เมื่อพูดถึงแท็บเล็ตที่สามารถโทรได้ ASUS Fonepad 7(FE170CG) ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาตั้งแต่เปิดตัวในช่วงพฤษภาคมปีที่แล้ว (2557) ด้วยฟังก์ชั่นที่มาครบ ทั้งโทรได้ทั้ง 2 ซิม รองรับ 3G ทุกเครือข่าย ทั้งใช้อินเตอร์เฟสแบบ ZenUI รวมถึงการใช้ชิพ ที่แรงอย่าง Intel Z2520 (Dual) จึงรองรับ Full HD สามารถเล่นเกมกราฟฟิคสูงๆ ได้ดี
ล่าสุดเอซุสได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่คือ ASUS Fonepad 7 รุ่น FE171CG ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2015 โดย Fonepad นี้เป็นแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วเช่นกัน และมีการปรับปรุงพัฒนาฟังก์ชั่นหลายอย่างจากรุ่นก่อน เช่น ดีไซน์ที่บางลงมาก ขอบจอทำด้วยโลหะ กล้องที่มีความละเอียดสูงขึ้นถึง 5 ล้านพิกเซล และหน้าจอแบบ IPS ซึ่งทำให้ FE171CG มีความล้ำหน้ากว่ารุ่นก่อน
มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับ Fonepad 7 นี้เราได้มีการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ให้มีขนาดบางและเบาลงกว่า Fonepad 7 รุ่นก่อน (FE170CG) ทำให้จับได้ถนัดในมือเดียวเพื่อความสะดวกในการพกพา นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรูปให้คมชัดสมจริงยิ่งขึ้น และสามารถมองได้ชัด 178 องศาด้วย”
สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือดีไซน์ ที่มีการออกแบบให้บางและเบา ด้วยความหนาเพียง 7.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 280 กรัม นั่นคือบางลงถึง 2.8 มิลลิเมตร และเบาลง 10 กรัม ขอบจอบาง เพียง 9.24 มิลลิเมตร ช่วยลดขนาดของตัว Fonepad 7 ให้เหมาะมือ บาง และเบา สะดวกในการพกพา และตัวเครื่องยังใช้วัสดุพิเศษทำให้ Fonepad 7 สะดวกต่อการจับด้วยมือเดียว ไม่ลื่นหลุดมือ
ด้วยขอบจอที่บางลง ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าจอให้หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อความบันเทิงเต็มรูปแบบ ขอบจอทำด้วยโลหะ ใช้เทคโนโลยี non-conductive vacuum metallization (NCVM) เพื่อความมีสไตล์ อีกทั้งยังมีชั้นเคลือบหน้าจอเพื่อป้องกันลายนิ้วมือเวลาสัมผัสด้วย
นอกจากนี้ ความละเอียดของกล้องยังมากขึ้นเพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะถ่ายภาพคน ภาพวิว หรือเซลฟี่ตัวเอง จากเดิมกล้องหลังมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด VGA มาเป็น กล้องหลังความละเอียดสูงสุดถึง 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
กล้องหลังของ FE171CG ซึ่งมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลนี้ มีระบบตรวจจับใบหน้าแบบออโต้โฟกัส เพื่อให้รูปมีคุณภาพ เห็นดีเทลของภาพถ่ายในวันสำคัญได้อย่างชัดเจน รูรับแสงขนาด f/2.41 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเลนส์ ให้ได้ภาพที่สวยงามในระดับความสว่างที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังเป็นแท็บเล็ตโทรได้รุ่นแรกของเอซุสที่มีเทคโนโลยี Blue Glass Optical Filter ที่ลดการกระจายแสงและแสงอื่นๆ ที่มารบกวนภาพถ่าย ทำให้ได้ภาพที่สดใส มีสีสันตามจริง ลดปัญหาสีเพี้ยน
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีระบบตรวจจับใบหน้าเช่นกัน เหมาะมากในการสนทนาแบบ video call นอกจากนี้ Fonepad 7 ยังเป็นแท็บเล็ตโทรได้แบบแรก ที่มีฟีเจอร์ ASUS PixelMaster Low Light mode ช่วยให้ภาพมีความคมชัด สว่างชัดเจนแม้ในที่แสงน้อย โดยกล้องยังเพิ่มความไวแสงสูงถึง 400% จึงได้ภาพและวิดีโอที่สว่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้แฟลช
หน้าจอ IPS ขนาด 7 นิ้ว ได้สีตามจริง และเพิ่มความสดของสี เพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพเหนือชั้น สามารถมองเห็นในมุมกว้างมากถึง 178 องศา ทำให้ผู้ใช้สามารถดูหน้าจอได้พร้อมกับคนข้างๆ ด้วยเทคโนโลยี ASUS TruVivid ที่หน้าจอที่เป็นชั้นบางๆ ช่วยลดลดความหนาและน้ำหนัก พร้อมทั้งเพิ่มความโปร่งแสงมากกว่าหน้าจอทัชสกรีนทั่วไป จึงมีความสว่าง สีสันชัดเจนไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ทำให้ภาพยนตร์ รูปภาพ และแอพพลิเคชั่นที่ดูผ่านหน้าจอแบบ IPS น่ารับชมมากยิ่งขึ้น
FE171CG นี้ ใช้หน่วยประมวลผล Intel® Atom™processor Z2520 dual-core มีความจุ แรม 1 GB และความจำเครื่อง 8 GB ยังถูกออกแบบให้รองรับซิมการ์ดภายในเครื่องได้ 2 ซิม และ standby ในโทรศัพท์แบบ 3G การรองรับซิมการ์ดได้ 2 ซิม ทำให้ Fonepad 7 สะดวกต่อการพกพาไปเที่ยวหรือติดต่อทางธุรกิจ ทำให้ผู้ใช้สามารถมี 2 เบอร์ไว้รับสาย และติดต่อได้กับทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
แบตเตอรี่ 4000 mAh ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นกว่ารุ่นก่อน รองรับการใช้งานประมาณ 11 ชั่วโมงครึ่ง และคุย 3G ได้ถึง 34 ชั่วโมง อีกสิ่งหนึ่งสิ่งที่แตกต่างออกไปจากรุ่นก่อนคือ รุ่น FE171CG นี้ มาพร้อมระบบปฏิบัติการที่อัพเกรดเป็น Android™ 4.4 (KitKat) ในขณะที่ FE170CG ใช้ระบบ Android 4.3 Jelly Bean แต่ก็สามารถอัพเป็น Android 4.4 ได้เช่นกัน
Fonepad 7 มีให้เลือก 4 สีด้วยกันคือ สีดำ สีขาว สีทอง และสีแดง ปัจจุบันมีวางจำหน่ายสีดำและสีขาวแล้วในราคาเพียง 4,190 บาท