ทรูมูฟ เอช เปิดตัวแพ็กเกจเสริมใหม่ล่าสุด Smart Combo แพ็กเกจที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปและสโลแกนที่ว่า “ให้เยอะจุใจ… สลับได้ทั้งโทรและเน็ต” ซึ่งจากคอนเซ็ปที่ได้เห็นกันไปนี้ ก็น่าจะเดาออกได้ว่า เป็นแพ็กเกจที่ยืดหยุ่นเอาใจทั้งคนชอบโทรและคนชอบเล่นเน็ต ที่อยากสลับค่าใช้จ่ายไปมาได้ด้วยตัวเองนั่นเอง ลองมาเริ่มทำความรู้จักกับแพ็กเกจเสริมใหม่ที่ว่านี้กันเลยดีกว่าว่าจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
Smart Combo มาพร้อมกับจุดเด่นของแพ็กเกจที่แตกต่างไปจากแพ็กเกจเสริมอื่นๆ ตรงที่เป็นแพ็กเกจที่ลูกค้าสามารถเลือกสลับค่าโทรและค่าเน็ต เปลี่ยนแปลงไปมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในที่หลายคนอาจเคยเจอนั่นก็คือ การซื้อแพ็กเกจเสริมมาแล้ว แต่ว่าในแต่ละเดือนก็มีปริมาณการใช้ค่าโทรและค่าเน็ตที่ต่างกัน บางเดือนอาจจะโทรเยอะแต่เล่นเน็ตน้อย บางเดือนอาจจะโทรน้อยแต่ได้ใช้เล่นเน็ตมากกว่า ทำให้แพ็กเกจที่เคยซื้อมาไม่พอใช้งาน หรือบางครั้งอาจจะมีโควต้าเหลือในบางส่วนแต่ก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ น่าเสียดายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้ ทรูมูฟ เอช จึงได้ทำการเปิดตัวแพ็เกจเสริมใหม่ล่าสุดนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยทำให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ทั้งโทร ทั้งเน็ตตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเดือนได้ด้วยตัวเอง
โดยตัวรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในแพ็กเกจนี้ มีมาให้เลือก 4 ราคาด้วยกัน ตั้งแต่ขั้นต่ำ Smart Combo 199 ซึ่งจ่ายค่าบริการ 199 บาทจะได้รับเน็ต 4G/3G 750MB และค่าโทรทุกเครือข่าย 50 นาที ไปจนถึง Smart Combo 799 กับการจ่ายค่าบริการ 799 บาท และได้รับเน็ต 4G/3G 10GB พร้อมค่าโทรทุกเครือข่าย 300 นาที ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายไปในแต่ละกลุ่มลูกค้า อย่างใครที่อาจจะมีงบน้อยหน่อยแต่อยากได้แพ็กเกจเสริมทั้งค่าเน็ตค่าโทรแบบยืดหยุ่น ก็เลือก Smart Combo 199 กันได้เพราะจ่ายแบบสบายกระเป๋าเพียง 199 บาท หรือใครที่อยากจะได้ใช้งานเน็ตแบบเยอะจุใจก็เลือกแพ็กเกจ Smart Combo 799 คราวนี้จะได้ใช้เน็จแบบเยอะจุใจถึง 10GB อย่างแน่นอน ทั้งนี้แพ็กเกจ Smart Combo มีข้อกำหนดในการใช้งานเบื้องต้นคือ เป็นแพ็กเกจที่จะมีอายุการใช้งานทั้งหมด 30 วัน มีการต่ออายุให้แบบอัตโนมัติ ใครที่สนใจสามารถกดหมายเลขตามหมายเลขด้านบนเพื่อเป็นการสมัครแพ็กเกจกันได้เลย
หลังจากขั้นตอนของการสมัครแพ็กเกจเรียบร้อยแล้ว มาถึงวิธีการสลับสับเปลี่ยนระหว่างค่าโทรกับค่าเน็ตกันบ้าง ซึ่งลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง แต่ก่อนอื่นหากต้องการตรวจสอบการใช้งานค่าเน็ต ค่าโทรในแพ็กเกจที่ได้สมัครไว้ ก็สามารถทำการตรวจสอบด้วยการกด *924*1*2# แล้วโทรออก ซึ่งจะทำให้รู้ถึงปริมาณการใช้งานที่เหลือ ทั้งในส่วนของค่าโทรและค่าเน็ต หลังจากนั้นหากต้องการสลับระหว่างค่าโทรกับค่าเน็ต ก็สามารถเลือกได้ตามปริมาณที่ปรากฎในตารางด้านบน พร้อมเลือกกดตามหมายเลขที่ปรากฎ โดยจะเห็นได้ว่า ปริมาณของค่าโทรเมื่อนำไปสลับเป็นค่าเน็ตนั้น จะอยู่ที่อัตราการแลกเปลี่ยน ค่าโทร 1 นาที สลับเป็นค่าเน็ตได้ 4 MB ในขณะที่ค่าเน็ต 4 MB จะสามารถสลับไปเป็นค่าโทรได้ 1 นาทีเช่นกัน
โดยสรุปแล้วแพ็กเกจเสริม Smart Combo นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ตรงกับความต้องการสลับสับเปลี่ยนการใช้งานของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่อยากได้แพ็กเกจเสริมแต่ตัดสินใจยากว่าจะเอาค่าเน็ตหรือค่าโทรจำนวนเท่าไหร่มากน้อยแค่ไหนเพราะในแต่ละเดือนอาจมีการใช้งานในปริมาณที่แตกต่างกันไปนั่นเอง อย่างไรก็ตามก่อนการตัดสินใจการสมัครแพ็กเกจใดๆ ควรทำการทำความเข้าใจกับเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละแพ็กเกจให้เข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อป้องกันความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนที่จะเกิดขึ้นได้นั่นเอง
ดูรายละเอียด ข้อกำหนดและเงื่อนไขแพ็กเกจเสริม Smart Combo สำหรับลูกค้าเติมเงิน ได้ที่นี่ http://truemoveh.truecorp.co.th/campaign/entry/6520
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทาง ทรูมูฟ เอช แคร์โทร 1331 หรือ ทาง http://www.truemove-h.com
บทความโดย – www.flashfly.net