ถึงตลาดสินค้าไอทีช่วงนี้จะเงียบเหงาตามสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ไม่มีอะไรหยุดยั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากแบรนด์ชั้นนำ การแข่งขันยังคงร้อนแรงเช่นเคย โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนระดับกลาง – บน งัดทุกอย่างออกมาสู้กันทั้งคุณสมบัติสเปค ออฟชั่นเสริมต่างๆ อย่างกล้องหน้า Selfie สุดคมชัด หรือจะเป็นหน้าจอ (เกือบ)ไร้ขอบ ฯลฯ สามารถหาซื้อมาเป็นเจ้าของด้วยราคาสบายกระเป๋ากว่าเดิม พร้อมโปรโมชั่นต่างๆ อย่างเช่น ผ่อน 0%, ลดค่าเครื่องเมื่อสมัครแพคเกจ, ส่วนลดจากการสั่งซื้อออนไลน์ ฯลฯ ทำให้การตัดสินใจซื้อทำได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว
สำหรับช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ กลับมาพบกันอีกรอบกับมหกรรม Thailand Mobile Expo 2015 รอบส่งท้ายปี ตั้งแต่วันที่ 1-4 ตุลาคม 2558 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งวดนี้มือถือรุ่นใหม่ อุปกรณ์เสริมไฮเทค จัดเต็มเหมือนเดิม เช่นเดียวกับอุปกรณ์ Wearable เอาใจคนรักสุขภาพ รอบนี้น่าจะมาครบเครื่องสุดๆ จากกระแสการปั่นจักรยาน – วิ่งที่มาแรงมากช่วงนี้ นอกจากนี้ยังมีโซน Mobile Game สำหรับคนเล่นเกมออนไลน์บนสมาร์ทโฟน ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยกับสมาร์ทโฟน – แท็บเล็ต 83 รุ่นที่น่าสนใจประจำงานนี้มีอะไรบ้าง ? ลองทำการบ้านก่อนตัดสินใจได้
Samsung
Galaxy J1
น้องเล็กสุดของกลุ่ม Samsung Galaxy ราคาประหยัด ‘Galaxy J1’ งบน้อยเพียง 3,xxx บาท ก็เป็นเจ้าของได้ สเปคหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ชิพประมวลผล Dual-Core 1.2 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Play Store ใช้งานฟังก์ชั่นพื้นฐานต่างๆ ได้ครบเครื่อง ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล แถมรองรับ 2 ซิมการ์ด / 3G ทุกเครือข่าย คุ้มค่าในระดับนึงทีเดียว
Galaxy J5
ตอนนี้รู้สึกว่าจะไม่มีซีรี่ส์ E แล้ว เนื่องจากนำซีรี่ส์ J มาทดแทน เลยมีรุ่นที่น่าสนใจในราคาระดับ 7 พันบาท นั่นก็คือ ‘Galaxy J5’ รูปทรงเรียบๆ มาพร้อมกับหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลคมชัดกำลังดี ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 1.5 GB เร็วแรงตามมาตรฐาน รันบน Android 5.1.1 เวอร์ชั่นใหม่ ทำงานลื่นไหลครับ ถ่ายภาพผ่านกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า Selfie ความละเอียด 5 เมกะพิกเซล เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบมือถือเครื่องเล็ก จอสวย พกพาสะดวก ราคาเพียง 7,xxx บาทครับ
Galaxy J7
ตระกูลเดียวกับ Galaxy J5 แต่มอบสเปคที่สูงขึ้นกว่าเดิม เพียงเพิ่มเงินอีก 1,000 บาทเท่านั้นกับ ‘Galaxy J7’ หน้าจอ Super-AMOLED ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว แสดงผลสะใจยิ่งขึ้น เหมาะกับใช้งานด้านมัลติมีเดีย รองรับ 4G LTE + ใช้งาน 2 ซิมการ์ดในตัว ชิพประมวลผล Octa-Core (Exynos 7580) แรงกว่า Galaxy J5 พอตัวเลย รันบน Android 5.1.1 ติดกล้องละเอียด 13 เมกะพิกเซล + กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล เท่ากัน ส่วนแบตเพิ่มขึ้นเป็น 2950 mAh จ่ายเพิ่มอีกนิดได้คุ้มกว่าจริงๆ
Galaxy A7
เปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปี แต่สเปคอะไรยังคงดีงามถึงตอนนี้กับ Samsung Galaxy A7 เด่นตรงตัวเครื่องบางเฉียบ วัสดุโลหะอลูมิเนียม บางเบาแต่ทนทาน หน้าจอคมชัด Super-AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว (1920 x 1080 พิกเซล) ตอบโจทย์การใช้งานทุก Task ด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 615, RAM 2GB รันบน Android 5.0.2 ด้านกล้องมีมาให้ 13 เมกะพิกเซล + กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล และแบตเตอรี่ 2,600 mAh รองรับ 4G LTE ด้วย พบกับราคาโดนในได้ภายในงานครับ
Galaxy A8
เป็นภาคต่อของ Galaxy A7 เน้นความบางเฉียบยิ่งกว่าเดิม ‘Galaxy A8’ มาพร้อมกับบอดี้โลหะบางเพียง 5.9 มิลลิเมตร ! บางที่สุดเท่าที่ Samsung เคยทำมา หน้าจอ Super-AMOLED ขนาดใหญ่ 5.7 นิ้วแบบ Edge-to-Edge แสดงผลเต็มตา และทำให้จขนาดบอดี้ไม่ใหญ่จนเกินไปอีกด้วย ขณะที่สเปคภายในจัดว่าโอเคทีเดียว ชิพประมวลผล Exynos 5430 (Octa-core) + RAM 2 GB รันบน Android 5.1.1 ทำงานรวดเร็วกำลังดีครับ กล้องอัพเกรดเป็น 16 เมกะพิกเซล ถ่ายภาพดีกว่า Galaxy A7 เล็กน้อย แบตเตอรี่ 3,000 mAh ยอมรับเลยว่าอึดขึ้น สนนค่าตัวเพียง 15,xxx บาท
Galaxy S6 | S6 Edge
พลาดไม่ได้จริงๆ กับเรือธงประจำต้นปี 2015 กับ ‘Galaxy S6’ ดีไซน์สวยหรู คุณสมบัติสเปคแรงเร็วสะใจ ชิพประมวลผล Exynos 7420 + RAM 3 GB ใช้งานทุก Task ไม่มีสะดุด รองรับคอนเทนท์ระดับ 4K เต็มรูปแบบ หน้าจอ Super-AMOLED 5.2 นิ้ว (2560 x 1440) แสดงผลดีที่สุด ทั้งสีสัน ความคมชัด ความสว่าง, เมโมรี่ภายใน 32-64 GB บนเทคโนโลยีใหม่ (UFS 2.0) เร็วเทียบชั้น SSD บนคอมพิวเตอร์ กล้องความละเอียด 16 เมกะพิกเซล มีระบบ OIS ป้องกันสั่นไหว และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย (Wireless Charging)
นอกจากนี้ Galaxy S6 ยังมีรุ่นหน้าจอโค้งด้วยกับ Galaxy S6 Edge เทคโนโลยีหน้าจอโค้งสุดล้ำ แสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ แถมรูปลักษณ์ยังสวยงาม หรูหรา โดยเฉพาะสีทอง (Gold Platinum) แบบว่าเหมือนมือถือราคาแพงเลยล่ะ สำหรับ 2 โมเดลนี้มีโปรโมชั่นแรงๆ ในงานแน่นอน ติดตามกันได้
Galaxy S6 edge+
เปิดตัวพร้อมกับ Samsung Galaxy Note 5 แต่เรื่องการวางจำหน่ายในบ้านเรายังไร้วี่แวว คาดว่าในงานน่าจะมีให้ลองสัมผัสเครื่องจริงก็เป็นได้ จุดเด่นอยู่ที่หน้าจอขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว สเป็คภายในก็คล้ายกับ S6 edge แต่มี RAM เพิ่มมาให้เป็น 4 GB และอาจจะมาทันวางจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ยังไงรอติดตามรออัพเดตโปรโมชั่นได้เร็วๆ นี้
Galaxy Note 5
เรือธงโมเดลล่าสุดเพิ่งเปิดตัวเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Galaxy Note 5 มอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบเครื่อง ลงตัวด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.7 นิ้วแบบ Edge-to-Edge ขนาดบอดี้เล็ก-บางกว่า Galaxy Note 4 อย่างเห็นได้ชัด พร้อมปากกา S Pen รูปแบบใหม่ จับถนัดมือแถมมีสปริงกดไม่ให้หลุดจากเครื่องง่าย ใช้งานผ่าน S Note หรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่รองรับ ด้านสเปคภายในคล้าย Galaxy S6 ครับ ชิพประมวลผล Exynos 7420 เหมือนกัน แต่ RAM เพิ่มเป็น 4 GB ทำงานลื่นไหลสุดๆ ขณะที่แบตเตอรี่ 3,000 mAh แม้จะดูว่าน้อยแต่อึดกว่า Galaxy Note 4 อยู่เหมือนกัน ด้านกล้องจัดมาให้ 16 เมกะพิกเซลเท่า Galaxy S6 แต่ปรับโหมดอะไรได้มากกว่า รุ่นนี้มีให้เลือก 2 ความจุคือ 32/64 GB สนนราคา 25,900-29,900 บาทครับ
Galaxy Tab A 8.0 & 9.7
มาชมฝั่งแท็บเล็ตกันบ้าง ตอนนี้ Samsung มีซีรี่ส์ Galaxy Tab A ในระดับกลางซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอแบบ 4:3 กว้างเป็นพิเศษ เหมาะกับใช้อ่านไฟล์เอกสาร อ่านหน้าเว็บไซต์ ใช้งานแอพพลิคชั่นต่างๆ มี 2 ไซส์หน้าจอให้เลือกคือ 8.0 และ 9.7 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 768 เท่ากัน) รองรับการ Input ด้วยปากกา S Pen เช่นเดียวกับกลุ่ม Galaxy Note ทำให้สามารถจดบันทึกได้เหมือนกับพกพาสมุดติดตัวไปด้วย รันบน Android 5.1.1 ทำงานรวดเร็วดี ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 2 GB ถ่ายภาพผ่านกล้อง 5 เมกะพิกเซล แบตเตอรี่ 4,200 mAh และรองรับ 4G LTE ใส่ซิมการ์ด – โทรออกได้ตามสไตล์ Galaxy Tab
Galaxy Tab S2 8.0 & 9.7
ไม่นานมานี้ Samsung ได้เปิดตัว Galaxy Tab S2 เป็นรุ่นเรือธงของ Tablet ตระกูล Galaxy Tab ล่าสุด มีให้เลือก 2 ไซส์หน้าจอเหมือน Tab A (8.0, 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล) จะเลือกตัวไหนขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ ด้านสเปคเหมือนกันทั้ง 2 รุ่นคือ ชิพประมวลผล Exynos 7420 + RAM 3 GB เทียบเท่า Galaxy S6 พร้อมเมโมรี่ภายใน 32 GB แถมเพิ่ม microSD ภายนอกได้อีก รันบน Android 5.1.1 ใช้งานคล้ายกับ Galaxy Tab S 8.4 รุ่นเดิม ด้านกล้องใส่มาให้ที่ 8 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD ได้ สำหรับราคาทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถเป็นเจ้าของที่ 15,xxx บาท และ 18,xxx บาทตามลำดับ มาลองลุ้นกันว่าจะมีแถมเคส Book Cover ของแท้ให้ภายในงานหรือไม่ ?
Gear S2
เชื่อเถอะว่าหลายคนต้องรอสิ่งนี้แน่นอน ‘Gear S2’ พลิกโฉมวงการด้วยนาฬิกา Smartwatch ทรงกลมดีไซน์หรู บอดี้โลหะบางเบาไม่หนาเทอะทะ หน้าจอ AMOLED แสดงผลคมชัด ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS บน Circular UX ทำงานรวดเร็ว ใช้งานง่าย ทันสมัย รองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน Android ทุกแบรนด์ (Android 4.4 + RAM อย่างน้อย 1.5 GB) มีเซ็นเซอร์วัดการเต้นหัวใจ / วัดการวิ่ง – เดิน – ปั่น ครบวงจร พร้อมใช้งานร่วมกับ S Health หรือ Samsung Pay หากใช้ร่วมกับ Samsung ที่รองรับ และสุดท้าย .. สามารถเปลี่ยนสาย (Strap) ได้หลากหลายลวดลาย ที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลกก็มี อูยยย อยากลองแล้วใช่มั้ย เรียกได้ว่างานนี้จะได้สัมผัสตัวจริงในไทยที่ Thailand Mobile Expo 2015 เป็นที่แรก
Microsoft
Lumia 435
สัมผัสวินโดว์โฟนราคาประหยัดกับ Microsoft Lumia 435 ราคาเบาๆ เพียง 2 พันกว่าบาท แต่ครบเครื่องทุกฟีเจอร์พื้นฐานของ Windows Phone 8.1 ทั้งบริการเสริมจาก Microsoft การรองรับ 3G ลงแอพพลิเคชั่นเสริมหลากหลายผ่าน Store ประสิทธิภาพสมราคา ชิพประมวลผล Dual-Core 1.2 GHz ติดกล้องความละเอียด 2 เมกะพิกเซล หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ขนาดตัวเครื่องเล็กพกพาง่าย พร้อมสีสันบอดี้เจ็บๆ ลองหาซื้อมาใช้งานได้ครับ
Lumia 532
รุ่นนี้คล้ายคลึงกับ Lumia 435 ครับเพราะหน้าจอเท่ากันคือ 4.0 นิ้ว แต่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการประมวลผลสูงกว่าด้วยชิพประมวลผล Quad-Core 1.2GHz เล่นเกม ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ติดกล้องความละเอียดสูงขึ้น 5 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า VGA สีสันตัวเครื่องมีให้เลือกเยอะพอตัว ที่สำคัญคือรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด + 3G ทุกเครือข่าย กับราคาค่าตัวเพียง 3,xxx บาท เป็นอีกหนึ่งวินโดว์โฟนที่น่าสนใจ
Lumia 640 LTE
รุ่นใหม่ขึ้นมาอีกนิด อัพราคาขึ้นมาอีกหน่อย จะพบกับ Lumia 640 LTE วินโดว์โฟนความสามารถระดับกลาง มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ใช้งานสะดวกพอดีมือ ดูหนังเล่นเกมได้เต็มที่ เร็วแรงด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 400 (Quad-core) รองรับการใช้งาน 4G LTE เล่นเน็ต แชทโซเชี่ยลไม่สะดุด ถ่ายภาพผ่านก้อลความละเอียด 8 เมกะพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอ Full HD แบตเตอรี่ 2,500 mAh น่าจะพอสำหรับการใช้งานทั้งวัน ราคาสบายกระเป๋าเพียง 5,xxx บาทเท่านั้นเอง
Lumia 640 XL
ถ้าคิดว่าหน้าจอขนาด 5.0 นิ้วเล็กไป ? Microsoft จัดของใหญ่ให้กับ Lumia 640 XL โดดเด่นด้วยหน้าจอ HD ขนาดใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว แสดงผลคมชัดเต็มตาสุดๆ เล่นเกมสนุก ดูหนัง ชมคลิป เข้าเว็บ ให้ประสบการณ์ดีที่สุด ชิพประมวลผล Snapdragon 400, RAM 1 GB เพียงพอกับการใช้งานบนระบบ WIndows Phone 8.1 เนื่องจากกินทรัพยากรไม่มากนัก ติดกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD แถมแบตเตอรี่ยังอึดพอตัวอีกต่างหาก
Surface 3
แท็บเล็ตวินโดว์ 10 โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกลางปีที่ผ่านมา สำหรับ Surface 3 มีน้ำหนักเบาหวิวเพียง 6 ขีดกว่าๆ บางเบาพกพาใส่กระเป๋าง่ายดาย หน้าจอขนาดใหญ่ 10.1 นิ้วความละเอียด Full HD แสดงผลคมชัด บอดี้มีขาตั้งด้านหลัง แม้จะปรับระดับได้ไม่มากนัก แต่ยังคงสะดวกกับการใช้งานนอกสถานที่ เพียงเชื่อมต่อคีย์บอร์ด (หรือ TypeCover) ก็ทำงานได้แล้ว เร็วแรง ประหยัดแบตด้วยชิพประมวลผล Intel Atom X7 มีให้เลือกทั้ง RAM 2 GB / 4 GB และความจุ 64 GB / 128 GB ตรงนี้ต้องลองติดตามโปรโมชั่นในงานว่าจะมีแถมคีย์บอร์ดให้มั้ย ถ้าแถมนี่คุ้มมากๆ ครับ
Surface Pro 3
รุ่นใหญ่สุดของ Surface แท็บเล็ตวินโดว์ 10 ตัวเต็มปัจจุบัน ถึงจะเปิดตัวมาหลายเดือน แต่สำหรับผู้ใช้ที่ซื้อมาทำงานจริงๆ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการสอย Surface Pro 3 จากอภิมหาโปรโมชั่นซึ่ง Microsoft จัดหนักแน่นอนในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ด้านสเปคมีให้เลือกตั้งแต่ Core i3-i5-i7, RAM 4 GB/8 GB, เมโมรี่ภายใน 64 GB/128 GB เลือกได้ตามงบประมาณ หน้าจอขนาด 12 นิ้ว ความละเอียดเทียบเท่า 2K แสดงผลคมชัดสุดๆ พร้อมขาตั้งปรับระดับได้หลายมุม ภายในเซ็ทจะมีทั้งปากกา Stylus สำหรับวาด-เขียนบนหน้าจอ (คล้าย Galaxy Note) และคีย์บอร์ด TypeCover หวังว่าจะมีแถมมาให้ฟรีๆ สำหรับผู้ซื้อ Surface Pro 3 ภายในงาน
OPPO
Joy 3
รุ่นเล็กสุดของสมาร์ทโฟน OPPO เครื่องเล็กกะทัดรัด หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว พอใช้งานทั่วไปได้ดี แชทโซเชียล ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจาก Play Store ด้านสเปคแรงสมค่าตัวไม่น้อย รองรับ 2 ซิมการ์ด / 3G HSPA+ ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.4.4 ครอบด้วย Color OS 2.0 ลูกเล่นเยอะใช้ได้ ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล ตัวเครื่องบาง 8.95 มิลลิเมตร พกพาไม่ยากครับ
Mirror 5
มาพร้อมกับสโลแกน ‘มุมมองใหม่ ตัวตนใหม่’ กับรุ่นระดับกลางหน้าตาดี OPPO Mirror 5 หน้าจอขนาดพอดีๆ 5.0 นิ้ว ความละเอียดอาจจะน้อยสักหน่อย แต่ภาพรวมยังดูดี ดีไซน์ทรงเหลี่ยม ฝาหลังออกแบบลวดลายคล้ายคริสตัล สวยงามระยิบระยิบทีเดียว โดยเฉพาะบอดี้สีน้ำเงิน ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 1 GB รองรับ 4G LTE + 2 ซิมการ์ด รันบน Android 5.1.1 บอกเลยว่าลื่นมาก ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล ถ่ายเร็ว ลูกเล่นเยอะ ราคาเพียง 7,xxx บาทเท่านั้นเอง
R5
หลังปรับราคาลงมาถึง 5,000 บาท ทำให้ OPPO R5 กลายเป็นดาวเด่นมหาลัยเลย ด้วยดีไซน์บางเฉียบเพียง 4.85 มิลลิเมตร ทำให้เป็นมือถือรุ่นนึงที่บางที่สุดในโลก หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) การแสดงผลคมชัด สีสันสดใส, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB เพียงพอกับการใช้งานแอพพลิเคชั่น เกม มีเดียระดับ FHD สบายๆ ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล ลูกเล่นค่อนข้างเยอะครับ ทั้งนี้ OPPO R5 ไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ ตรงนี้ผมก็เสียดายเหมือนกันนะ แต่ราคาที่ 8,490 บาท เชื่อว่าคงปฏิเสธได้ยากอยู่
Find 7
สำหรับ OPPO Find 7 ปรับราคาลงมาหลายครั้ง จนล่าสุดลงมาอยู่ที่ 12,900 บาทเท่านั้น แน่นอนว่าสเปครุ่นนี้โดดเด่น ทั้งเรื่องหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (QHD) ระบบปฏิบัติการ Android Lollipop และอาจจะมีอัพเดทตามมาเรื่อยๆ ชิพประมวลผล Snapdragon 801 + RAM 3 GB, เพิ่ม microSD ได้ รองรับ 4G LTE และกล้อง 13 เมกะพิกเซล มีระบบชาร์จเเบตเตอรี่ VOOC แป๊บเดียวเต็ม งานนี้ต้องลอง เพราะราคาลงมาเยอะมาก !
R7
จะบอกว่าเป็นรุ่นภาคต่อของ R5 ก็คงใช้ครับ แต่รอบนี้ OPPO ส่งตระกูล R7 Series มาถึง 3 รุ่นดัวยกันคือ R7, R7s และ R7 Plus โดยรุ่น R7 (หรือ R7 Lite) เป็นโมเดลเล็กสุด แต่สเปคไม่ธรรมดา หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ดีไซน์บอดี้บางเฉียบ น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ แถมใช้วัสดุบอดี้โลหะ, รองรับ 4G LTE + 2 ซิมการ์ด ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB แรงเร็วกำลังดีครับ กล้อง 13 เมกะพิกเซล พร้อมระบบ Phase Detection โฟกัสได้แม่นยำยิ่งขึ้น รันบน Android 5.1.1 สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ราคา 10,990 บาท
R7 Plus
ปล่อยออกมาพร้อมกันกับ OPPO R7 Plus ดีไซน์โฉมใหม่ แตกต่างจากทุกรุ่นที่ผ่านมา รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.0 นิ้ว (FHD) กับดีไซน์จอเกือบไร้ขอบ ดูสวยงามดีครับ ใหญ่เต็มตาเหมาะกับเล่นเกม ถ่ายภาพ ดูหนัง เล่นเว็บไซต์ต่างๆ รองรับคอนเทนท์ FHD เต็มรูปแบบ ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 3 GB ทำงานลื่นทันใจบน Android 5.1.1 คอรบด้วย Color OS 2.1 มีลูกเล่นเยอะทั้ง Gesture / Camera ฯลฯ แถมมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านล่างอีกด้วย ติดกล้องหลัก 13 เมกะพิกเซล โฟกัสไว ถ่ายภาพคมชัด และแบตเตอรี่ 4,100 mAh ความจุสูงมากๆ พร้อมระบบชาร์จไว VOOC อะไรจะลงตัวได้ขนาดนี้!
i-mobile
IQ II
ไม่พูดถึงรุ่นนี้เหมือนพลาดอะไรไปอย่างนึงเลย i-mobile IQ II หรือ Android One รุ่นแรกของไทย ดีไซน์เรียบง่ายแต่สวยหรู หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ขนาดพอดีมือ แสดงผลคมชัดใช้ได้, ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 1 GB เมโมรี่ภายใน 16 GB พร้อมกล้อง 8 เมกะพิกเซล สำหรับจุดขายของ Android One คือสามารถอัพเดทระบบปฏิบัติการได้รวดเร็วก่อนใคร อย่างตอนนี้รันบน Android 5.1.1 ก็จะได้ Android 6.0 ในอนาคตด้วย … ลองสอยมาเล่นได้ในราคา 4,xxx บาทครับ
IQ BIG 2
ห่วงเรื่องแบตเตอรี่ใช่มั้ย ? ลองดูรุ่นนี้ครับ IQ BIG 2 จาก i-mobile บางแค่ 8 มิลลิเมตร พกพาสะดวกสุดๆ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) แสดงผลพอใช้ได้, ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 2 GB รันบน Android Lollipop ทำงานได้รวดเร็วกำลังดี รันแอพพิลเคชั่นทั่วไปสบายๆ ติดกล้องความละเอียด 12 เมกะพิกเซล และที่สำคัญคือ แบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh ใช้งานได้เต็มวันแน่นอน พร้อมรองรับ 3G ทุกเครือข่าย + ใช้งาน 2 ซิมการ์ดจ้า
IQ Z
รุ่นนี้ไม่ได้เน้นแบตอึดอลังการ แต่มาพร้อมกับรูปลักษณ์เพรียวบาง สวยหรูด้วยบอดี้กระจกด้านหลัง และขอบโลหะ สำหรับ i-mobile IQ Z ขอบอกว่าดูดีมากในราคาเพียง 6,xxx บาท หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด ทัชลื่นมือ, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB แรงเทียบชั้นมือถือหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว รันบน Android 5.0.2 จัดกล้องหน้ามาให้ 5 เมกะพิกเซล ส่วนกล้องหลัก 18 เมกะพิกเซล ตามสไตล์ i-mobile ทั้งหมดนี้เทียบกับราคาแล้ว … ไม่ธรรมดาจริงๆ
IQ X PRO2
รุ่นนี้น่าจะเป็นโมเดลที่คุณสมบัติสเปคสูงที่สุดของแบรนด์แล้ว กับราคา 9,xxx บาท คุณจะได้หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลเต็มตาสุดๆ กับดีไซน์ทรงเหลี่ยม ทันสมัย ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 3 GB ลื่นสุดยอดเลย เมโมรี่ภายใน 32 GB + เพิ่ม microSD ภายนอกได้อีก ติดกล้องความละเอียด 30 เมกะพิกเซล (เซ็นเซอร์ 20.7 เมกะพิกเซล ของ Sony) พร้อมโหมดถ่ายภาพหลากหลาย แบตเตอรี่ 2,500 mAh แอบน้อยไปนิด และรองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด ก็ยังคุ้มค่าในราคาประมาณนี้ครับ
LG
Leon
น้องเล็กสุดของสมาร์ทโฟน LG เครื่องเล็กกะทัดรัด น่ารักๆ ด้านคุณสมบัติสมราคาครับ หน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว (IPS) แสดงผลค่อนข้างคมชัด แรงเร็วพอตัวด้วยชิพประมวลผล Quad-Core ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ จากบน Play Store ดูหนัง – เล่นเกม HD กราฟฟิคกลางๆ ได้อยู่ ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD ด้านซอฟท์แวร์รันบน Android 5.0 ทำงานรวดเร็ว ค่อนข้างเสถียร โดยราคารุ่นนี้หาซื้อได้ในราคาประมาณ 3,xxx บาทเท่านั้นเอง
Magna
อัพงบขึ้นมาจะมีอีกรุ่นนึงที่สเปคดีกว่าอย่าง LG Magna รุ่นนี้หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว ทำให้การจับถือตัวเครื่องทำได้สะดวก ใช้แอพพลิเคชั่นเสริม ดูวิดีโอ เล่นเกมทั่วไปได้ดี ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz รันบน Android 5.0 บนอินเตอร์เฟส LG ล่าสุด ทำงานลื่นไหลกำลังดี ฟีเจอร์เด่นๆ มาครบทั้ง Knock Code, Gesture Shot ฯลฯ ถ่ายภาพผ่านกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล แบตเตอรี่ 2,540 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวันแบบไม่ง้อ Powerbank แน่นอนว่าราคาไม่แพงครับ ประมาณ 5,xxx บาท ได้อารมณ์คล้ายใช้งาน LG G3 ราคาประหยัดเลยล่ะ
G4 Stylus
เป็นอีกรุ่นที่เพิ่งวางจำหน่ายไม่นานนี้ LG G4 Stylus อัพเกรดจาก G3 Stylus กับดีไซน์ใหม่ โดยเฉพาะฝาหลังลวดลายเมทัลลิคสวยงาม หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว (HD) พื้นที่แสดงผลกว้างเป็นพิเศษ พร้อมรองรับการใช้งาน Stylus จดบันทึก / วาดภาพบน QuickMemo+ คล้ายกับของ Galaxy Note ชิพประมวลผล Octa-Core 1.4 GHz แรงดีในระดับนึง รองรับวิดีโอ Full HD เล่นเกมกราฟฟิคกลางๆ ได้ ส่วนกล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล มี Laser-AF ช่วยโฟกัสเหมือนกับ LG G3, LG G4 และแบตเตอรี่ 3,000 mAh
G4
เรือธงปัจจุบันของ LG ได้รับคำชื่นชมจากเว็บไอทีหลายสำนัก แม้จะไม่ใช่รุ่นที่สเปคแรงสุด แต่มาพร้อมกับจุดขายหลายอย่าง ทั้งหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว (2K) ปรับปรุงใหม่ แสดงผลสีสัน ความคมชัด ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่นเดียวกับกล้องความละเอียด 16 เมกะพิกเซล คุณภาพระดับ Top 3 มีโหมด Manual ปรับแต่งได้เยอะ ด้านดีไซน์มีความโค้งเล็กน้อย พร้อมฝาหลังแบบเมทัลลิค หรือหนังแท้ ดูดีไปอีกแบบ สำหรับในไทยขายรุ่น 2 ซิม, เมโมรี่ภายใน 32 GB เพิ่มเมการ์ด – ถอดแบตเตอรี่ได้เอง ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งกับราคาที่คาดว่าจะไม่ถึง 20,000 บาทจ้า
Sony
Xperia E4 Dual
รุ่นเล็กสุดของ Sony วางจำหน่ายช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับ Xperia E4 Dual ดีไซน์เล็กกะทัดรัด แต่แพคหน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้วมาแบบเต็มตา ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3GHz + RAM 1GB แรงเร็วในระดับนึง ติดกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD 1080p ตามมาตรฐาน รองรับบริการเสริมของ Sony ครบเครื่อง อย่างไรก็ดี ตัวนี้ไม่รองรับ 4G LTE ครับ แลกกับรองรับ 2 ซิมการ์ด ราคาเลยค่อนข้างถูกสักหน่อย ประมาณ 4,xxx บาท
Xperia C4 Dual
เป็นอีกรุ่นที่วางจำหน่ายมาไม่นานนักครับ พัฒนาต่อจาก Xperia C3 อัดสเปคหนักขึ้น โดย Xperia C4 Dual มีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) แสดงผลคมชัดเต็มตา ติดกล้องหน้า Selfie จุใจ 8 เมกะพิกเซล ด้านสเปคติดจรวดชิพประมวลผล Octa-Core 1.7GHz + RAM 2GB รันบน Android 5.0.2 ทำงานรวดเร็วดีครับ ส่วนกล้องหลักความละเอียด 13 เมกะพิกเซล รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE แถมใช้ 2 ซิมการ์ด ทั้งหมดนี้ราคาไม่ถึง 9,000 บาท ชอบ Selfie มิควรพลาดนะจ๊ะ
Xperia M4 Aqua
มาพร้อมกับ Xperia C4 Dual แต่เป็นสมาร์ทโฟนอีกสไตล์ระดับกลางๆ กับ Xperia M4 Aqua รุ่นนี้กันน้ำได้เหมือนกับตระกูล Xperia Z ขณะที่สเปคมาแบบกลางๆ หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลระดับพอใช้, ชิพประมวลผล Snapragon 615 + RAM 2GB เล่นเกมกราฟฟิคสูงได้ดี ดูวิดีโอ-คลิประดับ Full HD สบาย ถ่ายภาพผ่านกล้องหลักความละเอียด 13 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE และฟีเจอร์ Sony ครบถ้วน
Xperia C5 Ultra
เพิ่งวางจำหน่ายสดๆ ร้อนๆ เลยกับ Sony Xepria C5 Ultra น้องใหม่ที่ไม่ธรรมดา เป็นรุ่นแรกในระดับกลางที่ใส่หน้าจอแบบ Edge-to-Edge แทบจะไร้ขอบมาให้ ขนาด 6.0 นิ้ว สัมผัสประสบการณ์แสดงผลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชิพประมวลผล Octa-Core 1.7GHz + RAM 2 GB พร้อมรองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ดในตัว ที่น่าสนใจมากเลยก็คือกล้องหน้าครับ Selfie กระหน่ำด้วยกล้อง 13 เมกะพิกเซล มีไฟ LED สำหรับถ่ายในที่แสงน้อย เช่นเดียวกับกล้องหลัก ความละเอียดเท่ากัน รุ่นนี้เปิดตัวที่ 12,990 บาทครับ
Xperia M5 Dual
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ภาคต่อของ Xperia M4 Aqua หน้าตาคล้ายของเดิมครับ แต่มีสีสันใหม่ๆ มาให้เลือก โดยเฉพาะสีทองขอบทอง อลังการเว่อร์วังมาก ขอบโลหะขัดเงา หน้าจออัพความละเอียดเป็น Full HD (5.0 นิ้ว) ชิพประมวลผล Mediatek Helio X10 + RAM 3 GB ประสิทธิภาพแรงเร็วสะใจ เทียบเท่า HTC One M9+ เลยล่ะ สำหรับกล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียด 21.5 เมกะพิกเซล, กล้องหน้าความละเอียด 13 เมกะพิกเซล จัดเต็มสุดๆ กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ฯลฯ จะว่าไปเหมือน Xperia Z3 เลยนะเนื่ย
Xperia Z3
รุ่นท็อปของปีก่อน แต่ยังคงน่าสนใจด้วยราคาที่ปรับลงมาพอสมควร Xperia Z3 หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลสวยสด คุณภาพดีที่สุดรุ่นนึงเลยทีเดียว บอดี้ทรงเหลี่ยมขอบโลหะ ผิวหลังกระจกตามสไตล์ Xperia Series ติดกล้อง 20.7 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ 4K , รันบน Android 5.0.2 ทำงานลื่นไหลสุดๆ รองรับ 4G LTE เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม NFC ครบเครื่อง ชิพประมวลผล Snapdragon 801 + RAM 3GB ยังใช้งานได้สบายๆ อีก 1-2 ปีอย่างน้อย ส่วนราคาน่าจะไม่ถึง 20,000 บาทแล้ว และมีโปรโมชั่นของแถมเด็ดๆ ในงานจ้า
HTC
Desire 826
รุ่นระดับกลางของ HTC พัฒนาต่อยอดจาก Desire 820s เดิม อัพเกรดคุณสมบัติสเปคขึ้นหลายอย่าง หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 5.0 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส Sense UI ฟีเจอร์การใช้งานมีครบเครื่อง พร้อมลำโพงคู่ด้านหน้า ดีไซน์หลบมุม สนุกกับการถ่าย Selfie ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 13 เมกะพิกเซล เช่นเดียวกับกล้องด้านหลัง รุ่นนี้รองรับ 4G LTE, เมโมรี่ภายใน 16 GB และแบตเตอรี่ 2,600 mAh น่าจะเพียงพอกับการใช้งานตลอดวัน
Desire Eye
เป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมกับจุดขายหลายอย่างที่ลงตัว ทั้งคุณสมบัติสเปคแรงเร็ว หน้าจอคมชัด พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13 เมกะพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสรุ่นแรก ให้คุณได้ Selfie กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ รุ่นนี้ติดหน้าจอมาให้ 5.2 นิ้ว (ความละเอียด 1920 x 1080) แสดงผลค่อนข้างดี ชิพประมวลผล Snapdragon 801 เช่นเดียวกับเรือธงหลายรุ่น รองรับ 4G LTE รันบน Android 5.0.x ทำงานรวดเร็วดีทีเดียว นอกจากนี้ Desire Eye ยังสามารถกันน้ำภายใต้มาตรฐาน IP58 แบบว่าครบจริงจัง สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ราคาประมาณ 12,xxx บาท
One M9+
รุ่นเรือธงของ HTC ปัจจุบัน อาจจะผิดหวังสักหน่อย ถ้าเน้นสเปคแรงๆ หรือประสิทธิภาพมาก่อน เพราะค่อนข้างจะด้อยกว่าเรือธงค่ายอื่นในตอนนี้ แต่ One M9+ ก็มีจุดขายบางอย่างที่น่าสนใจ ทั้งบอดี้โลหะทั้งตัวเงางาม, ระบบอินเตอร์เฟส Sense 7.0 UI ใช้งานง่ายขึ้น ลูกเล่นมากมาย พร้อมกล้องความละเอียด 20 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE และระบบเสียง Boomsound ลำโพงคู่ด้านหน้ากระหึ่มเช่นเคย นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหน้า ซึ่งใช้แทนปุ่ม Home ได้ด้วย ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงสักหน่อย งานนี้ HTC น่าจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมา
Lenovo
A2010
มีข่าวมาแว่บๆ ว่าน้องเล็กรุ่นล่างของ Lenovo จะมีวางจำหน่ายด้วย รุ่นนี้อาจจะไม่คุ้นหน้าตา แต่มาพร้อมกับสเปคน่าสนใจมากเมื่อเทียบกับราคาครับ หน้าจอ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 1 GHz + RAM 1 GB รันบน Android 5.1 ทำงานรวดเร็วกำลังดี รองรับการใช้งาน 4G LTE + 2 ซิมการ์ด และกล้องความละเอียด 5 เมกะพิกเซล ทั้งหมดนี้คาดว่าจะเปิดตัวด้วยราคาประมาณ 2 พันปลายๆ – 3 พันต้นๆ เหมาะกับผู้ใช้ที่หามือถือ 4G LTE ราคาประหยัดใช้งานครับ
A5000
รุ่นนี้อาจไม่ถูกโปรโมทมากเท่ารุ่นอื่นๆ แต่จัดว่าน่าสอยทีเดียว เพราะเป็นสมาร์ทโฟน Android ราคาประหยัดที่ใส่แบตเตอรี่ความจุถึง 4000 mAh ในตัว เรียกว่าชาร์จรอบเดียวใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ง้อ Powerbank ด้านสเปคอื่นๆ สมราคามากทั้งหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 1 GB รันบน Android 4.4.4 ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD นอกจากนี้ยังรองรับ 2 ซิมการ์ด แต่เรื่อง 3G อาจจะไม่รองรับคลื่น 850 MHz มีข้อจำกัดเท่านี้เอง
A6000
รุ่นนี้น่าจะคุ้นหน้าตากันดี เพราะทำโปรโมชั่นร่วมกับ True Move H กับ Lenovo A6000 (หรือ True Lenovo 4G LTE) ดีไซน์เรียบๆ มาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว, รองรับการใช้งาน 4G LTE ชิพประมวลผล Snapdragon 410 ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานสบายๆ ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล มีระบบเสียง Dolby Mobile ด้วย ตรงนี้คนฟังเพลง – ดูหนังน่าจะชอบครับ ด้านราคาสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ราวๆ 4,xxx บาท และแน่นอนว่ามีโปรโมชั่นเสริมจากเครือข่ายด้วย
A7000 & A7000 Plus
เป็นอีกรุ่นของ Lenovo ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จากราคาเปิดตัวเพียง 5,xxx บาท แต่จัดหนักสเปคหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว (HD) ชิพประมวลผล Octa-Core 1.5 GHz + RAM 2 GB เทียบชั้นมือถือราคาเกือบหมื่นบาท รันบน Android 5.0.2 แถมรองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกด้วย อย่างไรก็ดี รุ่นนี้เมโมรี่ภายในเพียง 8 GB อาจจะน้อยไปหน่อย
ทำให้ Lenovo เตรียมเปิดตัวรุ่นอัพเกรดอย่าง Lenovo A7000 Plus เพิ่มความละเอียดหน้าจอเป็น Full HD (ขนาดเท่าเดิม 5.5 นิ้ว) กับเพิ่มเมโมรี่ภายในเป็น 16 GB คาดว่าราคาจะสูงกว่านิดหน่อย แต่ก็ยังถูกมากอยู่ดี รอลุ้นครับว่าจะมาทันงานหรือเปล่า
P70
ชอบแบตอึด เครื่องเล็ก สเปคงาม ? Lenovo P70 คือคำตอบครับ ด้วยราคาเพียง 6,xxx บาท จะได้มือถือหน้าตาดี จอขนาด 5 นิ้ว (HD), รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด ติดต่องานสะดวกไม่ต้องพกหลายเครื่อง ชิพประมวลผล Octa-Core 1.5 GHz + RAM 2 GB รันบน Android 4.4.4 ทำงานรวดเร็วพอตัว จุดสำคัญเลยอยู่ที่แบตเตอรี่รุ่นนี้ 4,000 mAh ภายใต้บอดี้บางไม่ถึง 10 มม. กล้อง 13 เมกะพิกเซล ถ่ายวิดีโอ FHD ลองมองไว้เป็นตัวเลือกได้เลย
Vibe Shot
รุ่นล่าสุดของ Lenovo ที่วางจำหน่ายไม่นานมานี้ เน้นกล้องแบบเต็มสตรีม ความละเอียดสูง 16 เมกะพิกเซล มีระบบ OIS ป้องกันเลนส์สั่น, แฟลช LED 3 สีเพื่อความเป็นธรรมชาติที่สุด ระบบ IR-Focus คล้ายกับ Laser-AF ของ LG G4 นอกจากนี้ยังมีปุ่มชัตเตอร์กล้อง + ปุ่มสลับโหมด Pro ปรับแต่งค่าได้หลากหลาย ขณะที่สเปคตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (FHD), ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 3 GB, เมโมรี่ภายใน 32 GB และรันบน Android 5.1 มาครบมาก ราคาเพียง 11,990 บาทจ้า
Vibe S1
รุ่นนี้ไม่แน่ใจว่าจะมาทันงานหรือไม่ แต่ถ้าชอบการ Selfie แบบท่ายาก ปรับแต่งได้เยอะ แนะนำว่าควรรอ Vibe S1 ด้วยคุณสมบัติสเปคค่อนข้างโอเคทีเดียว กับหน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิพประมวลผล Octa-Core 1.7 GHz + RAM 3 GB จัดเต็มเลย รุ่นนี้ติดกล้องหน้า 2 ตัว — 8MP+2MP สำหรับการใช้ Effect ปรับแต่งภาพ Selfie ถือว่าเป็นของเล่นใหม่เลยล่ะ เมโมรี่ภายใน 32 GB เพิ่ม microSD ภายนอกได้อีก แต่จะเปิดตัวเท่าไหร่ ต้องรอติดตาม
Vibe P1
มาทดแทนตระกูล P-Series กับ Vibe P1 หน้าตาภูมิฐานเรียบๆ ใช้บอดี้โลหะด้านหลังทั้งหมด หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด ใหญ่เต็มตายิ่งขึ้น, เมโมรี่ภายใน 32 GB เพิ่ม microSD ได้อีก ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB รันบน Android 5.1 ทำงานรวดเร็ว รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด และที่เด็ดจริงๆ แบตเตอรี่ 5,000 mAh ภายใต้บอดี้เท่านี้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ใช้งานได้เต็มวันแบบไม่ง้อ Powerbank หวังว่าจะเปิดตัวไม่แพง
Tab A7-30
แท็บเล็ตระดับล่างหน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว (1024 x 600 พิกเซล) หน้าตาเรียบๆ ขนาดเล็กพกพาสะดวก สำหรับ Lenovo A7-30 มาพร้อมกับชิพประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 1 GB ทำงานเร็วพอใช้ได้บน Android 4.4.2 สามารถใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G / โทรออกได้ ติดกล้องความละเอียด 2 เมกะพิกเซล แบตเตอรี่พอใช้งานได้เต็มวัน เป็นอีกตัวเลือกหากตามหาแท็บเล็ต Android ราคาเบาๆ ใช้งาน สนนราคาประมาณ 3,xxx บาทเท่านั้น
Tab S8-50
อัพงบขึ้นมาอีกหน่อย จะพบกับแท็บเล็ต Lenovo สเปคแรงเร็วกับ Tab S8-50 หน้าจอขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด FHD แสดงผลคมชัดกำลังดี ชิพประมวลผล Intel Z3745 (Quad-Core) ตัวเดียวกับที่ใช้รัน Windows ได้ แต่รุ่นนี้รันบน Android 4.4.4 ครับ รองรับ 4G LTE สามารถใช้ซิมการ์ดโทรออกได้ด้วย ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล ด้วยน้ำหนักเพียง 299 กรัม น่าจะเป็นแท็บเล็ตจอ 8 นิ้วที่ค่อนข้างพกพาง่ายทีเดียว
Huawei
P8
สมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายใหญ่จากเมืองจีน ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูวัสดุพรีเมี่ยม หน้าจอ Full HD 5.2 นิ้ว, RAM 3GB, หน่วยความจำภายในเครื่อง 16 GB เพิ่ม microSD ได้ถึง 128 GB, กล้องหน้า 8 เมกะพิกเซลพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 เมกะพิกเซลที่มีฟีเจอร์การถ่ายภาพได้ดีเยี่ยมในทุกสถานการณ์
P8 max
ถ้าคิดว่า P8 หน้าจอยังเล็กเกินไป Huawei ยังมีเรือธงลำใหญ่ยักษ์อย่าง P8 Max ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่สะใจขึ้นถึง 6.8 นิ้ว ส่วนหน่วยความจำภายในเครื่องก็มาเป็น 64 GB มาด้วยสีทองสุดสวยเข้ากับวัสดุบอดี้ที่ประกอบแบบ Unibody ได้อย่างลงตัว
Ascend G7 Plus
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ถูกใจคนชอบหน้าจอขนาดใหญ่ดีไซน์สวย กับ Huawei G7+ ที่อัพเกรดประสิทธิภาพเพิ่มจาก G7 ขึ้นมา มาด้วยขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว และ CPU เป็นแบบ Octa-core ที่จะมีให้คุณได้เจอตัวจริงในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
Alcatel
OneTouch Flash Plus
สร้างความฮือฮาอยู่พักใหญ่เมื่อเปิดตัวร่วมกับ Lazada สนนราคาสุดช็อคโลกเพียง 4,690 บาท ! กับ Alcatel OnePlus Flash Plus โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) ชิพประมวลผล Octa-Core 1.5 GHz + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็ว รองรับการใช้งานหลากหลายฟังก์ชั่นสบายๆ รันบน Android 4.4.4 กล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล คุณภาพสูงกว่าหลายรุ่นในระดับเดียวกัน เท่านั้นยังไม่พอ ! แบตเตอรี่ยังจัดมาเต็มๆ 3,500 mAh สุดยอดมากครับ
OneTouch Flash 2
รุ่นนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่น่าจะได้เห็นตัวจริงภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ส่งท้ายปี ครับ สำหรับ Alcatel Flash 2 คาดว่าจะมาพร้อมกับดีไซน์รูปแบบใหม่ หน้าจอ FHD ขนาด 5.0 นิ้ว กล้องความละเอียดอย่างน้อย 13 เมกะพิกเซล ชิพประมวลผล Octa-Core ฯลฯ ตรงนี้ต้องรอติดตาม 22 กันยายนนี้อีกครั้ง แน่นอนครับ ราคาเปิดตัวไม่น่าจะสูงนักตามซีรี่ส์ OneTouch Flash รุ่นอื่นๆ
vivo
Y35
รุ่นใหม่ล่าสุดของ vivo ที่วางจำหน่ายปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา vivo Y35 มาทดแทนกลุ่ม Y27 ด้วยคุณสมบัติสเปคที่สูงขึ้น หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว แสดงผลค่อนข้างคมชัดกำลังดี, ชิพประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลบน Android Lollipop ถ่ายภาพผ่านกล้อง 13 เมกะพิกเซล พร้อมกล้องหน้า Selfie 5 เมกะพิกเซล บอดี้ด้านหลังเป็นโลหะ หน้าตาอาจจะคล้ายๆ vivo X3s บางเฉียบ พกพาง่าย
XShot
รุ่นกล้องเทพในตำนาน vivo XShot แบบว่าทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ควรพลาด ค่าตัวเพียง 9,900 บาท ได้กล้องความละเอียด 16 เมกะพิกเซล พร้อมระบบ OIS และปรับแต่งโหมด Manual เช่นเดียวกับกล้องจริง บอดี้ออกแบบสวยงาม ขอบวัสดุโลหะ หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (FHD), แรงเร็วด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 801 + RAM 2 GB เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป รันบน Android 4.4.4 รองรับ 4G LTE / เพิ่ม microSD ภายนอกได้ ได้ข่าวว่าของเหลือน้อยแล้ว อย่าพลาดเลยงานนี้
X5
เป็นอีกรุ่นที่ปรับราคาลงมาเยอะ แต่มองว่างานดีสมราคากับ vivo X5 ดีไซน์บางแค่ 6 มิลนิดๆ บอดี้โลหะ ติดกล้อง 13 เมกะพิกเซล หน้าจอ HD 5.0 นิ้ว ภาพรวมคล้าย X3s มากครับ แต่สเปคดีกว่า ใช้ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB รันบน Android Lollipop ทำงานรวดเร็วดี รองรับการใช้งาน 4G LTE + 2 ซิมการ์ด กับราคาไม่ถึง 10,000 บาท จะลองเก้บไว้เป็นทางเลือกก็ดีเหมือนกัน
X5 Pro
เรือธงโมเดลล่าสุดที่เผยโฉมช่วง 1-2 เดือนก่อนกับ X5 Pro ดีไซน์สวยงามตระการตา ด้วยบอดี้หลังคล้ายกระจก เรียบง่ายแต่สวยงามมาก หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (1920 x 1080) แสดงผลคมชัด เหมาะกับใช้งานมัลติมีเดีย แอพพลิเคชั่นทั่วไป, ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 2 GB ใกล้เคียงกับรุ่น vivo X5 เล่นเกมกราฟฟิคสูงได้สบาย กล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล แพคคู่พร้อมกล้องหน้า 8 เมกะพิกเซล รองรับ 4G LTE แถมใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ส่วนราคา-โปรโมชั่นในงานจะแถมอะไรบ้าง ลองติดตามได้เลย
Asus
Zenfone 2 (ZE500CL)
ตอนนี้รุ่นล่างใหม่ๆ ยังไม่มีออกมา ดังนั้นเพิ่มเงินอีกหน่อยมาลองดูรุ่นนี้กันหน่อย Zenfone 2 (ZE500CL) ดูดีด้วยการออกแบบคล้าย Zenfone 2 รุ่นพี่แต่มีขนาดเล็กกว่า หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว รองรับการใช้งาน 4G LTE / 2 ซิมการ์ด, ชิพประมวลผล Intel Z2560 ตัวเดียวกับ Zenfone 5 + RAM 2 GB เล่นเกมกราฟฟิคดีๆ ได้สบาย ติดกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล ถ่ายภาพลงโซเชี่ยลเก๋ๆ รุ่นนี้สนนราคาที่ประมาณ 5,xxx บาท ถือว่าไม่แพงเลย
Zenfone 2 (ZE550ML)
ขยับขึ้นมาอีกนิด เชื่อว่าคุณคงไม่อยากพลาดรุ่นนี้เหมือนกัน สเปคหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) ดีไซน์โค้งเว้าเข้ากับมือพอดี ฝาหลังดีไซน์ลวดลายสวยงาม ชิพประมวลผล Intel Z3560 + RAM 2 GB พร้อมรันบน Android 5.0.2 ครอบด้วย Zen UI ทำงานได้รวดเร็ว ลูกเล่นเยอะพอตัว รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด และถ่ายภาพผ่านกล้อง 13 เมกะพิกเซล คุณภาพดีทีเดียว หากเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน เคาะราคาที่ 6,xxx บาท ก็สอยกลับบ้านได้แล้ว
Zenfone Selfie
น้องใหม่ล่าสุดซึ่ง Asus ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในช่วงที่ผ่านมากับ Zenfone Selfie รุ่นนี้จัดเต็มสเปคหลายอย่าง แม้หน้าตาจะคล้ายกับ Zenfone 2 พอสมควร แต่ก็มีจุดขายเช่น กล้องหน้าความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ออโต้โฟกัส + มีไฟ LED คล้ายกับ HTC Desire Eye เช่นเดียวกับกล้องหลัง มีความละเอียดเท่ากัน แต่เพิ่มออฟชั่นคือ ระบบ Laser-AF ช่วยโฟกัสได้แม่นยำยิ่งขึ้น , หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัดเต็มตา ชิพประมวลผล Snapdragon 615 + RAM 3 GB แรงกว่าบางรุ่นซะอีก สำหรับโมเดลที่จำหน่ายในไทยเมโมรี่ภายใน 32 GB เรียกว่ามาแบบไม่กั๊กเลยทีเดียว
Zenfone 2 (ZE551ML)
น่าจะเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟน Android ระดับกลางที่มีสเปคสูงมาก หากเทียบกับรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกันแล้วอย่าง Zenfone 2 (ZE551ML) สำหรับตัวเรือธง จัดหนักหน้าจอ FHD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Intel Z3580 รองรับประมวลผลแบบ 64-Bit พร้อม RAM 4 GB ! รันแอพพลิเคชั่น / สลับแอพฯ ไม่มีกระตุก เมโมรี่ภายใน 64 GB แถมเพิ่ม microSD ภายนอกได้อีก ส่วนด้านกล้องเท่ากับรุ่นล่างลงมาครับ ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล และกล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล โหมดการใช้งานเพียบเช่นเคย รุ่นนี้น่าจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ในงาน สนนราคาที่ 11,xxx บาท
ZenPad 7
ปัจจุบันแท็บเล็ตของ Asus ถูกจัดอยู่ในซีรี่ส์เดียวคือ ‘ZenPad’ รอบนี้รุ่นหน้าจอ 7 นิ้ว เริ่มวางจำหน่ายก่อนใคร มาพร้อมกับหน้าจอ IPS HD (1280 x 800) แสดงผลคมชัดเป็นพิเศษ รองรับวิดีโอ / เกมกราฟฟิค HD สบายๆ ชิพประมวลผล Intel X3-3200 รุ่นใหม่ + RAM 2 GB ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Play Store ดนอกจากนี้ยังสามารถใส่ซิมการ์ดใช้ 3G / โทรออกได้เหมือน Fonepad ทุกประการ กล้องใส่มาให้ 5 เมกะพิกเซล กับราคา 5,990 บาท ถือว่าสบายกระเป๋าเงินครับ
Zenpad S 8.0
เรือธงของฝั่งแท็บเล็ตจาก Asus มีให้คุณสัมผัสแน่นอนครับ รุ่นนี้โดดเด่นที่หน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว (ความละเอียด 2048 x 1536) คมชัดเทียบเท่า Retina ของ iPad Mini แต่สีสัน การแสดงผลทำได้อย่างยอดเยี่ยม รองรับการเขียนด้วย Z-Stylus เพื่อจดบันทึก – วาดภาพ, บอดี้โลหะด้านหลัง ลวดลายสวยงามมาก ! รุ่นนี้ใช้ชิพประมวลผล Intel Z3580 + RAM 4 GB สเปคพอๆ กับ Zenfone 2 ตัวบนสุดนั่นเอง ติดกล้อง 8 เมกะพิกเซล ใส่ซิมการ์ด ใช้งาน 4G LTE ครบเครื่อง สนนราคา 10,990 บาท เท่านั้นเอง
Acer
Liquid Z630
ห่างหายจากแวดวงมือถือไปพักใหญ่ กลับมาคราวนี้ Acer ขนของใหม่ที่เปิดตัวในงาน IFA2015 มาเพียบ อย่างรุ่นแรกคือ Liquid Z630 หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ดีไซน์สลิมบางเฉียบ แรงเร็วด้วยชิพประมวลผล Quad-Core 64-Bit + RAM 2 GB รันบน Android 5.1.1 ทำงานรวดเร็ว เมโมรี่ภายใน 32 GB พร้อมแบตเตอรี่ 4,000 mAh โอ้ มันน่าสนใจยิ่งนัก หวังว่าราคาเปิดตัวจะไม่แพงครับ
Liquid Z320
รุ่นราคาประหยัดล่าสุดของ Acer มาพร้อมดีไซน์โค้งเว้า พกพาสะดวก สำหรับ Liquid Z320 ราคาไม่น่าจะเกิน 3,000 บาท กับสเปคหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว, ชิพประมวลผล Quad-Core (Snapdragon 210) + RAM 1 GB รันบน Android 5.1.1 ลงแอพพลิเคชั่นเสริม – ฟังก์ชั่นพื้นฐานมาครบ กล้องหลัก 5 เมกะพิกเซล แต่เสียดายตรงไม่รองรับ 4G LTE ตรงนี้ต้องรอดูรายละเอียดเต็มๆ อีกที
Liquid Z530
เป็นโมเดลลดระดับจาก Z630 แต่ยังคงคุณสมบัติใกล้เคียงกันครับ รุ่นนี้พกหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) ชิพประมวลผล Quad-Core 64-Bit + RAM 2 GB ใกล้เคียงกัน เมโมรีภายใน 16 GB ใส่กล้องหน้า-กล้องหลักมาเท่ากันที่ความละเอียด 8 เมกะพิกเซล งานนี้เอาใจขา Selfie สุดๆ แต่แบตเตอรี่ลดเหลือ 2,420 mAh ก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปครับ อ้อ ! รุ่นนี้รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ดด้วยนะจ๊ะ
Predator 6
หลังจากที่ได้เปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ ในงาน IFA2015 ที่กรุงเบอร์ลินเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาถึงความแรงและดีไซน์ที่ฉีกไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ Acer มาในรูปลักษณ์ดุดันตามสไตล์คอเกมเมอร์ พร้อมสเปคสุดยอด ตั้งแต่ตัว CPU ใช้ MediaTek Helio X20 แบบ deca-core (10 cores) RAM 4 GB และกล้องหลัง 21 เมกะพิกเซล งานนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมาทันขายหรือไม่ แต่ก็มีลุ้นจะได้ลองสัมผัสความแรงของอสูรร้ายจากต่างดาวตัวนี้ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 เป็นครั้งแรก
Predator 8
แท็บเล็ตที่เกิดมาเพื่อนักเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอขนาด 8 นิ้วแบบ Full HD ส่วน CPU เป็นของ intel atom x7-Z8700 รองรับ 64 -bit RAM 2GB หน่วยความจำภายในเครื่อง 64 GB เพิ่มเมมโมรี่ได้ถึง 128 GB รุ่นนี้เปิดตัวมาได้ซักพักและใกล้จะวางจำหน่ายในต่างประเทศเร็วๆ นี้ คาดว่าสำหรับเมืองไทยก็อาจจะมาเปิดตัวในงานนี้ด้วยเช่นกัน
Iconia B1-830
แท็บเล็ตรุ่นล่างจาก Acer ถึงสเปคจะธรรมดาสักหน่อย ชิพประมวลผล Quad-Core 1.7 GHz + RAM 1 GB รันบน Android 5.1.1 กับหน้าจอ HD ขนาด 8.0 นิ้ว แต่ความเด็ดคือคุณสามารถใช้ดินสอกราไฟต์ เขียนบนหน้าจอแท็บเล็ตได้เลย ไม่ต้องใช้ Stylus อะไรทั้งสิ้น เหมาะกับใช้จดบันทึก – วาดภาพแบบง่ายๆ ติดกล้อง 5 เมกะพิกเซล แบตเตอรี่ 4,550 mAh พร้อมมีให้เลือกหลากหลายสีสัน สามารถเป็นเจ้าของในราคา 5,990 บาท ลองเล่นก่อนตัดสินใจซื้อในงานได้เลย
ZTE
Axon
สมาร์ทโฟนเจาะกลุ่มตลาด Mid-range ที่มาพร้อมกับสเปคที่แรงเหลือเชื่อ หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด QHD 1440 x 2560 พร้อมขุมพลัง CPU Snapdragon 810 CPU Octa-core 2GHz, RAM 4 GB, หน่วยความจำภายใน 32 GB แถมกล้องหลังเป็นแบบเลนส์คู่ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และแฟลชคู่ LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพเซลฟี่ได้คมชัดสบายๆ
Nubia Z9 mini
เห็นชื่อเล็กๆ แต่สเปคไม่ได้เล็กตามชื่อ เพราะ Nubia Z9 mini ใช้ CPU เป็น Snapdragon 615, RAM 2 GB, กล้องหลังความละเอียด 16 เมกะพิกเซล, แบตเตอรี่ 2900 mAh, หน้าจอขนาด 5 นิ้ว Full HD พร้อมรองรับ 4G แถมดีไซน์ตัวเครื่องก็ดูสวยงามเรียบหรูและใช้วัสดุที่ดูดีอย่างลงตัว
Meizu
M2 Note
รุ่นเด่นที่น่าจับตามองของแบรนด์ดังจากจีน ด้วยหน้าจอสุดแจ่ม IPS LCD 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ชิป MediaTek MT6753 1.3GHz octa-core, RAM 2GB, กล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล และกล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล, แบตเตอรี่ให้ความจุใหญ่ถึง 3100mAh แต่หนักเพียงแค่ 149 กรัมเท่านั้น ที่คุณจะได้สัมผัสตัวจริงของ Meizu M2 Note เป็นครั้งแรกที่งาน Thailand Mobile Expo 2015
MX5
สมาร์ทโฟนอีกรุ่นจาก Meizu ที่โดดเด่นด้วยการใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแบบ FullHD 1920×1080 ใช้ CPU เป็น MediaTek MT6795 8-core แบบ 64-bit, กล้องด้านหลังความละเอียดสูงถึง 20 เมกะพิกเซลและกล้องด้านหน้า 5 เมกะพิกเซล, RAM 3 GB รองรับ 2 ซิมและ 4G LTE
Wiko
Selfy
สมาร์ทโฟนเน้นชูจุดเด่นในการถ่ายภาพเซลฟี่ จาก Wiko แบรนด์ชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศส กับรุ่นนี้ด้วยกล้องด้านหน้าและด้านหลังความละเอียด 8 เมกะพิกเซลพร้อมแฟลช LED ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, หน้าจอความละเอียด HD ขนาด 4.8 นิ้ว ในราคาสุดคุ้มเพียงแค่ 4,xxx เท่านั้น
Rainbow Jam
เปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ในงาน IFA2015 ที่ผ่านมา กับสมาร์ทโฟน Android 5.1 Lollipop สีสันสดใส หน้าจอ IPS HD ขนาด 5 นิ้ว, CPU แบบ Quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, กล้องด้านหลังความละเอียด 8 เมกะพิกเซล พร้อมแฟลช LED, กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล และรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม
Lenny 2
อีกหนึ่งรุ่นที่ Wiko พึ่งเปิดตัวในงาน IFA2015 กับ Lenny 2 สมาร์ทโฟนขนาดกำลังเหมาะมือด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ตัวเครื่องสีสันสดใสตามสไตล์ของ Wiko มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 5.1 Lollipop, CPU แบบ Quad-core 1.3GHz, RAM 1 GB, ROM 8GB รองรับ microSD ได้สูงสุด 64GB
IMI
Vin 1
สมาร์ทโฟนราคาสุดคุ้มด้วยสเปคของหน้าจอขนาด 5 นิ้วแบบ HD, CPU แบบ Quad-core 1.3 GHz, RAM 1GB, ROM 16GB, กล้องด้านหลังความละเอียด 8 เมกะพิกเซลและกล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล พร้อมรองรับ 2 ซิมแบบ 3G
Lady Top
ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องบางเพียงแค่ 6.3 มิลลิเมตร และขอบเครื่องสีทองดูหรูหรา Lady Top ขนาดหน้าจอกำลังดี 5.0 นิ้ว HD กล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ 8 เมกะพิกเซลที่มีฟีเจอร์การสั่งถ่ายภาพด้วยเสียง/ยิ้ม/ชูนิ้ว ส่วนกล้องหลังความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ระบบปฎิบัติการเป็น Android 5.0 Lollipop ในราคาเพียงแค่ 5,990 บาท
Messi 2 4G
สมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้ว HD รองรับ 2 ซิมและเชื่อมต่อเครือข่าย 4G มีให้เลือก 3 สี กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 เมกะพิกเซลและกลอ้งหลัง 13 เมกะพิกเซล RAM 1GB, ROM 16 GB สามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 64 GB
Messi Top
สมาร์ทโฟนตัวแรงสุดจาก IMI ที่มีจุดเด่นสุดอยู่ตรงกล้องด้านหลังที่ใช้ของ Sony ประกอบด้วยเลนส์ 8 ชั้น เก็บภาพได้ละเอียดสูงสุดถึง 18 เมกะพิกเซล นอกจากนี้ยังมีตัวเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาด้วย CPU แบบ Octa-core ความเร็ว 1.7 GHz RAM 3 GB, Rom 16 GB เพิ่มเมมโมรี่ได้ถึง 128GB สนนราคาแค่ 8,990 บาทเท่านั้น
InFocus
M2 4G
สมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดที่รองรับการใช้งาน 4G ได้ครอบคลุมทั่วโลก หน้าจอขนาด 4.2 นิ้วกระจก Gorilla Glass 3 CPU ใช้เป็น Snapdragon S400 Quad-core 1.2 GHz, ROM 1GB, RAM 8GB และดีไซน์ฝาหลังเป็นลวดลายแบบ Carbon Fiber ที่ดูโฉบเฉี่ยวสวยงาม