LG G4 สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ LG อีกหนึ่งรุ่นซึ่งกำลังเป็นที่ถูกจับตามองในท้องตลาดสมาร์ทโฟนในขณะนี้ เพราะนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกซึ่งเป็นที่น่าสนใจ ด้วยการดีไซน์ในสไตล์หรูหรา มีการใช้วัสดุแบบพรีเมียมแล้ว LG G4 ยังมาพร้อมกับสเป็คที่แรงและค่อนข้างครบในทุกๆด้าน
รวมไปถึงยังมีความโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพ เพราะมาพร้อมกับสเป็คกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F1.8 เซนเซอร์กล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึงร้อยละ 80 และฟังก์ชัน OIS 2.0 ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ง่ายดายยิ่งขึ้นอีกทั้งยังสามารถชดเชยการสั่นไหวของกล้องได้อีกด้วย ในขณะที่กล้องดิจิตอลด้านหน้ามาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซลและฟังก์ชัน Gesture Interval Shot ที่จะสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ง่ายขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นข้อมูลทางด้านสเป็คหรือฮาร์ดแวร์ที่ถูกจัดมาบน LG G4 ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มกันมาเลยทีเดียว และนอกจากสเป็คทีน่าสนใจแล้ว LG G4 ยังมีโหมดการถ่ายภาพแบบ Manual ซึ่งเป็นโหมดการถ่ายภาพที่จะให้อิสระในการปรับค่าการถ่ายภาพต่างๆ สามารถถ่ายภาพได้ตามต้องการ ทำให้ได้ภาพถ่ายในระดับมืออาชีพกันเลยทีเดียว หลายคนอาจสงสัยว่า LG G4 จะสามารถถ่ายภาพลักษณะดังกล่าวนี้ได้อย่างไร วันนี้ลองมาดูเคล็ดลับและเทคนิคการถ่ายภาพจากช่างภาพมืออาชีพ ที่จะมาสาธิตให้ดูว่าจะใช้ LG G4 ถ่ายภาพอย่างไรให้ได้ภาพระดับกล้องโปร ที่ว่านี้
โดยทาง LG ได้สาธิตและแนะนำวิธีการถ่ายภาพในโหมด Manual ผ่านทางคลิปวีดีโอแนะนำเคล็ดลับการถ่ายภาพ ซึ่งนำเสนอผ่านช่างภาพมืออาชีพอย่าง Colby Brown โดยเขาได้แนะนำวิธีการถ่ายภาพในโหมด Manual ที่น่าสนใจและสามารถนำไปปฎิบัติตามกันได้ง่ายๆ ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่าเทคนิคที่ว่านี้จะมีอะไรกันบ้าง
เทคนิคแรกกับการเลือกบันทึกไฟล์ภาพที่ถ่ายให้เป็นไฟล์ภาพคุณภาพสูงหรือ RAW File โดยหลังจากเข้ามาที่โหมด Manual แล้ว จะเห็นได้ว่าทางด้านซ้ายของจอจะมีให้เลือกการจัดเก็บไฟล์ให้เป็น RAW JPG โดยปกติแล้วในโหมดของการถ่ายภาพจะมีการเซ็ทค่าให้เป็นไฟล์ JPG ซึ่งเหมาะสำหรับการเตรียมนำไปแชร์ต่อผ่านทางโซเชียลต่างๆ เนื่องจากจะเป็นไฟล์ที่มีการบีบอัดภาพให้มีขนาดเล็กลงเพื่อความรวดเร็วในการส่งไฟล์
ในขณะที่ไฟล์ภาพแบบ RAW JPG จะเป็นการเก็บรายละเอียดของภาพที่สูงกว่า หรือเรียกได้ว่าเป็นภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูง สามารถเก็บคุณภาพของแสง สี และรายละเอียดต่างๆในภาพได้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ทีต้องการนำภาพถ่ายที่ได้ไปตกแต่งต่อด้วยโปรแกรมทางด้านการตกแต่งภาพต่างๆ เพราะภาพลักษณะดังกล่าวจะสามารถให้ความละเอียดของภาพที่มากกว่านั่นเอง
แน่นอนว่าเมื่อได้มีการบันทึกภาพในแบบ RAW File แล้ว ก็จะทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูง เมื่อนำไปตกแต่งผ่านโปรแกรมการต่างภาพต่างๆจะทำให้ได้เห็นรายละเอียดของภาพชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มความมิติและความน่าสนใจของภาพขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ภาพที่ออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับการถ่ายภาพด้วยกล้องระดับมืออาชีพเลยก็ว่าได้ ลองมาชมภาพที่ถูกถ่ายด้วย LG G4 และเก็บไฟล์ในลักษณะ RAW JPG เปรียบเทียบก่อนและหลังจากการนำไปตกแต่งผ่านโปรแกรมตกแต่งภาพกันเลยดีกว่า ว่าจะมีความสวยงามและแตกต่างอย่างไรบ้าง
จะเห็นได้ว่าแค่เทคนิคการเปลี่ยนการจัดเก็บไฟล์ให้เป็นลักษณะ RAW JPG ก็จะทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดและเหมาะสำหรับการนำมาตกแต่งเป็นอย่างมาก แต่คงต้องบอกกันอย่างหนึ่งว่า ภาพที่เก็บในลักษณะความละเอียดสูง ก็จะต้องแลกมาด้วยขนาดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งข้อควรระวังหากจะใช้เทคนิคนี้ แต่วิธีการแก้ปัญหาก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD card เข้าไป ก็จะสามารถจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ตามที่ต้องการได้แล้ว
ได้เห็นเทคนิคแรกกันไปแล้ว ต่อมาลองมาดูกันที่เทคนิคต่อไป ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่างภาพมืออาชีพหรือผู้ที่ใช้กล้องโปรน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กับการปรับค่าความเร็วของ Shutter Speed ซึ่งวิธีการใช้งาน เพียงแค่เข้าไปที่โหมด Manual จากนั้นจะสังเกตุเห็นสัญญลักษณ์การตั้งค่าต่างๆที่ด้านล่าง ให้เลือกไปที่ สัญญลักษณ์ที่เป็นรูปตัว S ซึ่งจะหมายถึง Shutter Speed
การกำหนด Shutter Speed หรือความเร็วของชัตเตอร์นี้จะเป็นการควบคุมความเร็วในการเปิด ปิดช่องรับแสง โดยความเร็วชัตเตอร์สั้น จะช่วยให้สามารถหยุดภาพเคลื่อนไหวได้ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวเร็ว เช่นการถ่ายภาพนักกีฬา การแข่งรถ การถ่ายภาพเด็ก และสัตว์เลี้ยงที่เคลื่อนไหวเร็วได้ ในขณะที่ความเร็วชัตเตอร์นาน จะทำให้ได้เห็นรายละเอียดในการเคลื่อนไหวของภาพ
ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพน้ำตก ถ้ากำหนดค่า Shutter Speed เป็น 1/2 วินาที ( 0.5 วินาที ) เมื่อถ่ายออกมาจะสามารถจับภาพความละเอียดของละอองน้ำตกได้ดังภาพ
แต่ถ้าหากลองเปลี่ยนการกำหนดค่า Shutter Speed เป็น 1/40 วินาที ( 0.025 วินาที ) ภาพที่ออกมาจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน
โดยเทคนิคในการปรับค่าความเร็ว Shutter Speed นี้ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในสภาวะกลางคืน สภาวะแสงน้อยอีกด้วย เพราะจะช่วยทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นภาพถ่ายยามค่ำคืนกลางเมืองใหญ่ที่มีแสงสีและรถวิ่งไปมา หากต้องการถ่ายภาพลักษณะนี้ให้ดูมีมิติและได้รายละเอียดของภาพมากยิ่งขึ้นก็สามารถตั้งค่า Shutter Speed ไปที่ 1/13 วินาที ภาพที่ได้จะมีตัวอย่างดังนี้
แต่ถ้าหากใครที่อยากได้ภาพรถหรือวัตถุเคลื่อนไหวบนท้องถนนในยามค่ำคืนในแบบภาพด้านล่างกันบ้าง ภาพลักษณะนี้ก็บอกได้เลยว่าไม่จำเป็นต้องพกกล้องดิจิตอลตัวใหญ่ไปเพราะ LG G4 ก็สามารถปรับแต่งค่าเพื่อถ่ายภาพแบบนี้ได้
เพียงแค่อันดับแรกให้ตั้งค่า Shutter Speed ไปที่ 2 วินาที จากนั้นใช้การปรับค่าในส่วนของ ISO เข้ามาช่วยเพื่อลด noise หรือการกระจายเม็ดสีที่ผิดเพี้ยนไปในภาพ โดยสามารถปรับเลือกค่า ISO ไปที่ 100 ดังภาพ
แต่สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการใช้เทคนิค Shutter Speed นั่นก็คือ ในการถ่ายภาพกลางคืนหรือการตั้งค่า Shutter Speed นาน นั้น ควรต้องถือสมาร์ทโฟน LG G4 ให้นิ่งที่สุด หรืออาจใช้ขาตั้งกล้องมาช่วยในการถ่าย ก็จะทำให้ได้ภาพที่สวยงามและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกันหากมือไม่นิ่งอาจทำให้ภาพที่ได้มีลักษณะเบลอก็เป็นได้
และนี่เป็นเพียงเทคนิคส่วนหนึ่งในการถ่ายภาพที่จะทำให้ LG G4 กลายเป็นกล้องดิจิตอลความสามารถสูงระดับมือโปร ที่สามารถพกติดตัวอย่างสะดวกได้ทุกทีทุกเวลา ทำให้ทุกคนสามารถเป็นช่างภาพมืออาชีพและมีภาพสวยๆเก็บได้ดูเล่นกันได้อย่างไม่ยากเลย
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lg.com/th/mobile-phone/lg-H818P
ชมตัวอย่างภาพถ่ายจาก LG G4 ฝีมือของ Colby Brown พร้อมคลิปวีดีโอแนะนำได้ที่ด้านล่าง