแนวคิดที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดย ดร.ฮองและตัวแทนผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำ อันได้แก่ Microsoft, Goldman Sachs, BMW, เครือโรงแรม Ascott, ผู้ผลิตวัสดุชั้นนำ Corning และ Samsung SDI ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงาน ได้ร่วมกันแสดงให้เห็นว่าแพล็ตฟอร์มและอุปกรณ์ของซัมซุงสามารถช่วยให้ชีวิตการทำงานหรือการอยู่อาศัยในบ้านสะดวกสบายขึ้น
ซัมซุงพร้อมจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอัจฉริยะมากมายสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แพล็ตฟอร์ม และการบริการที่หลากหลาย นับตั้งแต่สมาร์ทโมบิลิตี้ (Smart Mobility) และซัมซุงเพย์ ตลอดจน โซลูชันเพื่อสุขภาพที่ใช้หน่วยประมวลผลไบโอโพรเซสเซอร์เป็นอุปกรณ์หลัก รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะหรือประเทศที่มีความก้าวล้ำ หรือยกระดับกระบวนการผลิต ผลผลิต กระบวนการจัดจำหน่าย และการบำรุงรักษาขององค์กรธุรกิจต่างๆ ได้ ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีโซลูชันของ
ซัมซุงเอสดีเอส
“การเพิ่มมูลค่าให้กับเทคโนโลยี IoT จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ หรือแม้แต่สังคมโดยรวม เมื่อทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน เทคโนโลยี IoT จะกลายเทคโนโลยีที่สอดประสานเข้ากับชีวิตจริงของเราทุกคน” ดร. ฮองสรุป