ในยุคโลกาภิวัตน์ที่การติดต่อสื่อสารไร้พรมแดนและเต็มไปด้วยบริการต่างๆ ที่รวดเร็วฉับไว ดูเหมือนเราจะต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันเข้ามาอยู่ในแทบทุกอณูของวิถีชีวิตแบบสมัยใหม่ของคนเรา
ในปี 2557 จากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศกว่า 27 ล้านคน โดยใช้งานโดยเฉลี่ย 7.2 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นการใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้าน (ร้อยละ 88) และนิยมเลือกใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับบ้านหรือ Fixed Broadband (ร้อยละ 45) นอกจากนี้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าร้อยละ 70 ยังชอบฟังเพลงออนไลน์ ชมภาพยนตร์หรือวิดีโอคลิป เล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมไปถึงเล่นเกมออนไลน์ด้วย* ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง การมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่บ้านที่สามารถเชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่สะดุดจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยผู้ให้บริการต่างก็ส่งเสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่บ้านให้มีความสะดวกสบายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา การใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัดตามแพคเกจ หรือการใช้อุปกรณ์ต่างๆในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในเวลาเดียวกัน ซึ่งบริการเหล่านี้จะช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องง่ายและไร้ปัญหานั่นเอง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เริ่มสนใจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่บ้าน หรือคุณอาจมีอยู่แล้วแต่อยากเช็คว่าแพคเกจบรอดแบนด์ของคุณนั้นตรงกับความต้องการในการใช้งานจริงๆ หรือเปล่า คุณจึงควรมีความรู้และความเข้าใจว่าตัวเลือกการใช้งานต่างๆ มีอะไรบ้าง แพคเกจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตนั้นค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเร็วในการรับและส่งข้อมูล เทคโนโลยีในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงพื้นที่ที่ให้บริการ
มร. วินเซนต์ ดูดา กรรมการผู้จัดการ เอลลิปส์ โปรเจคส์ (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์โมเด็มและเราเตอร์สำหรับลูกค้าในประเทศไทย ได้แชร์คำถาม 5 ข้อพร้อมแนวคิดที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบ้านของคุณ
1. คุณต้องการบรอดแบนด์ความเร็วสูงจริงหรือ
หากคุณมีคอมพิวเตอร์เพียง 1 เครื่อง และใช้อินเทอร์เน็ตเพียงเพื่อเปิดหน้าเว็บต่างๆ หรือรับส่งอีเมล อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็อาจไม่ได้จำเป็นสำหรับคุณมากนัก แต่หากคุณมีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มากกว่า 1 เครื่อง และชอบใช้งานโปรแกรมที่ต้องรับส่งข้อมูลจำนวนมาก เช่น ดูคลิปวิดีโอ ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมส์ บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ
2. คุณเป็นผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตประเภทใด
จำไว้ว่ายิ่งคุณมีการใช้งานข้อมูลมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลซึ่งวัดหน่วยเป็นเมกะบิต(Mbps) มากขึ้นเท่านั้น
· มือใหม่หัดใช้ – อาจเริ่มด้วยแพคเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานน้อย และราคาก็ไม่สูงมากอีกด้วย ทั้งนี้หากคุณต้องการเปลี่ยนแพคเกจอินเทอร์เน็ตในภายหลัง ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
ความเร็วที่แนะนำ: 5 -10 Mbps
· คอหนังหรือสาวกเกมส์ออนไลน์ – คุณถูกจัดว่าเป็นผู้ใช้งานหนัก เนื่องจากอาจต้องดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือสตรีมซีรีส์ทั้งเรื่อง เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณควรเลือกแพคเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้อย่างไม่จำกัด โดยคุณอาจลองพิจารณาเทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบเคเบิลโมเด็มเพื่อความเร็วที่สูงขึ้น
ความเร็วที่แนะนำ: 10 -20 Mbps
· ครอบครัว – หากสมาชิกในครอบครัวของคุณต่างแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากแหล่งเดียวกัน จึงเป็นการดีกว่าที่จะใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาก โดยหากส่วนใหญ่ที่บ้านของคุณมักใช้โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป หรือคอมพิวเตอร์ในเวลาเดียวกัน ลองนึกภาพว่ามีหนึ่งคนกำลังเล่นเกมส์ออนไลน์ อีกคนกำลังดูซีรี่ส์บนจอคอมพิวเตอร์ แล้วยังมีอีกคนกำลังดาวน์โหลดเพลง ในขณะที่คุณก็กำลังค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์เพื่อวางแผนทริปเที่ยว ในกรณีเช่นนี้แพคเกจความเร็วสูงสุดดูจะเหมาะสมกับการใช้งานที่บ้านคุณมากที่สุด เนื่องจากต้องดาวน์โหลดข้อมูลขนาดมหึมาในเวลาพร้อมๆ กัน
ความเร็วที่แนะนำ: 15 -50 Mbps
3. เทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบใดที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับคุณ
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีในการเข้าถึงบรอดแบนด์ที่บ้านมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ xDSL (copper wire(ADSL, VDSL)ไฟเบอร์(Fiber) และด็อกซิส (DOCSIS)
ADSL จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์ โดยมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 12-15 Mbps ส่วนไฟเบอร์หรือ FTTX จะให้ความเร็วที่สูงมาก แต่ยังให้บริการได้จำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น และด็อกซิส (ย่อมาจาก Data Over Cable Service Interface Specification) คือเทคโนโลยีทางเลือกตรงกลางระหว่าง ADSL และไฟเบอร์ โดยจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่ายสายเคเบิลทีวี และให้ความเร็วสูงสุดได้ถึงเกือบ 200 Mbps
4. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใดที่สามารถให้บริการเทคโนโลยีในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่คุณต้องการได้
ในประเทศไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายรายด้วยกัน โดยในจำนวนนั้นก็มีผู้ที่มีเทคโนโลยีทั้ง 3 อย่างให้คุณได้เลือกสรรด้วย อาทิเช่น ทรู ที่มีแพคเกจราคา 599 บาทสำหรับบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตสำหรับบ้านได้ คุณก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณโดยเปิดใช้ Hot-spot แต่ทั้งนี้การเชื่อมต่ออาจไม่เสถียรเท่าที่ควร
5. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่คุณสนใจ นำเสนอโปรโมชั่นอื่นๆ เช่น ฟรีค่าโทรหรือค่าเคเบิลทีวีให้ด้วยหรือไม่
โดยปกติแล้ว แพคเกจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตมักจะรวมค่าเช่าสายโทรศัพท์ ค่าเคเบิลทีวีหรือดาวเทียม และการให้ยืมใช้โมเด็มและเราเตอร์ นี่จึงอาจช่วยคุณลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้ คุณอาจลองเช็คโปรโมชั่นของทรูออนไลน์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายเดียวในไทยที่มีบริการครอบคลุมทั้งบริการโทรศัพท์มือถือ เคเบิลทีวี และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบสมบูรณ์และครบวงจร
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จาก มร. วินเซนต์ เหล่านี้น่าจะช่วยให้คุณเลือกบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณได้ ทำให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วและไม่สะดุด เราแนะนำให้คุณหาข้อมูลแพคเกจต่างๆ จากบรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ดีควรให้ความสำคัญต่อการมอบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีความเสถียรภาพ ให้แก่บ้านของคุณ และเมื่อคุณตัดสินใจเลือกใช้บริการที่เหมาะสมแล้ว คุณก็จะเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไร้ขีดจำกัดได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ
** บทความนี้จัดทำขึ้นโดย เอลลิปส์ โปรเจคส์ ประเทศไทย ด้วยความตั้งใจที่อยากส่งเสริมคนไทยให้มีวิถีชีวิตที่ไร้กังวลผ่านไอทีโซลูชั่นที่ดีเยี่ยม