แอลจีเปิดตัว LG G4 ที่สุดของสมาร์ทโฟนแห่งปี สัมผัสความยอดเยี่ยมของสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมดีไซน์และประสิทธิภาพที่เหนือระดับ พร้อมให้จองแล้วในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 7-10 พฤษภาคม นี้
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉมสุดยอดสมาร์ทโฟน LG G4 ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “See the Great, Feel the Great” เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ แอลจีได้มุ่งพัฒนา LG G4 ให้มีรูปลักษณ์ที่ทั้งสวยสง่า เอื้อต่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ โดดเด่นด้านการถ่ายภาพและแสดงผล และยังสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้นผู้ใช้เป็นหลัก
คุณนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีมุ่งมั่นเดินตามเป้าหมายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ด้วยการพัฒนาสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย และเน้นการสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่มีความสมดุลในทุกด้าน จนถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาดขณะนี้ เราต้องการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับดีไวซ์ที่ตรงต่อความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง โดยสามารถสร้างความประทับใจได้ทั้งในแง่ความรู้สึกขณะใช้งาน และเทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ กล้องถ่ายรูป จอแสดงผล หรือซอฟต์แวร์ เรียกได้ว่า LG G4 จัดเป็นสมาร์ทโฟนที่เหนือชั้นที่สุดของแอลจี”
LG G4 ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุชั้นยอด กับฝาหลังหนังแท้ทำมือแบบ full grain ที่ผ่านกระบวนการฟอกฝาด (vegetable tanning) มีให้เลือกถึง 4 โทนสี (ดำ, น้ำตาล, แดง, ฟ้า) และยังมีฝาหลังสีขาว Ceramic White ที่โดดเด่นด้วยลวดลายสามมิติ ฝาหลังสีเทา Metallic Gray หล่อหลอมจากฝีมือช่างศิลป์ผู้เชี่ยวชาญ และฝาหลังสีทอง Shiny Gold
LG G4 ได้ถูกออกแบบให้กล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยเลนส์มีรูรับแสงขนาด F1.8 จึงทำให้ LG G4 สามารถถ่ายภาพได้สวยแม้ในสภาพแสงที่ไม่อำนวย จึงช่วยให้เซนเซอร์กล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึงร้อยละ 80 ในขณะที่ฟังก์ชัน OIS 2.0 ยังช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบ OIS+ หนึ่งเท่าตัว จึงสามารถชดเชยการสั่นไหวของกล้องในแนวตั้งและแนวนอนได้มากขึ้นจาก 1 องศาเป็น 2 องศา และยังชดเชยการสั่นไหวในแนวลึก เพื่อให้ภาพถ่ายคมชัดสูงสุด และยังมีคุณสมบัติ Manual Mode ของ LG G4 ช่วยให้สามารถถ่ายภาพอย่างช่างภาพมืออาชีพ โดยสามารถตั้งค่าโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์ ISO การชดเชยปริมาณแสง และการปรับอุณหภูมิแสงสีขาวในทุกๆ ช็อต โดยภาพถ่ายทุกภาพสามารถจัดเก็บได้ทั้งในรูปแบบ RAW และ JPEG เพื่อให้นำไปปรับแต่งได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียดหรือความคมชัด
กล้องหลังของ LG G4 ยังมีระบบ Color Spectrum Sensor (CSS) ซึ่งมีให้ใช้งานในสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก โดยฟังก์ชันนี้ทำให้ภาพถ่ายมีโทนสีที่แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยเซนเซอร์ที่สามารถอ่านค่าสีในระบบ RGB ได้จากแสงในสถานที่นั้นๆ และยังตรวจจับแสงอินฟราเรดที่สะท้อนออกมาจากวัตถุต่างๆ ได้อีกด้วย ระบบ CSS จะนำข้อมูลที่อ่านได้ทั้งหมดนี้มาปรับโทนแสงสีขาวและสีแฟลช เพื่อให้ภาพที่ถ่ายออกมาใกล้เคียงกับโทนสีจริงมากที่สุด จึงกำจัดปัญหา สีแดงเพี้ยนเป็นสีส้มสด หรือสีขาวกลายเป็นสีเหลืองหม่นไปได้อย่างสิ้นเชิง
เพื่อภาพถ่ายเซลฟี่ที่คุณภาพดีเหมือนภาพจากกล้องมืออาชีพ LG G4 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่จับภาพได้ดีทั้งภาพเดี่ยวและภาพกลุ่ม พร้อมฟังก์ชัน Gesture Interval Shot ที่เหนือชั้นกว่าระบบ Gesture Shot ในรุ่นเดิม ด้วยการกำมือสองครั้งหน้ากล้องเป็นสัญญาณให้ถ่ายภาพเซลฟี่ 4 ภาพในเวลา 2 วินาที ให้คุณไม่พลาดทุกช็อตสวยแม้ในสภาพที่ถ่ายรูปได้ไม่สะดวก
LG G4 นับเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลก ที่ใช้หน้าจอ IPS Quantum Display ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ที่ได้รับการพัฒนาให้แสดงสีได้แม่นยำกว่าเดิมถึงร้อยละ 20 สว่างขึ้นถึงร้อยละ 25 และมีระดับคอนทราสท์มากขึ้นร้อยละ 50 จอภาพใหม่นี้ยังเป็นจอความละเอียดระดับ Quad HD รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี Advanced In-Cell Touch (AIT) ซึ่งผนึกรวมส่วนจอแสดงผล LCD และเซนเซอร์ของทัชสกรีนให้รวมกันเป็นชิ้นเดียว ช่วยให้จอสามารถแสดงสีสันได้แม่นยำและไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น จอภาพของ LG G4 ได้ผ่านการตั้งค่าสีตามมาตรฐาน DCI (Digital Cinema Initiatives) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขว้างในกลุ่มสตูดิโอภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดอีกด้วย
LG G4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ พร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 808 จึงทำให้มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานกว่า ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้เต็มวันอย่างไร้กังวล
LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ UX 4.0 ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานจริง มอบความสะดวกสบายใช้งานง่าย จึงรองรับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น
ซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ได้แก่
- ฟีเจอร์ Quick Shot: ถ่ายรูปได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเปิดแอพกล้อง เพียงกดปุ่ม Rear Key ด้านหลังเครื่องสองครั้งโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้งานกล้องได้รวดเร็วพร้อมใช้งานในเวลาเพียง 6/10 ของวินาที
- แอพ Gallery ใหม่: เปิดดูภาพถ่ายจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับการเปิดดูรูปในไทม์ไลน์
- Event Pocket: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมทุกกิจกรรมและการนัดหมายไว้ในปฏิทินเดียว เพียงลากตารางนัดหมายจากปฏิทินและเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่างๆ มาวางรวมกันไว้ที่เดียว
- ฟีเจอร์ Smart Notice: เข้าถึงการแจ้งเตือนสภาพอากาศ การเดินทาง และสาระประโยชน์อีกมากมายด้วยข้อความที่แม่นยำ ตรงต่อสถานการณ์ โดยระบบจะสังเกตและปรับข้อมูลให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้ อาทิ วิธีการเดินทางไปทำงาน เป็นต้น
- ฟีเจอร์ Quick Help: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาคำตอบสำหรับข้อสงสัยในการใช้งาน LG G4 ได้ทันที ผ่านทาง วิดเจ็ท Smart Notice
ข้อมูลทางเทคนิค:
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon™ 808
- จอภาพ: Quad HD IPS Quantum Display ขนาด 5.5 นิ้ว (ความละเอียด 2560×1440 หรือ 538ppi)
- หน่วยความจำ: 32GB eMMC ROM และ 3GB LPDDR3 RAM พร้อมช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด ที่สามารถรองรับไมโครเอสดีการ์ด ได้สูงสุดถึง 128 GB
- กล้อง: กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ F1.8 / OIS 2.0 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ F2.0
- แบตเตอรี่: 3,000mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
- Smart Dual SIM
- ระบบปฏิบัติการ: Android 5.1 Lollipop
- ขนาด: 148.9 x 76.1 x 6.3-9.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 155 กรัม
- เครือข่ายที่รองรับ: 4G / LTE / HSPA+ 21 Mbps (3G)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a, b, g, n, ac / Bluetooth 4.1LE / NFC / USB 2.0
- สี: (หนังแท้) ดำ / น้ำตาล / แดง / ฟ้า
- (เมเทลลิค ดีไซน์) Metallic Gray / ขาว Ceramic White / ทอง Shiny Gold
- อื่นๆ: ถ่ายภาพแบบ Manual Mode / Gesture Interval Shot / Quick Shot
LG G4 พร้อมให้จองแล้ว ในราคา 21,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับรุ่นฝาหลังที่เป็นหนัง และราคา 20,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สำหรับรุ่นฝาหลังเมทัลลิค ดีไซน์ในงาน ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และพิเศษสำหรับลูกค้า 300 ท่านแรกที่จองภายในงาน จะได้รับแบตเตอรี่และชุดชาร์จแบตเตอรี่ มูลค่า 1,500 บาท และลูกค้าลำดับที่ 301-700 ท่าน จะได้รับ Dual USB 16GB และการรับประกันหน้าจอ เปลี่ยนหน้าจอที่เกิดความเสียหายอันเนื่องมากจากอุบัติเหตุ 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันซื้อสินค้า